สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่เคารพ หลังจากการทำงานของรัฐบาลในช่วง 4 เดือน ซึ่งเป็นสมัยประชุมสภาที่รัฐบาลได้เริ่มทำงานโดยการผลักดันกฎหมาย รวมไปถึงข้อตกลงระหว่างประเทศมากมาย ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณท่านสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่ทำงานกันอย่างหนักตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ในการประชุมปรึกษาหารือในเรื่องสำคัญหลายเรื่อง ทำให้งานหลัก ๆ ผ่านโดยเรียบร้อย สำหรับการทำงานในส่วนอื่น ๆ ของรัฐบาล สรุปเป็นหัวข้อดังนี้ครับ
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าได้เต็มที่
รัฐบาลได้ผลักดันในเรื่องงบประมาณกลางปี หรืองบประมาณเพิ่มเติม เพื่อมาสนับสนุนโครงการสำคัญ ๆ ทั้งการเรียนฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพ อสม. เช็คช่วยชาติ โครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งโครงการเหล่านี้ก็เดินหน้าได้อย่างเต็มที่แล้ว
อนุมัติให้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการ
รัฐบาลได้มีการออกมติคณะรัฐมนตรีเพื่อที่จะให้สถานที่สำคัญที่ทางคนพิการไปใช้บริการอยู่ เช่น ศาลากลาง ที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาลและสถานีตำรวจ ต้องจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการ ต่อไปก็จะต้องมีเบี้ยเลี้ยงเพื่อที่จะช่วยสนับสนุนรายได้ให้คนพิการเดือนละ 500 บาท คงเริ่มต้นได้เมษายนปีหน้า
อนุมัติเงินเกือบ 40 ล้าน แก้ปัญหาพืชผล
รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจปัญหาพืชผลเกษตร โดยเฉพาะเรื่องผลไม้ ทั้งปัญหาเรื่องถั่วลิสงและปัญหาลิ้นจี่ที่ทางภาคเหนือร้องมา ในสัปดาห์ก่อนก็อนุมัติเงินไปเกือบ 40 ล้าน ต่อมาก็ให้ท้องถิ่นเข้ามาช่วยขายและได้ติดต่อกับทางจังหวัดให้ช่วยไปดูว่าตรงไหนที่ยังเป็นปัญหาอยู่ ผมอยากจะฝากสั้น ๆ ว่า หากท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้เลยจะดีที่สุด เพราะผลไม้ไม่เหมือนพืชผลตัวอื่น อยากเชิญชวนทุกคนช่วยกันซื้อและรับประทานผลไม้ไทย
เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรกคิดว่าคงจะหนักกว่าไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้วที่ติดลบไปเกือบ 5 และในภูมิภาคนี้ขณะนี้มีตั้งแต่ลบ 8 ถึงลบ 11 แต่ผมก็ยังมั่นใจว่า ไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาสที่ 1 จากมาตรการในการ กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เมื่อถึงไตรมาสที่ 3 ก็จะมีแผนกระตุ้นรอบ 2 เป็นการลงทุนก็จะช่วยได้อีก และตั้งเป้าว่าพอถึงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ อัตราการเจริญเติบโตก็จะกลับมาเป็นบวก
ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว
มาตรการที่ออกมามีทั้งการจูงใจได้ เช่น ค่าวีซ่า ค่าจอดอากาศยาน เรื่องของมาตรการที่เป็นการกระตุ้นลักษณะนี้ ประกันภัยอะไรนี้ รวมทั้งสินเชื่ออย่างที่บอก 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการการท่องเที่ยว และรัฐบาลกำลังทำแผนกระตุ้นการลงทุน
ภาษีทรัพย์สินและที่ดินช่วยมีความเป็นธรรม
