ตำรวจแจ้งข้อหา 3เด็กเชียร์แขกคาราโอเกะโหด
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2552 อ.เดชา กิตตวิทยานันท์ ได้ให้สัมภาษณ์ 94 EFM รายการฟังหูไว้หู โดยดีเจเชา เชา และดีเจโป้ง เกี่ยวกับ คาราโอเกะโหด ว่ามีความผิดตามกฎหมายและมีโทษอย่างไร ท่านใดสนใจหรือต้องการทราบว่า จุดจบของร้านคาราฏโอเกะโหดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถเข้าไปฟังคลิปเสียงที่ www.decha.com หรือคลิก http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=5094 ส่วนวันนี้นำความคืบหน้าคดีคาราโอเกะโหด มานำเสนอเพราะตำรวจแจ้งข้อหา 3 เด็กเชียร์แขก "เมโลดี้ คาราโอเกะ" กรรโชกทรัพย์เหยื่อ ร.ต.ต. พร้อมแจ้งข้อหาผจก.ร้านเปิดสถานบริการโดยไม่มีใบอนุญาต ด้าน สคบ.ยันพร้อมช่วยผู้เสียหายฟ้องแพ่ง ระบุเรื่องการขายเกินราคาเป็นหน้าที่ของกรมการค้าภายใน
รายละเอียดรายงานข่าว
ความคืบหน้าคดีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับร้านเมโลดี้ คาราโอเกะ ในข้อหากรรโชกทรัพย์-กักขังหน่วงเหนี่ยว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ ผกก.สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนายธนากร ไปป่า อายุ 27 ปี นายอำไพ นามนัย อายุ 22 ปี และน.ส.รัชนี ดัสดีทอง พนักงานเชียร์แขกของร้านเมโลดี้ มาสอบปากคำเมื่อคืนนี้ โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยอมรับว่าเข้าไปรุมล้อมผู้เสียหายจริง แต่ไม่รับว่าเป็นการกรรโชกทรัพย์
อย่างไรตาม พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่วนเรื่องสถานบริการพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนายอภิเชษฐ์ ทวีลาภ อายุ 34 ปี ผู้จัดการร้าน อยู่บ้านเลขที่ 123/73 หมู่ 4 แขวงคลองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง มาสอบปากคำถึงใบอนุญาต ผู้จัดการร้านยอมรับว่าที่ร้านไม่มีใบอนุญาต พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่มีใบอนุญาต พร้อมกับจะส่งฟ้องศาลในคดีไม่มีใบอนุญาตในวันนี้ด้วย
พ.ต.อ.กิตติคุณ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนมาโดยตลอด จะมีส่วนเกี่ยวข้องที่ตำรวจจัดการได้แค่ 2 เรื่อง คือ ใบอนุญาต และข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ในส่วนที่เหลือทางตำรวจไม่สามารถจัดการได้ ก็ทำเรื่องส่งไปที่ บก.น.2 และ ปคบ. รวมทั้ง สคบ. ให้มาตรวจสอบเรื่องที่ร้านขายอาหารเกินราคาแล้ว
ส่วนที่มีชื่อ น.ส.ปัทมารัตน์ ขจรประศาสน์ ลูกสาวของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับทางร้านหรือไม่นั้น พ.ต.อ.กิตติคุณ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เท่าที่ตรวจสอบพบว่าร้านนี้จดทะเบียนในชื่อของนายสัมฤทธิ์ ประโพธิเทติ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ 3 ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เท่านั้น
ด้านนายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้อำนวยการส่วนขายตรงและการตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สคบ.กำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่ผู้เสียหายนำมาร้องเรียนต่อ สคบ.จากนั้นจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการ สคบ.เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ในการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ สคบ.จะมีการเชิญผู้เสียหาย เจ้าของร้านคาราโอเกะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีทั้งตัวแทนจากกรมการค้าภายใน และตัวแทนจาก สตช.ร่วมพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ หากสามารถตกลงกันได้ทุกอย่างก็ยุติในชั้นคณะอนุกรรมการ หากไม่สามารถยินยอมกันได้ คณะอนุกรรมการจะสรุปเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บอร์ด สคบ.มีมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบที่จะรับเรื่องส่งฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายตามที่ผู้เสียหายต้องการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คาดว่าภายในสัปดาห์คณะอนุกรรมการคงจะมีการประชุมพิจารณาได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของร้านคาราโอเกะต่างๆ ที่เปิดในลักษณะเดียวกับร้านเมโลดี้คาราโอเกะ สคบ.มีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบดำเนินการเป็นการป้องกันไว้ก่อนได้หรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า การเข้าไปตรวจสอบเกี่ยวกับการขายสินค้าเกินราคาความจริงนั้น เป็นอำนาจของกรมการค้าภายใน ที่จะเป็นผู้ตรวจสอบว่าการตั้งราคาสินค้านั้นอยู่ในบัญชีแนบท้ายของประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและค่าบริการ พ.ศ.2551 หรือไม่
"หากไม่เป็นไปตามบัญชีแนบท้ายของประกาศดังกล่าว กรมการค้าภายในก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนของ สคบ.จะมีอำนาจเข้าไปเกี่ยวข้องได้ในส่วนของผู้บริโภคที่เห็นถูกเรียกเก็บราคาสินค้าไม่เป็นธรรม และมาร้องเรียนต่อ สคบ.จึงจะเข้าไปดำเนินการได้ในส่วนเฉพาะของทางแพ่งเท่านั้น" นายสุวิทย์ กล่าว
วันเดียวกัน นายประยูร พงษ์ประยูร อายุ 40 ปี ผู้จัดการแผนกธุรการ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน เข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.ประกอบ อินทร์เกศ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของร้านเมโลดี้ว่าคิดเงินแพงเกินกว่าเหตุ
นายประยูร กล่าวว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนกับน้องชายได้ไปที่ร้านดังกล่าว เมื่อไปถึงมีพนักงานต้อนรับของร้านพาขึ้นไปที่ห้องวีไอพี บนชั้น 2 จากนั้นได้สั่งสุรา 1 ขวด และมิกเซอร์ รวมทั้งเรียกเด็กนั่งดริงก์มานั่งเป็นเพื่อน 2 คน และสั่งลูกอมมาอีก 1 จาน ระหว่างนั่งร้องเพลงไปเรื่อยๆ มีเด็กนั่งดริงก์สลับกันเดินเข้ามาในห้อง โดยบอกว่าขอเข้ามานั่งรับประทานผลไม้เฉยๆ ไม่ได้ขอค่าดริงก์แต่อย่างใด จึงอนุญาตให้เข้ามานั่งได้
กระทั่งเวลา 02.00 น. เด็กเสิร์ฟบอกว่าสุราใกล้หมดแล้วจะสั่งเพิ่มอีกขวดหรือไม่ จึงสั่งสุราขวดที่ 2 แต่เด็กเสิร์ฟบอกว่าขวดนี้เป็นขวดที่ 3 ตนแปลกใจมาก หันไปดูที่ข้างๆ โต๊ะพบมิกเซอร์วางอยู่ 3-4 ลัง ถูกเปิดฝาออกหมดแล้ว ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเรียกเก็บเงิน เมื่อเด็กเสิร์ฟนำบิลมาให้เป็นดูก็ถึงกับตกใจ เมื่อเห็นกระดาษแผ่นเล็กๆ เขียนตัวเลขไว้ 4.7 หมื่นบาท โดยไม่ลงรายละเอียดว่าเป็นค่าอะไรบ้าง
"ผมเรียกมาม่าซังมาต่อรองราคา มาม่าซังลดให้ 1 หมื่นบาท ผมจึงเริ่มโวยวาย เรียกผู้จัดการร้านเข้ามาคุย ช่วงนั้นมีพนักงานชาย 4-5 คน เข้ามาในห้อง ไม่ยอมให้ผมออกไป ผมต่อรองราคาให้เหลือ 1.5 หมื่นบาท ผู้จัดการร้านบอกไม่ได้ ผมอ้างว่ารู้จักนายตำรวจคนหนึ่งของ สน.ประชาชื่น จะขอออกไปโทรศัพท์ ผู้จัดการร้านก็มีท่าทีอ่อนลงและยอมให้ออกไปโทรศัพท์ ผมจึงแกล้งคุยคนเดียว จนกลับเข้ามาคุยกับผู้จัดการร้านอีกที แต่มีเด็กในร้านพูดขึ้นมาว่า ขนาดคนมานั่งกินหมดเป็นแสนยังยอมจ่ายเลย" นายประยูรกล่าว
นายประยูร กล่าวอีกว่า ในที่สุดต่อราคาจนเหลือแค่ 2.5 หมื่นบาท จึงตัดสินใจยอมจ่ายอย่างไม่เต็มใจ แต่ไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากอับอาย และเกรงว่าจะถูกเยาะเย้ย กระทั่งมาเห็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันและเป็นร้านเดียวกัน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
ขอขอบคุณรายงานข่าวจาก http://www.komchadluek.net/