งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
รัตนา..บ้านสีดำ
ข้าพเจ้านาง
พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ระบุด้วยว่า
หากผู้จองไม่มาทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายในวันที่ 17 กันยายน 2549 ผู้จองตกลงให้หนังสือจองซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างนี้เป็นอันสิ้นสุดลง และยินยอมให้บริษัท ฯ ริบเงินที่ผู้จองได้ชำระไว้แล้วทั้งหมด
พร้อมทั้งมีสิทธินำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามหนังสือจองนี้ไปจำหน่าย จ่าย โอน ให้แก่ผู้สนใจรายอื่นต่อไปได้
รายละเอียดปรากฏตามหนังสือจองซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
และใบรับเงินชั่วคราว หมายเลข 1 และหมายเลข 2
หน้าที่ของผู้ซื้อ
1. ผู้จองต้องชำระเงินค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างส่วนที่เหลือ
ดังนี้
1.1 ชำระเงินจำนวน 50,000 บาท ในวันทำสัญญา 17 กันยายน 2549
1.2 ชำระเงินดาวน์จำนวน 127,000 บาท ผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือนรวม 2 งวด ทุกวันที่ 17 ของเดือน ตั้งแต่เดือนถัดจากวันทำสัญญา เป็นเงินจำนวนงวดละ 63,500 บาท
1.3 ชำระราคาส่วนที่เหลือจำนวน 1,773,000 บาท ในวันจดทะเบียนรับโอน
กรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
หน้าที่ของผู้ขาย
- ต้องดำเนินการทำสัญญาซื้อขายกับคุณพัจนภา ฯ ผู้ซื้อปฏิบัติตามสัญญาแล้วหรือยัง
ข้อไหนบ้าง
ก่อนถึงวันที่ 17 กันยายน 2549 คุณพัจนภา ฯ ได้เข้าไปที่โครงการเพื่อแจ้งว่า
ไม่สามารถเดินทางเข้าไปทำสัญญาได้ในวันที่ 17 กันยายน 2549
แต่สะดวกเข้าทำสัญญาวันที่ 22 กันยายน 2549
ทางบริษัท ฯ ได้ตกลงให้คุณพัจนภา ฯ
เข้ามาทำสัญญาซื้อขายในวันที่ 22 กันยายน 2549
ผู้ขายผิดสัญญาข้อไหนบ้าง
ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2549 คุณรัตนา ฯ พร้อมคุณพัจนภา ฯ ได้เดินทางไปที่โครงการเพื่อเข้าทำสัญญาซื้อขาย
แต่พนักงานโครงการปฏิเสธ และแจ้งว่าเจ้าของโครงการไม่ยินดีที่จะขายให้ เพราะเป็นบุตรสาวของนางรัตนา
ฯ บ้านสีดำ จากนั้นคุณรัตนา ฯ จึงได้ทำหนังสือถึงผู้บริหารบริษัท ฯ
เพื่อแจ้งให้ทราบว่าคุณพัจนภายินดีที่จะเข้าทำสัญญาซื้อขาย
แต่ผู้บริหารไม่ได้ลงลายมือชื่อรับเอกสาร จึงส่งจดหมายฉบับนี้ทางไปรษณีย์ตอบรับลงทะเบียน
เพื่อยืนยันในการทำสัญญาซื้อขาย และไปแจ้งความไว้ ตามรายงานประจำวัน หมาย 3 และ หมาย 4
ต่อมาได้รับการติดต่อจากพนักงานของบริษัท ฯ
ชื่อวิภาดา แจ้งว่า ทางโครงการไม่อาจขายบ้านให้ได้ เพราะเกรงว่านางรัตนา ฯ
จะไม่ถูกใจ เพราะวัสดุที่ใช้อาจไม่ตรงตามที่กำหนด
และพยายามเบี่ยงเบนที่จะไม่ยอมทำสัญญา
ดังนั้น เมื่อบริษัท ฯ ได้ผ่อนผันให้คุณพัจนภา ฯ เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายเป็นวันที่ 22 กันยายน 2549
และคุณพัจนภา ฯ ได้เดินทางไปในวันดังกล่าวเพื่อเข้าทำสัญญา
แต่บริษัท ฯ กับปฏิเสธ ไม่ทำสัญญาจะซื้อจะขายกับคุณพัจนภา ฯ โดยที่คุณพัจนภา ฯ
ไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญาแต่ประการใด บริษัท ฯ จึงเป็นผู้ผิดสัญญา
สิทธิตามสัญญาผู้ซื้อมีสิทธิอะไรบ้าง
มีสิทธิเข้าทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงเลขที่ 184 เพราะผู้ซื้อไม่ได้ทำผิดสัญญาแต่อย่างใด
หลังจากผู้ขายผิดสัญญา ผู้ซื้อทำอะไรบ้าง
วันที่ 28 กันยายน 2549
คุณรัตนา ฯ และคุณพัจนภา ฯ รวมถึงนางสาว
วันที่ 29 กันยายน 2549
ได้เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคของให้ดำเนินการ
