สคบ.เข้มฟิตเนส“ดีแต่ปาก” เตรียมศึกษาออกกม.คุมสัญญา
สคบ. เอาจริง เดินหน้าจัดการ ฟิตเนสที่เอาเปรียบผู้บริโภค ชอบกล่าวอ้างเกินจริง แต่กลับมีปัญหาเพียบในขั้นปฎิบัติ ตีกรอบคุมเข้มเตรียมดึงเข้าเป็นธุรกิจที่สามารถควบคุมสัญญาได้
นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ทางสคบ. ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคค่อนข้างสูง ในเรื่องที่เกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในการทำสัญญาของผู้ประกอบการสถานออกกำลังกายหรือฟิตเนส โดยเฉพาะกลุ่มฟิตเนสต่างชาติ ที่หนักสุด คือ รายของแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว (เดิมเป็นของต่างชาติ แต่ปัจจุบันเจ้าของคือ กลุ่มเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ้ป) และทรูฟิตเนส
จากกรณีที่ทางพนักงานขายได้ขายแพจเกจการออกกำลังกายจากสถานที่ออกกำลังกายเหล่านี้ได้มีการเชิญชวนให้ผู้บริโภคสมัคร ซึ่งมีการยกเรื่องของสถานที่ ครูฝึก ที่ตอนขายก็บอกว่ามีเพียงพอต่อการใช้บริการ รวมถึงการทำสัญญาเป็นสมาชิก สามารถยกเลิกเมื่อไรก็ได้นั้น แต่พอผู้บริโภคสมัครเข้าใช้บริการจริงแล้ว กลับพบว่าไม่เป็นไปตามที่พนักงานขายกล่าวอ้าง
ดังนั้นพอจะขอยกเลิกสัญญาก็ไม่สามารถทำได้ และหากจะยกเลิกสัญญาจริงก็จะต้องยอมสุญเสียจำนวนเงินที่สมัครไปทั้งหมด ส่งผลให้มีเรื่องมีราวฟ้องร้องกันตลอดเวลา อย่างไรก็ตามเมื่อถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ผู้บริโภคมักจะเสียเปรียบ เพราะพิจารณาจากสัญญาแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้
นายนิโรธ กล่าวต่อว่า ตัวเลขผู้ประกอบการสถานที่ออกกำลังกายในเมืองไทยทั้งผู้ประกอบการคนไทย และจากต่างประเทศ ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่ที่ผ่านมา หากเป็นสถานที่ออกกำลังกายของไทย จะไม่มีปัญหาการร้องเรียนเท่าไร
แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมีปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับฟิตเนสของผุ้ประกอบการต่างชาติมากกว่า เนื่องจากกลุ่มฟิตเนสต่างชาติ จะยึดข้อสัญญาเป็นสำคัญ ทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบค่อนข้างมาก ขณะที่ฟิตเนสคนไทย หรือพฤติกรรมคมไทย จะมีความอะลุ่มอะหล่วยกันได้ สามารถเจรจากันได้ง่ายกว่า หากจะยกเลิกสัญญาก็ทำได้ง่ายกว่า ขณะที่ฟิตเนสต่างชาติแทบจะไม่เปิดช่องให้ทำอย่างนั้นได้ หรือถ้าหากต้องการจริงก็จะต้องยอมสูญเงินสมัครไปด้วย
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (10ส.ค.) ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้จัดให้มีการเสวนาขึ้นเพื่อต้องการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดให้ธุรกิจให้บริการสถานที่ออกกำลังกาย (FITNESS) เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาได้ หลังจากที่ผ่านมาธุรกิจจี้ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่มีกฎหมายควบคุม เว้นแต่กฎหมายที่ควบคุมในเรื่องของอาคาร และความสะอาดเท่านั้น
สาเหตุที่ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ได้มีการจัดประชุมสัมมนาครั้งนี้ เพราะต้องการให้ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการด้านสถานที่ออกกำลังกาย หรือ ฟิตเนส ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญาสมัครเป็นสมาชิกใช้บริการสถานที่ออกกำลังกายหรือ ฟิตเนส เพื่อกำหนดให้ธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาได้ ซึ่งหากสามารถหาข้อสรุปได้ ขั้นตอนต่อไปก็จะต้องนำประเด็นเหล่านี้ไปนำเสนอต่อคณะกรรมการว่าด้วยเรื่องสัญญา ในการที่จะออกเป็นกฏหมายต่อไป
ดังนั้นการเสวนาครั้งนี้ จึงต้องการให้ผู้ประกอบการด้านฟิตเนส โดยเฉพาะฟิตเนสต่างชาติ ซึ่งได้เข้าร่วมประมาณ 3-4 ราย รวมถึงฟิตเนสชาวไทย และผู้บริโภค ได้เข้ามาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน เพื่อหาทางออกให้กับเรื่องนี้ โดยทางสคบ. พยายามที่จะเปิดโอกาสในการที่จะช่วยผู้บริโภคอย่างเต็มที่ในเรื่องของ ต้องการให้ ธุรกิจฟิตเนส เป็นธุรกิจที่สามารถควบคุมสัญญาได้ กล่าวคือ สามารถเปิดช่องให้ผู้บริโภคยกเลิกสัญญาได้หากต้องการ
ส่งผลให้การสัมมนาครั้งนี้ ในเบื้องต้น อาจจะสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ประกอบการฟิตเนสต่างชาติมากนัก เพราะจะทำให้เขาได้รับความเสียเปรียบ แต่สำหรับผู้บริโภคแล้วจะได้ประโยชน์มากขึ้นแทน ซึ่งแน่นอนว่า การสัมมนาครั้งนี้ จะยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่ทางสคบ. ก็จะเดินหน้าเพื่อหาทางช่วยเหลือผู้บริโภคต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการร้องเรียน ความไม่เป็นธรรม เกี่ยวกับ การเป็นสมาชิกการเข้าใช้บริการฟิตเนส อย่าง แคลิฟอร์เนีย ว้าว ที่ผ่านมา มีสมาชิกหลายราย ได้รับความเดือดร้อน และร้องเรียนให้เห็นเป็นระยะๆ ตั้งแต่เรื่องของความไม่เป็นธรรมในเรื่องของสัญญา รวมไปถึงบริการที่ได้รับ ที่บางครั้งอาจจะไม่ปลอดภัย มีการสูญหายของทรัพย์สินไปบ้าง
ทั้งนี้นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียน หรือ CAWOW ก็ได้กล่าวยอมรับเมื่อเร็วๆนี้ แล้วว่า ทางแคลิฟอร์เนีย ว้าว พร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการมากขึ้น รวมทั้งจะมีการปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน
ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