ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค/คดีสคบ./ละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง |ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค/คดีสคบ./ละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง

ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค/คดีสคบ./ละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค/คดีสคบ./ละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง

ทนายคลายทุกข์ขอนำตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค/คดีสคบ./ละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง

บทความวันที่ 8 มิ.ย. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 16643 ครั้ง


ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค/คดีสคบ./ละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง 

                                                                                           ศาลจังหวัดนนทบุรี

นาย บ.       โจทก์
บริษัท ร.       จำเลย

เรื่อง ละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง  เรียกค่าเสียหาย
จำนวนทุนทรัพย์  422,186  บาท  51  สตางค์

          ข้อ 1.  โจทก์เป็นผู้ครองครองรถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์  สีเทา  คันหมาขเลขทะเบียน... กรุงเทพมหานคร  รายละเอียดปรากฏตามสำเนารายการจดทะเบียน  เอกสารแนบท้ายคำฟ้องหมาย 1
           จำเลยเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายประเภทบริษัทจำกัด  มีวัตถุประสงค์ให้บริการทำความสะอาดเคลือบสี  พ่นน้ำยากันสนิม  จำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งยานพาหนะ  ใช้ชื่อในการประกอบธุรกิจว่า ...  โดยลำพังมี นางสาง ฐ.  เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทจำเลย  สามารถกระทำการแทนจำเลยได้  รายละเอียดปรากฎตามสำเนาเอกสารหนังสือรับรองการเป็นนิติบุคคลของจำเลยและภาพถ่ายสถานประกอบกิจการ  เอกสารแนบท้ายคำฟ้องหมาย 2 และ 3
          ข้อ 2.  เมื่อวันที่ 23  ตุลาคม 2551  เวลาประมาณ 7.30 นาฬิกา  ซึ่งเป็นเวลาเปิดกิจการของจำเลย  โจทก์ได้นำรถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยต้า  รุ่นไฮลักซ์  สีเทา  คันหมายเลขทะเบียน...  กรุงเทพมหานครา  ไปรับบริการล้างทำความสะอาดและดูดฝุ่นภายในรถยนต์ที่ร้านของจำเลย  ณ  ถนนบางกรวย-ไทรน้อย  จ. นนทบุรี  ต่อมาลูกจ้างจำเลยได้มารับรถยนต์คันดังกล่าวไปจากโจทก์เพื่อนำไปล้างทำความสะอาดบริเวณที่ล้างรถยนต์ซึ่งใกล้กับแท่นสำหรับล้างอัดฉีดรถยนต์ซึ่งเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง  แต่ลูกจ้างจำเลยกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์  กล่าวคือ  เมื่อลูกจ้างจำเลยรับรถยนต์ไปจากโจทก์ที่ล้างทำความสะอาด  ลูกจ้างจำเลยจักต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถยนต์ของโจทก์โดยก่อนที่ลูกจ้างจำเลยะเหยียบคันเร่งเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์นั้นจะต้องเหยียบครัทช์เข้าเกียร์แล้วค่อย ๆ ปล่อย  จากนั้นจึงเหยียบคันเร่งอย่างช้า ๆ ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นลูกจ้างจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นแต่ลูกจ้างจำเลยหาได้ใช้เพียงพอไม่  ลูกจ้างจำเลยกลับเบิ้ลคันเร่ง 2 ครั้ง แล้วปล่อยครัทช์ทันทีพร้อมกับเหยียบคันเร่งจนเกือบทำให้รถยนต์พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและแรงด้วยความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างต่อจำเลยดังกล่าว  เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์พุ่งชนกันด้านข้างของแท่นสำหรับล้างอัดฉัดรถยนต์ซึ่งมีลักษณะเป็นปูนและเหล็ก  จนเป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายอย่างมากจนไม่สามารถขับเคลื่อนได้  รวมทั้งอุปกรณ์และส่วนควบของรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายรายการ  เช่น  คัชซีหน้า  กันชนหน้า  แผงไฟใหญ่หน้าทั้งชุด  ปั๊มน้ำ  และเครื่องยนต์  เป็นต้น  รายละเอียดปรากฎตามสำเนาภาพถ่ายรถยนต์ในสภาพที่ได้รับความเสียหายและภาพบริเวณที่เกิดเหตุ  เอกสารท้ายคำฟ้องหมาย 4 และหมาย 5
          ต่อมาโจทก์และจำเลยสามารถตกลงกันได้  โดยจำเลยยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์  จำเลยจึงได้นำรถยนต์ของโจทก์คันดังกล่าวไปเข้าซ่อมแซมที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด  ช.  ซึ่งเป็นอู่ให้บริการซ่อมรถยนต์  ตั้งอยู่... จังหวัดนนทบุรี รายละเอียดปรากฎตามสำเนาใบเสร็จยกรถ  เอกสารท้ายคำฟ้องหมาย 6
          ข้อ 3.  หลังจากนั้นห้างหุ้นส่วน ... ได้แจ้งราคาประเมินให้แก่จำเลยทราบในราคา 300,000  บาทเศษ  ต่อมาโจทก์จึงทวงถามให้จำเลยรับผิดค่าเสียหายให้แก่โจทก์  แต่จำเลยเห็นว่าซ่อมแซมรถยนต์มีราคาสูงจึงปฏิเสธไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์  โจทก์จึงได้แจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจภูธร... จังหวัดนนทบุรี   รายละเอียดปรากฏตามรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐาน  เอกสารท้ายคำฟ้องหมาย 7
          ก่อนฟ้องร้องและดำเนินคดีนี้  โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์หลายครั้งหลายคราว  แต่จำเลยยังคงเพิกเฉยถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์  ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย  เมื่อโจทก์ไปรับบริการเพื่อล้างทำความสะอาดรถยนต์จากจำเลย  และลูกจ้างจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์  จำเลยในฐานะนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด  ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางที่จ้างดังต่อไปนี้
          3.1  ผลจากการที่ลูกจ้างจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์  ทำให้รถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยต้า  รุ่นไฮลักซ์  สีเทา คันหมายเลขทะเบียน..  กรุงเทพมหานคร  ของโจทก์ได้รับความเสียหายหลายรายการ เช่น เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่  คัชซีหน้า  ก้นชนหน้า  แผงไฟใหญ่หน้าทั้งชุด  ปั๊มน้ำ  เป็นต้น คิดเป็นค่าแรงซ่อมรถยนต์และค่าอะไหล่จำนวน 332,368.75 บาท (สามแสนสามหมื่นสองพันสามร้อยหกสิบแปดเจ็บสิบห้าสตางค์) รายละเอียดปรากฏตามสำเนาใบเสนอราคา  เอกสารแนบท้ายคำฟ้องหมาย 8
        3.2  หลังจากที่รถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยต้า  รุ่นไฮลักซ์  สีเทา  คันหมายเลขทะเบียน ...  กรุงเทพมหานคร  ของโจทก์ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถขับเคลื่อนได้  และนำเข้าซ่อมที่อู่จนทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้สอยใช้ประโยชน์ในรถยนต์ดังกล่าวได้  ซึ่งก่อนเกิดเหตุโจทก์ประกอบอาชีพค้าขายต้องนำรถยนต์ดังกล่าวได้  ซึ่งก่อนเกิดเหตุโจทก์ประกอบอาชีพค้าขายต้องนำรถยนต์คันดังกล่าวไปซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายทุกวัน  เมื่อโจทก์ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในรถยนต์คันดังกล่าวได้โจทก์ต้องว่าจ้างรถยนต์โดยสาร  รถแท็กซี่  หรือรถเหมา  ไปซื้อสินค้า  โดยเสียค่าใช้จ่ายวันละไม่ต่ำกว่า 500  บาท โจทก์จึงขอเรียกค่าขาดประโยชน์ในส่วนนี้วันละ 500 บาท  นับแต่วันที่ลูกจ้างจำเลยทำละเมิด (วันที่ 23 ตุลาคม 2551 )  เป็นต้นไปจนถึงวันฟ้อง  เป็นเวลา 68 วัน  รวมเป็นเงินจำนวน 34,000 บาท  (สามหมื่นสี่พันบาทถ้วน) และนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ารถยนต์ของโจทก์จะอยู่ในสภาพที่เรียบร้อยและใช้การได้ตามปกติ
           3.3  ผลจากการที่ลูกจ้างจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์  ทำให้รถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยต้า  รุ่นไฮลักซ์  สีเทา  หมายเลขทะเบียน ...  กรุงเทพมหานครของโจทก์เสื่อมสภาพ  เสื่อมราคาในส่วนนี้  เป็นเงินจำนวน 50,000  บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)
           รวมเป็นต้นเงินที่จำเลยต้องชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์จำนวน 416,368.75 บาท  (สี่แสนหนึ่งหมื่นหกพันสามร้อยหกสิบแปดเจ็บสิบห้าสตางค์) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันกระทำละเมิด (วันที่ 23 ตุลาคม 2551 ( จนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 68 วัน  คิดเป็นดอกเบี้ย 5,817.76 บาท (ห้าพันแปดร้อยสิบเจ็ดบาทเจ็ดสิบหกสตางค์)  รวมเป็นต้นเงินและดอกเบี้ยทั้งสิ้นจำนวน 422,186.51 บาท (สี่แสนสองหมื่นสองพันหนึ่งร้อยแปดสิบหกบาทห้าสิบเอ็ดสตางค์)  ซึ่งโจทก์ถือเป็นทุนทรัพย์ในคดีนี้
           โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับเอากับจำเลยได้  จึงต้องนำคดีมาฟ้องเพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง

