ฝ่ายบัญชี/ยักยอกทรัพย์
ฉันเป็นพนักงานคนหนึ่งที่ทำบัญชีไม่รอบคอบ และไม่คิดว่านายจ้างจะเป็นคนแบบนี้ จึงโดนฟ้องว่ายักยอกทรัพย์ และตอนขึ้นศาลทนายบอกให้ฉันยินยอมชดใช้ทั้งหมดแบบผ่อนจ่าย โดยแม่ขายที่นาต่างจังหวัดไร่ละ 10000 .- มาจ่ายเป็นเงิน 50000.- และให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 2500.- เป็นเวลา 1 ปี และต่อไปให้จ่ายเดือนละ 4000.- แต่ตอนนี้ ฉันช๊อตจริง ๆ จึงไม่ได้จ่ายเข้าเดือนที่ 2 แล้ว เค้าบอกจะฟ้องศาล และดิฉันจะต้องทำยังไงค่ะ จะติดคุกเลยหรือปล่าวค่ะ เพราะช่วงนี้ฉันไม่มีเงินจริง ๆ จะขอผลัดเค้าก็ไม่ยอม ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ เครียดมากค่ะ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
การที่คุณได้ทำความตกลงในการยินยอมชดใช้ แบบผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนตามจำนวนที่ตกลงกัน จึงเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมชดใช้หนี้ให้แก่นายจ้างของคุณ ตามจำนวนที่เกิดความเสียหายแก่นายจ้างของคุณ ในฐานะที่คุณเป็นพนักงานบัญชี ซึ่งโดยหลักแล้ว หากคุณโดนฟ้องคดีอาญาความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งตาม ป.อ. มาตรา 341 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งความผิดฐานยักยอกทรัพย์ดังกล่าวนั้น เป็นความผิดอันยอมความ ได้ ตาม ป.อ. มาตรา 348 เพราะฉะนั้นทางที่ดีคุณก็ควรผลัดผ่อนนายจ้างของคุณไปอีกที ในเมื่อคุณก็ไม่มีเงินชดใช้โดยการผ่อนชำระเป็นรายเดือนนั้น หากนายจ้างเขาไม่ยินยอม เขาก็ต้องฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายตามสัญญาประนีประนอมที่คุณตกลงชดใช้นั้น หรือ เขาอาจฟ้องคดีอาญาฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งมีความผิดทางอาญาแล้วแต่ว่านายจ้างเขาจะฟ้องบังคับคุณให้ชดใช้หรือไม่
ส่วนตัวนายจ้างเขาฟ้องคดีอาญาในข้อหาความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 341 ไม่ใช่ว่าคุณจะติดคุกทันที ศาลก็ต้องพิจารณาดูพฤติการณ์การกระทำของคุณก่อน เพราะอย่างที่ว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัวหรือยอมความกันได้ หากคุณตกลงที่จะขอผัดผ่อนต่อนายจ้างได้ ก็จะเป็นประโยชน์แก่คุณไม่ต้องติดคุก โดยคุณมีสิทธิที่จะเสนอถึงสภาพทางการเงินของคุณต่อศาลตามความเป็นจริง เพื่อขอความเมตตาจากศาล หากคุณถุกฟ้องคดีอาญาเพื่อศาลจะได้พิจารณาจากการที่คุณได้ทำสัญญายอมชดใช้กับนายจ้าง
ของคุณนั้น จึงไม่ใช่ว่าคุณจะติดคุกเสมอไป
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 348 ความผิดในหมวดนี้ นอกจากความผิดตามมาตรา ๓๔๓ เป็นความผิดอันยอมความได้