ทนายคลายทุกข์ขอนำเรื่องร้องทุกข์ของผู้ใช้บริการฟิตเนส

บทความวันที่ 16 พ.ย. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1363 ครั้ง

บัตรเครดิตกับฟิตเนส

            ทนายคลายทุกข์ขอนำเรื่องร้องทุกข์ของผู้ใช้บริการฟิตเนสที่ต้องการนำมาเผยแพร่เรื่องของตนเองเพื่อเป็นอุทาหรณ์เรื่องฟิตเนสว่า ดิฉันอายุ 39ปี ดิฉันไม่สบายมาประมาณ 4 เดือนที่เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล โดยยังหาสาเหตุไม่ได้ มีแต่หัวใจเต้นไว หน้ามืดบ้านหมุน  เป็นลมวูบหรือบ้างท่านอาจจะเรียกว่าลมชักก็ได้ และความดันสูง ดิฉันอยากขอคำแนะนำเนื่องจากเหตุดังกล่าว  ทำให้ดิฉันหลวมตัวไปเซ็นต์สัญญากับแคริฟอเนีย  เพื่อใช้ออกกำลังกายและยังหลวมตัวไปซื้อบริการเทรนเนอร์ของศูนย์ดังกล่าว  ซึ่งดิฉันทำไปด้วยอาการงง  คิดไม่ทันเพราะตัวเองซึมๆ กับการป่วย
           ประมาณวันที่20/9/52 ได้ใช้บริการครั้งแรกประมาณ 2 หรือ 3 วัน(เหตุที่ไม่แน่ในวันที่เนื่องจากดิฉันจำเหตุการณ์ลงลึกมากไม่ได้ จากอาการป่วย) แล้วเป็นลมไป ไม่ได้รับการดูแลจากศูนย์ทั้งสิ้น จนที่ลูกชายโทรตามที่บ้านมารับกลับไปหาหมอ  ซึ่งลูกชายดิฉันบอกว่าดิฉันเป็นลมและมีอาการเกร็งต้องช่วยแม่บีบนวดตลอด หมอสั่งให้งดออกกำลังกาย โดยบอกในใบรับรองแพทย์ฉบับแรกว่า เป็นลมชักบ้านหมุน งดออกกำลังกาย2-6 เดือน หรือบางคนอาจถึง 1 ปี ดิฉันก็ได้ติดต่อเทรนเนอร์ว่าจะเอาอย่างไรดี ปรากฏไม่รับสาย และไม่โทรกลับจนทุกวันนี้
          ต่อมา วันที่2/10/52 ดิฉันจึงมีจดหมายไปยังบัตรเครดิตขอระงับยอดจำนวน2 ยอดของแคริฟอเนีย ซึ่งดิฉันกำลังเจรจากับสำนักงานใหญ่เพื่อขอยกเลิกเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ได้บอกกล่าวไว้ และขอยกเลิกบัตรเครดิตใบนั้นไปเลย  ดิฉันได้รับคำตอบจากแบงค์ว่าจะตั้งพักไว้ให้ก่อน  แต่ทางแคริฟอเนียบอกว่า ไม่สามารถยกเลิกได้  เขาก็พยายามตั้งเบิกกับแบงค์ และขอให้ดิฉันมีใบรับรองแพทย์ที่บอกว่าให้งดออกกำลังกาย
          ต่อมาเมื่อดิฉันเข้ารพ.อีกดิฉันก็ให้หมอออกใบรับรองให้อีกครั้งคราวนี้หมอเขียนว่า มีอาการบ้านหมุน ให้งดออกกำลังกาย ดิฉันก็ส่งให้แคริฟอเนียอีกเขาก็ไม่ยอมอีก  และเวลาเดียวกันดิฉันก็คุยกับแบงค์พร้อมกับวุปเปอร์ไวเซอร์ของแคริฟอเนีย 3 สายพร้อมกันเขาแจ้งว่าจะต้องให้หมอระบุว่าเป็นโรคร้ายแรงอย่างไร ดิฉันจึงถามเขาว่าจะเอาประวัติไปดูน่าจะเป็นการดีกว่าว่าดิฉันมีอาการที่ต้องรักษาอย่างไรบ้าง เขาก็ไม่เอาบอกว่าดูไม่เป็น ให้หมอเขียนมาเองประมาณว่าเป็นโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจซึ่งตอนนี้เขาอนุญาติให้พักได้3 เดือนก่อน(ไม่ทราบว่าเขาทำหลักฐานส่งถึงกันหรือไม่)
