ไฟแนนซ์เรียกเก็บค่าทวงถามค่างวดรถเกินจริง
ผมใคร่ขอคำแนะนำในแง่กฏหมายว่าสำหรับการทวงถามค่างวดรถ ดังนี้ครับ ปกติ ผมส่งค่างวดรถยนต์เดือนละ 8241 บาท ทุกวันที่ 5 ของเดือน(อีก 5 งวดก็หมดแล้ว) แต่บางเดือนเกิดลืม ทำให้จ่ายล่าช้า 3 วัน 5 วัน (ผมส่งค่างวดปกติมาตลอด) แต่พบว่ามีจม.ทวงถามมา และมีค่าติดตามทวงถามจำนวน 200บาท ซึ่งผมว่ามันไม่ยุติธรรม สำหรับลูกค้าเพราะว่า
1. ไม่มีการโทรมาติดตามทวงถาม เพื่อเตือนให้ลูกค้าทราบว่าใกล้ครบกำหนดชำระ
2. มีการทวงถามทาง จม. ฉบับเดียวเท่านั้น
ทั้งหมดคิดค่าทวงถาม 200 บาท ผมว่ามันไม่ยุติธรรมครับ (เงินผมมีจ่ายแต่ผมว่าเอาเปรียบเกินไปครับ และโดยเจตนาก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะหนี้การชำระอยู่แล้ว เพียงแต่ลูกค้าและคนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป ทำงานจนบางครั้งลืมบ้าง บางครั้งใบแจ้งค่างวดมาช้าบ้าง ครับ) ทั้งนี้สำหรับค่าดอกเบี้ยที่เลยกำหนด ผมยินดีจ่ายครับ เพราะผมก็รับผิดชอบในความบกพร่องของผม ผมปรึกษาอาจารย์ว่า มีวิธี คำแนะนำ หรือช่องว่างที่จะคุยกับทีมเร่งรัดหนี้ของ พวก finance ไหมครับ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
วิธีการเจรจาต่อรองค่าทวงหนี้ที่เกินสมควร
1. ให้เจรจากับพนักงานทวงหนี้ของไฟแนนซ์ขอให้ยกเลิกค่าติดตามทวงถามหนี้ เพราะไม่ได้มีการทวงถามจริง
2. กรณีนี้ลูกค้าค้างชำระ แค่ 3-5 วัน ไม่เกิน 7 วัน หลังจากครบกำหนดชำระหนี้ ไม่น่าจะมีการคิดค่าทวงถาม 200 บาท
3. การเรียกค่าทวงถามหนี้ ตามแนวปฏิบัติในการทวงถามหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ต้องเป็นค่าใช้จ่ายตามสมควรที่เหมาะสมและจ่ายไปจริงในค่าทวงถาม จำนวน 200 บาท เพราะเป็นเพียงการส่งจดหมายที่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ต้องส่งให้กับลูกหนี้ ตามปกติอยู่แล้วจึงได้น่าจะมีค่าใช้จ่ายในการทวงถามตามที่เรียกมา
4. โดยสรุปในฐานะที่เป็นอาจารย์ผู้บรรยายเทคนิคการทวงหนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ติดตามหนี้ของสถาบันการเงิน ซึ่งเห็นว่าควรเจรจากับเจ้าหน้าที่ของไฟแนนซ์เน้นหาข้อยุติ เชื่อว่าตกลงกันได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์ พ.ศ. 2543 ข้อ 3 (8) ระบุอย่างชัดเจนว่า ค่าใช้จ่ายที่ผู้ให้เช่าซื้อจะเรียกจากผู้ให้เช่าซื้อได้ต้อง "เพียงเท่าที่ผู้ให้เช่าซื้อได้ใช้จ่ายไปจริง เพื่อการดังกล่าวตามความจำเป็นและมีเหตุผลอันควร"