ออกหมายจับทุบหุ้นผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวจาก www.matichon.co.th ที่นำเสนอเกี่ยวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กำลังรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวการปล่อยข่าวทุบหุ้น จนทำให้มีการแห่เทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจนราคาตกต่ำ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งตัวการในการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
รายละเอียดรายงานข่าว
ตร.เล็งขอศาลฯอนุมัติหมายจับ 4-5 ตัวการ ปล่อยข่าว"อัปมงคล"ทุบหุ้น ประเดิมใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานกระจายข้อมูลเท็จ เกิดความเสียหายต่อความมั่นคง ปชช.ตื่นตระหนก อธิบดี"ดีเอสไอ"สั่งสำนักคดีการเงินฯ คุ้ยกลุ่มบุคคลต้องสงสัยได้ประโยชน์จากราคาขึ้น-ลง
รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แจ้งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ว่า พนักงานสอบสวนคดีกลุ่มบุคคลปล่อยข่าวลืออันกระทบกระเทือนจิตใจคนไทย กระทั่งทำให้มีการแห่เทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจนราคาตกต่ำ เตรียมนำสำนวนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 4-5 คน ในวันที่ 29 ตุลาคม ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
สำหรับการเอาผิดเรื่องการได้ประโยชน์จากการทุบหุ้นปั่นหุ้น ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในส่วนของ ตร.จะดำเนินคดีในส่วนของผู้ที่ปล่อยข่าวลวงอันเป็นเท็จและไม่เป็นมงคล
ขณะที่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวกรณีนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรห เสนอให้ใช้กฎหมาย ปปง.ตรวจสอบความโยงใยเรื่องการปล่อยข่าวทุบหุ้นนั้น ยังไม่ได้รับการประสานข้อมูลจาก ก.ล.ต.และดีเอสไอ เพื่อให้เข้าร่วมตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงิน เรื่องนี้เชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเนื่องจากประเด็นค่อนข้างละเอียดอ่อน จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลเพียงพอ จึงจะส่งเรื่องให้ ปปง.ร่วมขยายผลเพิ่มต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้สำนักคดีการเงินและการธนาคาร ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจาก ก.ล.ต.ซึ่งต้องวิเคราะห์กลุ่มบุคคลต้องสงสัย รวมทั้งกราฟตารางการซื้อขายของ ก.ล.ต. และบันทึกการซื้อขายในช่วงวันที่ 14 ถึง 16 ตุลาคม ว่าเชื่อมโยงกับกระแสข่าวหรือไม่
ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.matichon.co.th