เนื่องจากมั่นใจว่า ผู้ประกอบการไม่สามารถกระทำการเช่นนี้ได้
เพราะเป็นประชาชนผู้ซื้อโดยสุจริต แม้ว่าจะซื้อด้วยเงินสดทั้งหมดโครงการก็แจ้งว่าไม่ขาย
จึงไปลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานตาม รายงานประจำวัน เอกสารหมาย 5 และ 6
ต้องการฟ้องร้องหรือต้องการเรียกค่าเสียหายหรือต้องการให้โอนบ้าน (ต้องชำระส่วนที่เหลือเท่าไหร่)
1. รอฟังผลจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอบผู้บริโภคเสียก่อน
หากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ความเป็นธรรม ก็ให้ดำเนินการฟ้องร้องบริษัท
พร้อมพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทำสัญญาซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามหนังสือจองซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
โดยเงินส่วนที่เหลือจะต้องชำระอีกจำนวน1,950,000 บาท
2. ต้องการให้ฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท
เพราะทำให้คุณรัตนาฯ เสียหายเสียงชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง
ความคิดเห็นของคุณรัตนา ฯ
นับแต่วันที่จากกรุงเทพมหานครมา หลายคนคิดว่าครอบครัวเราได้รับความสุขไปแล้ว
วันนี้เรายังอาศัยเขาอยู่ กว่า 1 ปี
ไม่มีผู้ประกอบการรายใดขายบ้านให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราพูด ไม่ได้ เพราะโครงการใหญ่ทั้งหลายเราไม่มีหลักฐาน
ถ้าเราพูดเราก็จะถูกฟ้องหมิ่นประมาทเหมือนที่ผ่านมา 11 ปี ถ้าร้องเรียนอีกก็เหมือนผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักพอชอบมีเรื่อง
อยากบอกทุกคนว่า ครอบครัวเราอยู่อย่างลำบาก และทรมาน
ลูกสาวเรียนจบมหาวิทยาลัยที่ประเทศไทยบอกว่าดีเยี่ยมก็ไม่มีใครอยากต้อนรับไว้ทำงาน
เหตุเพราะเป็นลูกสาวของเรา ผู้หญิงที่ชื่อรัตนา กว่า 1 ปี
ดิฉันต้องเลี้ยงลูกตามศูนย์การค้าเพราะห้องที่อาศัยเขาอยู่คับแคบ นกพิราบเยอะ ลูกและหลานป่วยเข้าโรงพยาบาล
จึงมีความคิด ยากลองซื้อบ้านอีกสักครั้ง กลัวว่าเขาจะไม่ขายเลยให้ลูกสาวเป็นผู้ซื้อ
แต่ผลก็เหมือนเดิม สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ วันนี้มีหลักฐาน
เพราะพนักงานของโครงการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ลูกชายซึ่งไม่ค่อยร้องไห้ก็น้ำตาไหลถามว่าเราทำผิดอะไร
วันนี้เจ้าหน้าที่ก็ยอมรับผิด สังคมก็รับรู้ว่าเราถูกกระทำ
แต่เรากลับมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก
ท่ามกลางจินตนาการของสังคมที่นึกว่าเราอยู่อย่างสุขสบาย ดิฉันเป็นเพียงผู้หญิงที่เลี้ยงลูกคนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อให้ได้รับความยุติธรรม
แต่กลับถูกรังเกียจเหมือนเราเป็นมนุษย์ประหลาดที่ไม่อาจอยู่ร่วมกับใครได้
วันนี้มีหลักฐานที่อยากบอกประชาชนว่า ดิฉันถือบัตรประชาชน เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย
แต่ซื้อบ้านอาศัยไม่ได้ อีกไม่กี่วันถ้าคณะกรรมการปราบรามทุจริตแห่งชาติทำงานได้ตามกฎหมายเรื่องที่ร้องเรียนไว้กำลังจะถูกเปิดโปงขึ้น ดิฉันและครอบครัวจะอยู่อย่างไรใครจะคุ้มครอง
หลายคนพูดว่า เขาไม่ขายก็อย่าไปซื้อ ไม่ใช่อยากมีเรื่องแต่ผู้ประกอบการทำเช่นนี้ไม่ได้
เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายคอยควบคุมกำกับดูแล เราพยายามทำความถูกต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
แต่เราก็ไม่อยากให้สังคมมองว่าเราเป็นคนหาเรื่องหรือพยายามสร้างความเดือดร้อน ซึ่งจริง
ๆ แล้วเราไม่ได้รับความเป็นธรรม