นำรถไปจำนำแล้วรถหาย
ตอนนี้มีเรื่องกลุ้มใจมากเลยค่ะ ดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิตและอยู่ระหว่างการประนอมหนี้ค่ะ ทางธนาคารเค้าก็ให้ชำระขั้นต่ำตามความสามารถของเรา แต่ที่หนักที่สุดตอนนี้คะ คือว่าดิฉันได้เอารถไปจำนำไว้กับนายทุนคนนึงซึ่งก็ไม่ทราบชื่อ เพราะว่าเค้าให้ลูกน้องของเค้ามารับรถตอนที่เอาไปจำนำ ก็มีสัญญาการรับจำนำคะแต่ว่าเค้าไม่ได้ให้สัญญากับเรามาเลย เค้าบอกว่าต้องเอาหนังสือสัญญาและเอกสารอื่นๆ เกี่ยวกับรถเอาไว้ในรถ เค้าบอกว่าเผื่อทางตำรวจขอดูเอกสาร ช่วงนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะว่าคงจะไม่มีอะไร หลังจากนั้นหนึ่งเดือนเค้าก็โทรมาบอกว่าให้โอนค่าดอกเบี้ยไปให้ แล้วก็แจ้งหมายเลขบัญชีมา เราก็ได้ทำการโอนไปให้พอเข้าเดือนที่สองครบกำหนดชำระอีก แต่ทางดิฉันยังมีเงินที่จะส่งดอกเบี้ยเกินมาประมาณสิบวันได้
หลังจากนั้นคนที่มารับรถวันนั้นเค้าก็โทรมาบอกว่ารถไม่อยู่แล้วนะ ไม่รู้ไปอยู่ที่ใหน เค้าบอกว่าเราผิดนัดชำระดอกเบี้ยเอง คือตอนนี้ก็ยังหารถไม่เจอเลยคะ ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.แล้วแต่เค้าบอกว่าต้องให้ทางไฟแนนซ์มาแจ้งเอง แล้วอย่างงี้ทางไฟแนนซ์เค้าจะแจ้งข้อหาเราว่า เอาทรัพย์สินของเค้ามาจำนำหรือป่าวคะ แล้วเค้าจะช่วยเราหารถหรือป่าว ทางดิฉันยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่างค่ะ อยากขอให้ทางไฟแนนซ์ช่วยตามหารถด้วยอีกทาง ส่วนค่างวดที่ยังผ่อนชำระไม่หมด อยากให้ทางไฟแนนซ์ ช่วยลดค่างวดลงมาอีกจะได้หรือไม่ ยินดีที่จะส่งค่างวดให้หมดที่ยังค้างคะ อีกอย่างคะรถคันนี้ประกันหมดด้วยคะ ต้องทำอย่างไรบ้างคะ ขอคำปรึกษาด้วยคะ ขอบคุณมากคะ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
1. การที่คุณนำรถที่เช่าซื้อไปขายต่อถือว่าเป็นการเบียดบังทรัพย์เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 352 ส่วนผู้รับจำนำมีความผิดรับของโจร ตาม ป.อ. มาตรา 357 มีโทษจำคุกในข้อหารับของโจรเพื่อค้ากำไร 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับ 1,000 ถึง 20,000 บาท
2. ส่วนผู้เช่าซื้อคือตัวคุณเป็นผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 2(4) เพราะได้รับความเสียหายจากการที่ผู้รับจำนำนำรถไปโดยไม่ผ่อนชำระค่างวดให้ครบถ้วน แนะนำให้หาทนายฟ้องเป็นคดีอาญาในความผิดฐานยักยอกทรัพย์กับผู้รับจำนำต่อไป
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง
มาตรา 357 ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด ถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำเพื่อค้ากำไรหรือได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา 335 (10) ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา 335 ทวิ การชิงทรัพย์ตามมาตรา 339 ทวิ หรือการปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 ทวิ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้
(4) “ผู้เสียหาย” หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา 4,5 และ 6
ขอขอบคุณ ภาพจาก: www.kadnad.com/13184/