          ซึ่งตอนนี้ตัวดิฉันเองได้รับใบแจ้งหนี้จากธนาคารว่าเป็นหนี้ยอดเงิน  ซึ่งมียอดค่าเทรนเนอร์ยอดเต็มกับยอดผ่อนชำระเดือนแรกของแคริฟอเนีย  ดิฉันงงจึงโทรถามแบงค์บอกว่าให้ดิฉันชำระเฉพาะค่าอื่นๆ ก่อน  ของแคริฟอเนียมีการตั้งพักเรื่องไว้ไม่ต้องชำระเข้าไป ไว้รอใบรับรองแพทย์ก่อน ซึ่งดิฉันเองได้ถูกส่งตัวไปตรวจที่สถาบันแพทย์หมอให้ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองในปลายเดือน10 และ วันที่9/11 ดิฉันมีนัดหมอฟังผล แต่ปรากฏว่าผลไม่ออกหมอ  จึงนัดใหม่วันที่ 8/12 และให้เจอหมอด้านประสาทวิทยาเพื่ออ่านผลเลย  ซึ่งการตรวจครั้งนี้เป็นการตรวจโดยอาจารย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จึงต้องเป็นตามขั้นตอนไม่เหมือนเอกชน และเดือนนี้ดิฉันได้รับใบแจ้งหนี้ยอดเต็มทั้ง 2 ยอดไม่มีการให้ผ่อนชำระเหมือนในสัญญาจากธนาคารและรวมดอกเบี้ยที่เสมือนว่าดิฉันชำระบางส่วนเมื่อเดือนที่แล้ว  ทั้งที่ดิฉันชำระเต็มยอดยกเว้นของแคริฟอเนียเท่านั้น
          ดิฉันคิดว่าดิฉันคงต้องชำระเข้าไปก่อนเพื่อรักษาเครดิตตนเองไว้ แต่กับแคริฟอเนียดิฉันควรทำอย่างไรค่ะ ทุกวันนี้ได้รับการติดต่อจากแคริฟอเนีย เพื่อขายคอร์สการออกกำลังกายเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยมีที่เขาจะแจ้งใดใดทั้งสิ้น ดิฉันได้แจ้งสคบ.พร้อมหลักฐานทั้งหมดซึ่งจริงๆ แล้วสคบ.บอกว่าดิฉันไม่ควรจ่ายให้แบงค์เพราะดิฉันแจ้งระงับไปก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีความคืบหน้าใดใด เพราะแคริฟอเนียไม่ยอมเข้ามาเจรจา สคบ.เชียงใหม่ต้องส่งเรื่องเข้ากทม.ซึ่งไม่ทราบว่าส่งหรือยัง  เพราะโทรไปถามก็บอกให้รอก่อน ดิฉันจึงไม่ทราบจะทำอย่างไรจึงเรียนขอคำแนะนำจากอาจารย์ชี้ทางให้ดิฉันด้วยค่ะ

คำแนะนำทนายคลายทุกข์
           ท่านควรทำหนังสือยกเลิกสัญญาและทำเรื่องเสธการจ่ายเงินไปที่ธนาคารพร้อมทั้งแนบใบรับรองแพทย์ที่วินิจฉัยโรคของท่านไปด้วย  เพื่อให้ฟิตเนสทราบเหตุผลในการยกเลิกสัญญา  หากฟิตเนสหรือธนาคารไม่ยอม  ท่านอาจต้องฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคต่อไป