ฐานภาษีที่เรียกว่าทรัพย์สินและที่ดินนี้ จะเป็นภาษีที่มีเหตุมีผลมากขึ้นกว่าภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือน คือเก็บเป็นสัดส่วนตามมูลค่าของทรัพย์สิน จะช่วยให้สังคมมีความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราก็คงจะต้องวางระบบ กระทรวงการคลังก็เตรียมอยู่ เช่น ยกเว้นให้คนที่อาจจะมีรายได้น้อย แต่บังเอิญอยู่ในที่ดินซึ่งมีมูลค่าสูง อย่างคนจนในเมือง เป็นต้น และควรมีมาตรการลงโทษคนที่สะสมที่ดินปล่อยให้รกร้างไม่ใช้ประโยชน์
ไทยต้องมีศักยภาพแข่งขันกับต่างประเทศ
โครงการที่เราเน้นย้ำเรื่องไทยเข้มแข็ง เช่น เรื่องการศึกษาก็ต้องลงทุน เรื่องของเทคโนโลยีก็ต้องทำ ในชนบทภาคการเกษตรที่ผลผลิตต่ำส่วนหนึ่งก็เพราะขาดเรื่องแหล่งน้ำก็ต้องลงทุน เรื่องของถนนหนทางที่จะเชื่อมโยงให้พี่น้องประชาชนเดินทางและระบายสินค้าได้สะดวกก็เป็นเรื่องสำคัญ ขนส่งระบบรางที่จะช่วยลดต้นทุนในด้านการขนส่งก็ต้องลงทุน อันนี้ก็อยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เราต้องทำอีกมากในการเพิ่มความเข้มแข็งของประเทศ ผมคิดว่าแผนมีความชัดเจนและพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในการนำเสนอต่อสาธารณะ ต่อสภา สัปดาห์หน้า ขณะที่เรื่องหลัก ๆ ทางเศรษฐกิจที่รอการสะสางได้ข้อยุติคือ 1. เรื่องแก้ปัญหา การระบายสินค้าเกษตร หลังจากแทรกแซง 2. มีโครงการขนาดใหญ่ ก็อยากจะเร่งให้ได้ข้อยุติ 3. ตัวเลขส่งออก ตัวเลขการท่องเที่ยว ยังเป็นปัญหาอยู่ก็จะเป็นหลักสำคัญของการทำงานช่วงสัปดาห์ข้างหน้า
ถาม : จำนำข้าวเปลือกที่จะครบสัญญาสิ้นเดือนพฤษภาคม รัฐบาลมีนโยบายอย่างไร ? จะดำเนินการในทางไหน จะให้ชาวบ้านระบายข้าวเองหรือรัฐบาลจะช่วยดูแล ? (คุณประวิทย์ จ.บุรีรัมย์ / 08-0161xxxx)
ตอบ : โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 กรณีเกษตรกรจำนำข้าวเปลือกที่ยุ้งฉางของตนเอง เมื่อครบกำหนดรับจำนำ หากเกษตรกรไม่ประสงค์จะไถ่ถอน จะต้องทำการส่งมอบข้าวเปลือกจำนำตามปริมาณที่จำนำ เพื่อที่รัฐบาลจะได้นำข้าวเปลือกไประบายจำหน่ายต่อไป โดยสามารถติดต่อส่วนองค์การที่ เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือ ธ.ก.ส. สาขาที่จำนำข้าวเปลือกไว้ ทั้งนี้การดำเนินการมีคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและเป็นผู้กำกับดูแล
ถาม : เช็คช่วยชาติบางคนยังไม่เคยลงทะเบียนรับเงิน 2,000 บาท และตอนนี้ก็ว่างงานอยู่ อยากทราบว่าจะมีสิทธิได้รับเงิน 2,000 บาท อีกหรือไม่ และถ้ามีสิทธิได้รับต้องทำอย่างไร ? (คุณสมคิด กรุงเทพมหานคร / 0-2427xxxx)
ตอบ : ในกรณีที่ไม่เคยลงทะเบียน สามารถตรวจสอบสิทธิก่อนได้ที่สำนักงานประกันสังคม เบอร์ 1506 เพื่อตรวจสอบสิทธิ ส่วนในเบื้องต้นผู้ใดออกจากงานแล้วไม่เกิน 6 เดือน และส่งเงินประกันสังคม ทางประกันสังคมจะคุ้มครอง และสามารถขอขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 31 พ.ค. 52 แต่อย่างไรก็ตามควรโทรฯตรวจสอบสิทธิก่อนเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
ถาม : ทำไมเงิน 2,000 บาท และเงินตกเบิกเดือนละ 1,500 บาท ยังไม่ได้รับเลย ? (ครูเอกชน จ.นครปฐม / 08-7017xxxx)
: ทหารเกณฑ์กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่ได้รับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ขอทราบว่าเมื่อไหร่จะได้รับ ? (คุณตะวัน จ.ประจวบคีรีขันธ์ / 08-7162xxxx)
ตอบ : ทีมงานได้สอบถามไปที่สำนักงานประกันสังคมแล้ว รบกวนติดต่อกลับไปยังสำนักงานประกันสังคม เบอร์ 0-2956-2546 เนื่องจากสำนักงานประกันสังคมต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบให้ต่อไป
ถาม : กรณีธนาคารออมสิน สาขาพิษณุโลก ลงประกาศหนังสือพิมพ์ว่าผู้ที่ติดเครดิตบูโร สามารถกู้เงินจากธนาคารออมสินได้ แต่พอติดต่อธนาคารกลับได้รับคำตอบว่าผู้ที่ติดเครดิตบูโรไม่สามารถกู้เงินได้ อยากให้ช่วยชี้แจงว่าจริง ๆ แล้วกู้เงินได้หรือไม่ ? (คุณศศิประภา จ.พิษณุโลก / 08-4181xxxx)
ตอบ : ผู้กู้เงินและผู้ค้ำประกันที่ยังติดเครดิตบูโรอยู่นั้นไม่สามารถกู้เงินกับทางธนาคารออมสินได้ ซึ่งทางธนาคารจะพิจารณาเป็นรายบุคคล แต่ในอนาคตอาจเป็นไปได้ที่ผู้กู้หรือผู้ค้ำประกันที่ผ่อนชำระเครดิตบูโรหมดแล้วแต่ยังมีชื่อติดอยู่นั้น ทางธนาคารจะผ่อนผันให้ แต่อาจจะพิจารณาเป็นรายบุคคลอีกครั้ง
ถาม : เงินผู้สูงอายุ หากผู้มีสิทธิเคยมีการยื่นเรื่องขอไปแล้ว แต่เพิ่งเสียชีวิตในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สอบถามเทศบาล ได้รับคำตอบว่าถ้าเสียชีวิตแล้วถือว่าเป็นโมฆะ เลยอยากได้รับคำชี้แจงว่าคำตอบถูกต้องหรือไม่ ? (คุณสุดารัตน์ จ.กาฬสินธุ์ / 08-7241xxxx)
ตอบ : เงินผู้สูงอายุนั้นจะหมดสิทธิและถือเป็นโมฆะทันทีที่ผู้มีสิทธิได้เสียชีวิตลง อย่างที่คุณสุดารัตน์ได้รับคำชี้แจงนั้นถูกต้องแล้ว
ถาม : โรงเรียนบางแห่ง แจ้งให้ไปรับค่าเล่าเรียน ได้รับแจ้งว่ารัฐบาลให้เงิน 1,200 บาท แต่พอไปรับเงิน ทางโรงเรียนกลับหักค่าใช้จ่าย เหลือเงินที่ได้รับจริงเพียง 150 บาท เท่านั้น ทำไมเป็นเช่นนั้น อยากทราบข้อเท็จจริง ? (คุณ ประทีป จ.ปทุมธานี / 08-4019xxxx)
: โครงการเรียนฟรี อยากให้ชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจนว่าส่วนใดบ้างที่ฟรี และส่วนใดบ้างที่ไม่ฟรี เช่นค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าเสื้อผ้า ฯลฯ (คุณสำเริง จ.กำแพงเพชร / 08-9178xxxx)
ตอบ : โครงการเรียนฟรีเป็นโครงการที่รัฐบาลช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีรายละเอียดดังนี้ หนังสือเรียน 1. ระดับก่อนประถมศึกษาใช้หนังสือส่งเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย 2. ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ใช้หนังสือเรียนทั้ง 8 กลุ่มสาระ ทุกระดับชั้น
อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นสำหรับนักเรียน ประกอบด้วยแบบฝึกหัดกลุ่มสาระเรียนรู้ (ระดับประถมประกอบด้วยคณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) สมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด เครื่องมือเรขาคณิต วัสดุฝึกการใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และกระดาษ A4 สีเทียน ดินน้ำมันไร้สารพิษสำหรับผู้เรียนระดับก่อนประถมศึกษา เป็นต้น
จำนวนเงินช่วยเหลือมีดังนี้
อุปกรณ์การเรียน ก่อนประถม 100 บาท/คน ประถมศึกษา 195 บาท/ คน มัธยมศึกษาตอนต้น 210 บาท/คน มัธยมศึกษาตอนปลาย 230 บาท/คน
หนังสือเรียน แบ่งเป็นก่อนประถมศึกษา 200 บาท/คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 483 บาท/คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 347 บาท/คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 365 บาท/คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 580 บาท/คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 424 บาท/คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 496 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 739 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 564 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 560 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 1,160 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 805 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 763 บาท/คน
