ปรึกษาคดีรถ จยย. ชนกัน ล่าช้ามา 3 เดือน
คุณ cyberboy2526 ขอคำปรึกษาคดีรถ จยย. ชนกัน ล่าช้ามา 3 เดือนแล้วยังไม่จบครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2552 เวลาประมาณ 23.00 น. น้องชายผมขับ จยย. ไปเส้นสุขุมวิท ศรีราชา-บางพระ พอไปถึงที่เกิดเหตุ มีชายแก่คนหนึ่งขับ จยย. ตัดหน้า (ซึ่งรถ จยย.ไม่มี พรบ. และมีอาการเมาสุรา) ทำให้น้องชายผมชนเข้าไปด้านท้ายรถคันดังกล่าว ส่งผลให้น้องชายผมได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกสันหลังยุบ หมอให้หยุดงาน หนึ่งเดือนเต็มโดยที่ไม่ได้รับเงินเดือน เนื่องจากเป็นพนักงานลูกจ้างรายปี ไม่ใช่ลูกจ้างประจำ ดังนั้นแล้ว ผมได้เรียกร้องให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายดังนี้
- ให้ซ่อมรถให้อยู่ในสภาพเดิมให้ใช้ช่างศูนย์ และใช้อะไหล่ของแท้จากศูนย์
- ให้ชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้ แต่เนื่องจากผมใช้ พรบ.ของรถผม ค่ารักษาพยาบาล ประมาณ 8,500 บาท
- ให้ชดเชยที่ขาดรายได้ เงินเดือนที่ไม่ได้รับหนึ่งเดือน จำนวน 10,000 บาท รวมโอทีแล้ว
- ให้ชดเชยช่วงที่รักษาอาการ 50,000 บาท เนื่องจากกระดูกสันหลังเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดถ้าได้รับความกระทบกระเทือนแล้วถึงแม้จะหายดีแล้วก็ไม่สมบูรณ์ 100 % รวมแล้วทั้งหมดที่เรียกร้องคู่กรณีตกลงให้ฟ้องศาลเอา
ขอถามครับ คดีนี้ร้อยเวรแยกคดีเมาแล้วขับส่งศาลแขวง ครับผมว่าไม่ถูกต้องครับ ทำไมไม่รวมเป็นคดีเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับความบาดเจ็บสาหัสครับ แล้วคดีอย่างนี้เป็นคดีเล็กครับผมว่า ถ้าร้อยเวรดำเนินการให้ไม่น่าจะเกิน 1 เดือนครับ แต่นี้เลยมา 3 เดือนกว่าแล้วเข้าใจว่าคู่กรณีผมเขามีญาติเป็นตำรวจใน สน.นี้ด้วย ดังนี้แล้วถ้าผมจะต้องทำอย่างไรต่อไปครับ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
แต่งตั้งทนายความฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420 ,มาตรา 437, มาตรา 438 ,มาตรา 443, มาตรา 444,มาตรา 448
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่น โดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่า ผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
มาตรา 437 บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะ อย่างใด ๆอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบ เพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการ เสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหาย นั้นเอง
ความข้อนี้ให้ใช้บังคับได้ ตลอดถึงผู้มีไว้ในครอบครองของตนซึ่ง ทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพหรือโดยความมุ่งหมาย ที่จะใช้ หรือโดยอาการกลไกของทรัพย์นั้นด้วย
มาตรา 438 ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
อนึ่ง ค่าสินไหมทดแทนนั้นได้แก่การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหาย ต้องเสียไปเพราะละเมิด หรือใช้ราคาทรัพย์สินนั้น รวมทั้งค่าเสียหาย อันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วย
มาตรา 443 ในกรณีทำให้เขาถึงตายนั้น ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ ค่าปลงศพ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่น ๆ อีกด้วย
ถ้ามิได้ตายในทันที ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถ ประกอบการงานนั้นด้วย
ถ้าว่าเหตุที่ตายลงนั้นทำให้บุคคลหนึ่งคนใดต้องขาดไร้อุปการะตาม กฏหมายไปด้วยไซร้ ท่านว่าบุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหม ทดแทนเพื่อการนั้น
มาตรา 444 ในกรณีทำให้เสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยนั้น ผู้ต้องเสียหายชอบที่จะได้ชดใช้ค่าใช้จ่ายอันตนต้องเสียไป และค่า เสียหายเพื่อการที่เสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงหรือแต่ บางส่วน ทั้งในเวลาปัจจุบันนั้นและในเวลาอนาคตด้วย
ถ้าในเวลาที่พิพากษาคดี เป็นพ้นวิสัยจะหยั่งรู้ได้แน่ว่าความ เสียหายนั้นได้มีแท้จริงเพียงใด ศาลจะกล่าวในคำพิพากษาว่ายัง สงวนไว้ซึ่งสิทธิที่จะแก้ไขคำพิพากษานั้นอีกภายในระยะเวลาไม่ เกินสองปีก็ได้
มาตรา 448 สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ท่านว่าขาดอายุความเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการ ละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับ แต่วันทำละเมิด
แต่ถ้าเรียกร้องค่าเสียหายในมูลอันเป็นความผิด มีโทษตามกฎหมาย ลักษณะอาญา และมีกำหนดอายุความทางอาญายาวกว่าที่กล่าวมา นั้นไซร้ ท่านให้เอาอายุความที่ยาวกว่านั้นมาบังคับ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.igetweb.com/www/kunphol/private_folder/t001.jpg