ฟ้องชู้....
นักสืบมีเรื่องเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ทราบว่า ฟ้องชู้..นั้น สามารถฟ้องได้ทั้ง “ชายชู้” “หญิงชู้” แต่ก่อนที่เราจะฟ้อง ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนก่อนนะว่าเขามีความสัมพันธ์กันอย่างไรในทางชู้สาว ไม่ใช่แค่รู้ว่า ผัวตัวเองไปมีเมียน้อย ก็จะไปฟ้อง เช่น คุณ..อาจจะเห็นเขาว่าเขาไปอยู่กับเมียน้อยในบ้านหลังนี้ และเพื่อนบ้านรู้กันไปทั่วว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันฉันท์ชู้สาว แต่คุณไม่มีพยานหลักฐานไปแสดงต่อศาล ศาลท่านไม่คิดไปเองหรอกนะคะ เพราะท่านผู้พิพากษา ท่านตัดสินคดีด้วยพยานหลักฐานเท่านั้น ไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาคิดเหมือนเรา... วันนี้นักสืบ “อำนวยพร” มีตัวอย่างที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานให้กับผู้ว่าจ้าง เพื่อฟ้องชู้....
เป็นเรื่องของหนุ่มนักธุรกิจท่านหนึ่ง หน้าตาดี มีความสามารถในการสร้างฐานะได้ดีมาก มีบุตรกับภรรยาหนึ่งคน ส่วนภรรยาเป็นคนหน้าตาสวยเชียว ผิวพรรณดี ทำงานในตำแหน่งผู้บริหารบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา พอระแคะระคายได้ว่า ภรรยาที่นอนด้วยกัน น่าจะเปลี่ยนแปลงไป สังเกตได้จากอะไรหลายอย่างๆ หนุ่มท่านนี้จึงมาปรึกษานักสืบ เพื่อต้องการหลักฐานว่าภรรยาไปมีชู้จริงหรือไม่
นักสืบปฏิบัติภารกิจได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ได้พบว่า เธอไปแอบมีสัมพันธ์กับหนุ่มรุ่นน้อง ซึ่งทำงานในบริษัทในเครือ นักสืบได้เล่าเรื่องราวให้หนุ่มผู้ว่าจ้างฟัง ดูเขาเครียดมาก..บอกแต่ว่า “ผมไม่อยากเสียภรรยาไป ผมรักเค้า ไอ้นั่นมันเป็นใครมาชุบมือเปิบ” หลังจากนั้นเขาได้ไปคุยคร่าวๆ กับภรรยา พอเธอรู้ เธอยิ่งแสดงอาการไม่พอใจออกมาเลย และพูดว่า “ชั้นมีคนอื่นแล้ว และจะหย่ากับเธอ” พอฝ่ายสามีฟังหัวใจแทบพังเชียว และได้แสดงอาการอีกหลายๆ อย่างที่จะเลิกกับสามีไปอยู่กับชายชู้ ในเมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่มีที่จะพึ่งได้ นอกจากศาล ฝ่ายชายจึงตัดสินใจฟ้องชายชู้ ...จากพยานหลักฐานที่นักสืบเก็บรวบรวมให้
เห็นมั้ยคะว่า ชายฟ้องชายชู้...ก็มี การฟ้องไม่ใช่เรื่องยาก ...แต่การหาพยานหลักฐานนี่ซิ! สำคัญ..ยิ่งกว่า...