                                                                                  ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด


คำขอท้ายฟ้องคดีผู้บริโภค
          ขอศาลได้โปรดออกหมายเรียกจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้
          1.  ให้จำเลยชำระเงิน  แก่โจทก์จำนวน 422,186.51 บาท (สี่แสนสองหมื่นสองพันหนึ่งร้อยแปดสิบหกบาทห้าสิบเอ็ดสตางค์) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี  ของต้นเงิน  416,368.75 บาท (สี่แสนหนึ่งหมื่นหกพันสามร้อยหกสิบแปดบาทเจ็ดสิบห้าสตางค์)  นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
          ให้จำเลยชำระเงินค่าขาดประโยชน์จากการไม่ได้ใช้สอยใช้ประโยชน์ในรถยนต์กระบะให้แก่โจทก์วันละ 500 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ารถยนต์กระบะของโจทก์อยู่ในสภาพเรียบร้อยและสามารถใช้การได้ตามปกติ

 


 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 2

ขอบคุณครับที่เอามาลง ผมจะเอาไว้เป็นตัวอย่างเวลาเขียน

โดยคุณ หัดอยู่ 14 ก.ค. 2553, 12:50

ความคิดเห็นที่ 1

ไม่ได้อ่านเลยตอบไม่ได้

โดยคุณ pop 10 ธ.ค. 2552, 21:13

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก