ปรึกษาทนาย/ต้องการเรียกค่าเรียนคืน
เรื่องมีอยู่ว่า หนูไปสมัครเรียนที่ สถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่ง ทีแรกหนูไปสอบถามเฉยๆ แต่หลังจากคุยกัน เค้าก็ให้หนูเข้าไปทดสอบการใช้ภาษา ..หนูก็ อืม ได้ พอทดสอบเสร็จ เค้าก็ให้หนูสมัครเรียนเลย..แต่จ่ายเหมารวมทั้งหมด ประมาณ 79000 บาท แต่ถ้าสมัครตอนนี้จ่ายแค่ 76000 หนูก็ อึ้ง..เค้าบอกไม่เป็นไร จ่ายเป็นรายเดือนได้..หนูก็ โอเค..ตกเดือนละ 3800-4000 แต่ต้องจ่ายงวดแรกก่อน 10000 บาท แต่หนูสะดวกแค่ 8000 บาท เค้าก็ตกลง..พอจ่ายเสร็จ เค้าก็เพิ่งบอกว่า หนูต้องทำสินเชื่อกู้เงิน เพื่อจ่ายเงินก้อนแรกให้กับบริษัท หมดเลย แล้วหนูก็ไปผ่อนเอาเอง..หนูก็ไม่รู้ทำยังไง ก็เลยจำใจเซ็นเอกสาร ทั้งที่ไม่อยากเป็นหนี้ เพราะคิดว่า ถ้า เรียนไม่ไหวเราสามารถหยุดได้ถ้าเราจ่ายรายเดือนเอง แต่นี่ คือจ่ายไปแล้ว...ทั้งที่สัญญาเอกสารใดๆยังไม่ผ่านไม่ได้ทำด้วยซ้ำ แต่เค้าก็ให้หนูจ่ายไปแล้ว แต่เอกสารยังไปไม่ครบ..เลยกลับมาถามคนที่บ้าน..พ่อแม่หนูเค้าก็บอกให้หนูหยุดก่อน เพราะไม่อยากให้หนูต้องกลายเป็นหนี้โดยไม่จำเป็นและ ยังไม่รู้เลยว่า สถาบันนี้สอนเราดีแค่ไหน ให้เราจ่ายไปทั้งหมด...แต่อาจสอนเราไม่ดีอย่างที่เสียไป
หนูเลยไปยกเลิกกับทางโรงเรียน และขอเอกสารสินเชื่อและหลักฐานต่างๆคืนมาก่อน แต่เค้าบอกว่า..เค้าคืนเงินให้ไม่ได้..ถ้าจะให้เค้าคืนเงินให้ เราต้องทำสัญญาสินเชื่อให้ครบ และต้องไม่ผ่านเค้าถึงจะคืนให้ ทีนี้ ตัวหนูเอง ก็มี สลิป แค่ 2 เดือน เพราะเพิ่งเริ่มงาน หนูเอาไปถามธนาคาร เค้าก็บอกว่า มันไม่ผ่านอยู่แล้ว แต่........ถ้าสถาบัน เค้าใช้ เครดิตของเค้า..มันก็จะผ่านในที่สุด...(เพราะหนูก็ได้ยินเซลส์ขายคอร์ส พูดว่า จะทำให้ผ่านให้ได้ ) หนูก็เลย เก็บเอกสารกลับบ้าน ตอนหลัง เซลส์คนนี้โทรมาบอกว่า จะคืนเงินให้ ทั้งที่ ตอนแรกบอกไม่สามารถคืนให้ได้ ... และหนูก็รอ แต่จากตอนนั้น เค้าก็ไม่โทรอีกเลย........หายไปเลย ทีนี้ อยากทราบว่าหนูจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างคะ...ที่จะได้เงินคืน..เพราะหนูไม่ได้อะไรกลับมาเลยจริง...คือเราเอาเงิน 8000 ให้เค้า โดยที่ไม่ได้ทำสัญญาใดๆ และยังไม่ได้เป็นนักเรียนของเค้าด้วยซ้ำ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
ท่านสามารถฟ้องเป็นคดีผู้บริโภค โดยไม่ต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียม ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 18
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551
มาตรา 18 ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย การยื่นคำฟ้องตลอดจนการดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ในคดีผู้บริโภคซึ่งดำเนินการโดยผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภคให้ได้รับยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง แต่ไม่รวมถึงความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นที่สุด
ถ้าความปรากฏแก่ศาลว่าผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภคนำคดีมาฟ้องโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เรียกร้องค่าเสียหายเกินสมควร ประพฤติตนไม่เรียบร้อย ดำเนินกระบวนพิจารณาอันมีลักษณะเป็นการประวิงคดีหรือที่ไม่จำเป็น หรือมีพฤติการณ์อื่นที่ศาลเห็นสมควร ศาลอาจมีคำสั่งให้บุคคลนั้นชำระค่าฤชาธรรมเนียมที่ได้รับการยกเว้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วนต่อศาลภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดก็ได้ หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ในกรณีตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ถ้าศาลเห็นว่าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะต้องเป็นผู้รับผิดเสียค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดหรือแต่บางส่วนของคู่ความทั้งสองฝ่าย ให้ศาลพิพากษาในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมโดยสั่งให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้นชำระต่อศาลในนามของผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภคซึ่งค่าฤชาธรรมเนียมที่ผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภคนั้นได้รับยกเว้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตามที่ศาลเห็นสมควร