ตัวอย่างเรื่องที่สอง คือ เรื่องนี้ผู้ว่าจ้างเป็นแม่บ้าน อายุประมาณ 50 ปีเศษ สามีทำงานเป็นนักบริหาร ให้เธอเป็นคอยดูแลลูกๆ 3 คน โดยไม่ต้องทำงานนอกบ้าน ที่ผ่านเกือบ 30 ปี สามีรับผิดชอบครอบครัวมาดีตลอด ด้วยความอายุมากขึ้น สามีเธอจึงคิดออกกำลังกาย ซึ่งเริ่มต้นด้วยการวิ่งรอบๆสนามหญ้าหน้าบ้าน เริ่มพัฒนาไปฝึกตีเทนนิส ซึ่งมีคอร์ดไม่ไกลจากบ้านมากนัก เล่นทุกวันจนได้รู้จักกลุ่มเพื่อนทั้งหญิงและชาย
นับวันสามีเธอยิ่งไปตีเทนนิสมากขึ้น นอกจากนี้ ยังพอได้ยินอะไรมาบ้าง เกี่ยวกับสามีเธอและหญิงร่วมก๊วนเดียวกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบรรดาพวกสาว (เหลือน้อย) อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี เธอเริ่มสังเกตพฤติกรรมของสามีว่าผิดปกติอะไรบ้าง เธอคิดย้อนหลังไป “เอ่อ! มีอะไรหลายๆ อย่างที่แปลกๆ แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าสามีจะทำได้”
เรื่องราวเริ่มบานปลายขึ้น เธอมาหานักสืบเพื่อไขข้อข้องใจ “ที่มันคาใจอยู่ว่าใช่หรือไม่ใช่” นักสืบรับเรื่อง เริ่มปฏิบัติภารกิจทันที สิ่งที่เราคิดผิดหมด (ที่พูดอย่างนี้เพราะว่า ถ้าเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน ก็ต้องไปเข้าโรงแรมใช่ม๊า! ...แต่ที่ไม่ใช่ คือ ..ทั้งสองคนพากันไปนอนที่บ้านของฝ่ายหญิง ในเวลาที่ปลอดคน” แอบทำกับแบบนี้แทบทุกวัน ฝ่ายชายต้องอ้างว่าไปหาลูกค้าทุกวัน เพื่อจะแอบมาหาหญิงชู้ (ของมันแอบกินนี่มันอร่อยนะ...)
เมื่อนักสืบเห็นเช่นนั้น ก็วางแผนเก็บหลักฐานจนครบถ้วน มั่นใจว่าฟ้องได้แน่นอน..แต่..ก่อนที่จะทำอะไรรุนแรง เธอได้เปิดศึกกับสามี เพื่อพูดคุยเรื่องของหญิงชู้..ฝ่ายชายยอมรับจำนนต่อหลักฐานทั้งปวง รับผิดและสารภาพ บอกกับเธอว่า “พี่จะไม่ทำอีกแล้ว จะเลิกกันแน่นอน ขอเวลาทำใจหน่อย” OK. เมื่อฟังเช่นนั้นเธอก็ยังรักสามีนี่ ใครจะยอมได้ “ผัวใคร..ใครก็รัก” เธอเลือกสามีไว้ โดยให้เวลาสามีเคลียร์ปัญหา ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นเหมือน....ดีใจที่ได้สามีกลับมา
ปล่อยเวลาไปพักหนึ่ง เธอมีความรู้สึกว่าอะไรแปลกๆนะ “คุณกุ้งวันนี้ว่างเปล่า.. ช่วยพี่หน่อยซิ..ช่วยตามสามีพี่อีกทีซิ ไม่ค่อยแน่ใจ” ก็ได้เลย นักสืบออกปฏิบัติงานอีกแล้ว ...คราวนี้เป้าหมายพัฒนาใหม่ ไม่ไปหาที่บ้านแล้ว เพราะนักสืบรู้, ภรรยารู้แล้ว เปลี่ยนใหม่ นัดไปทานข้าว แล้วเข้าโรงแรมต่อเลย
เอาอีกแล้วคะ...เข้าโรงแรมไปแล้ว...เธอโมโหมาก...บอกว่าไม่ไหวแล้ว ฟ้องแน่ ..ไม่เอาไว้แล้ว หลักฐานทั้งหมดที่มี พี่จะฟ้องหญิงชู้...........
“มันก็รู้..ว่าเป็นชู้...แต่มันไม่เลิก” “มีทางเดียว พี่ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายมัน...”
นี่แหล่ะค่ะ! ประโยชน์ที่ใช้บริการนักสืบ นึกไม่ออก...หาหลักฐานไม่ได้ ปรึกษานักสืบซิคะ! ที่ นักสืบ “กุ้ง” อำนวยพร 02-9485700 , 089-6695026