การจัดซื้อจัดหาหนังสือเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะโอนเงินค่าหนังสือเรียน ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนทั่วไปเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของสถานศึกษาและให้สถานศึกษาจัดซื้อหนังสือเรียน
การจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์การเรียน สพฐ. จะโอนเงินงบประมาณค่าอุปกรณ์การเรียน ซึ่งเป็นเงินงบอุดหนุนทั่วไป เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของสถานศึกษา โดยให้สถานศึกษาจ่ายเงินสดให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง
เครื่องแบบนักเรียน เสื้อ/กางเกง/กระโปรง คนละ 2 ชุดต่อปี กรณีมีชุดนักเรียนเพียงพอแล้ว สามารถซื้อเข็มขัด รองเท้า ถุงเท้า ชุดลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด/ชุดกีฬาเพิ่มได้ กรณีการจัดซื้อชุดนักเรียนที่ต่างไปจากชุดนักเรียนปกติและราคาสูงกว่าที่กำหนดวงเงินอาจซื้อได้แค่ 1 ชุด
จำนวนเงินช่วยเหลือมีดังนี้
เครื่องแบบนักเรียน แบ่งเป็นก่อนประถม 300 บาท/คน ชั้นประถมศึกษา 360 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 450 บาท/คน ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 500 บาท/คน การจัดซื้อจัดหา สพฐ.จะโอนเงินงบประมาณค่าเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งเป็นเงินงบอุดหนุนทั่วไป เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของสถานศึกษา โดยให้สถานศึกษาจ่ายเงินสดให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อไปจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียนคนละ 2 ชุดหรือเครื่องแบบอื่น ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น
กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (กิจกรรมเสริม) กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่สถานศึกษาจัดขึ้น ประกอบไปด้วย 1.กิจกรรมวิชาการ 2.กิจกรรมคุณธรรม/ลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด 3.ทัศนศึกษา 4.การบริการสารสนเทศ (เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์)
ทั้งนี้ในการพิจารณากำหนดกิจกรรมทั้ง 4 กิจกรรม ต้องให้ 4 ฝ่าย (ผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนชุมชน ผู้แทนกรรมการนักเรียน) และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีส่วนร่วมในการพิจารณา โดยที่ผลการพิจารณาต้องไม่เป็นการรอนสิทธิของเด็กยากจนและด้อยโอกาสที่พึงจะได้รับ การจัดซื้อจัดหาในส่วนของกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สพฐ.จะโอนเงินงบประมาณ ซึ่งเป็นเงินงบอุดหนุนทั่วไป เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของสถานศึกษา โดยให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมสำหรับนักเรียน
สำหรับวันนี้เนื้อที่หมดแล้ว พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ.
ขอขอบคุณเนื้อหาประกอบข่าวจาก เดลินิวส์