ผู้ปกครองกระบี่โวย รร.เหลือบแฝง หากินโครงการเรียนฟรี|ผู้ปกครองกระบี่โวย รร.เหลือบแฝง หากินโครงการเรียนฟรี

ผู้ปกครองกระบี่โวย รร.เหลือบแฝง หากินโครงการเรียนฟรี

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ผู้ปกครองกระบี่โวย รร.เหลือบแฝง หากินโครงการเรียนฟรี

บังคับซื้ออุปกรณ์การเรียน ทำให้เงินค่าชุดที่แจกหมดไปกับอุปกรณ์ จนต้องหาเงินมาซื้อตำราเรียนเอง พบเกือบทุกโรงเรียนมีลักษณะเดียวกัน แถมจัดแบบฝึกทักษะที่ไม่ใช่วิชาหลักมาให้ ...

บทความวันที่ 5 พ.ค. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1245 ครั้ง


ผู้ปกครองกระบี่โวย รร

ผู้ปกครองกระบี่โวย รร.เหลือบแฝง หากินโครงการเรียนฟรี

 

บังคับซื้ออุปกรณ์การเรียน ทำให้เงินค่าชุดที่แจกหมดไปกับอุปกรณ์ จนต้องหาเงินมาซื้อตำราเรียนเอง พบเกือบทุกโรงเรียนมีลักษณะเดียวกัน แถมจัดแบบฝึกทักษะที่ไม่ใช่วิชาหลักมาให้ ...

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (5 พ.ค.) ว่า ขณะนี้ มีผู้ปกครองนักเรียนในพื้นที่จ.กระบี่จำนวนมากร้องเรียนว่า โครงการตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพของรัฐบาลิ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และยังเป็นการสร้างโอกาสให้โรงเรียนบางแห่งนำนโยบายนี้หาเงินเข้า กระเป๋าตัวเอง ในรูปแบบของการบังคับ ยัดเยียดให้ผู้ปกครอง และนักเรียนต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนในราคาสูง บางอย่างไม่มีความจำเป็น ต้องการให้หน่วยงานรัฐและผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบระบบการจัดการนี้

ผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง กล่าวว่า โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.เขาพนม และอ.เมืองกระบี่ ใช้วิธีการโดยให้ผู้ปกครองนักเรียน ซื้ออุปกรณ์การเรียนในราคาสูงเกินจริง โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณมาให้สำหรับนักเรียนก่อนประถมศึกษา ประกอบด้วยเครื่องแบบนักเรียนจำนน 300 บาทต่อคน ส่วนประถมศึกษาจัดสรรให้จำนวน 360 บาทต่อคน ส่วนค่าอุปกรณ์การเรียนก่อนประถมจัดสรรให้ 100 บาทต่อคน และระดับประถมจัดสรรให้จำนวน 195 บาทต่อคนต่อภาคเรียน เมื่อผู้ปกครองนำนักเรียนไปรับเงินปรากฏว่า โรงเรียนให้นำใบเสร็จในการซื้อชุดนักเรียนมาให้ ส่วนใหญ่นักเรียนชั้นประถมศึกษาจะเกินวงเงิน 360 บาทต่อคนอยู่แล้ว จากนั้นจะจ่ายเงินให้ผู้ปกครองจำนวน 360 บาท แล้วให้ผู้ปกครองไปรับอุปกรณ์การเรียน ระดับประถมจัดสรรให้จำนวน 195 บาท แต่โรงเรียนจัดอุปกรณ์การเรียนในราคาสูงกว่า 195 บาท สูงถึง 555 บาท เท่ากับว่าเงินค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนรวมกันจะเป็นแค่ค่าอุปกรณ์ เท่านั้น

ผู้ปกครองนักเรียนรายนี้ กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อุปกรณ์การเรียนที่โรงเรียนจัดสรรให้นั้น เมื่อนำมาตรวจสอบ กลับพบว่าบางอย่างไม่มีความจำเป็น เช่น แบบฝึกทักษะ แนบมาในอุปกรณ์การเรียนถึง 3 เล่ม ราคาเล่มละ 80-96 บาท รวมราคาถึง 279 บาท และยังพบว่าไม่เหมาะสำหรับนักเรียนเช่น แบบฝึกทักษะสุขศึกษาและพลศึกษา แบบฝึกทักษะแม่บทมาตรฐาน (สังคมศึกษาศาสนฯ) ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นวิชาหลักที่นักเรียนจะได้ฝึกทักษะ คือวิชาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้นทางโรงเรียนยังให้สมุดปกแข็งและปกอ่อนเกินความจำเป็น เช่นสมุดปกแข็ง 6 เล่ม ราคาเล่มละ 20 บาท และปกอ่อน 8 เล่ม ราคาเล่มละ 7.5 บาท ยังไม่นับรวมถึงไม้บรรทัด ยางลบ ดินสอ ซึ่งหากให้เงินกับผู้ปกครองมาเองในวงเงิน 195 บาท ตามที่รัฐบาลจัดสรรให้ นักเรียนและผู้ปกครองก็สามารถไปหาซื้อเองได้ และบางคนก็ยังมีอุปกรณ์เหล่านี้อยู่ก็สามารถนำมาใช้ได้อีก และเงินจำนวนนี้ก็จะได้ไปหาซื้อสิ่งอื่นที่จำเป็นเช่น ชุดนักเรียน แต่การดำเนินการของโรงเรียนเท่ากับเอาเงินที่รัฐจัดมาให้ทั้งหมด ไปอยู่แค่อุปกรณ์การเรียนเท่านั้น

ผู้ปกครองรายเดิม กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ต้องการสำหรับนโยบายนี้ตนเชื่อว่ารัฐบาลคิดถูกและคิดดี แต่ผู้ปฏิบัติกลับนำมาแสวงหาโอกาส ก็อยากจะฝากไปยังรัฐบาล ให้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ เพื่อผู้ปกครองจะได้ไม่เดือดร้อนตามที่รัฐบาลต้องการให้เป็น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากผู้ปกครองรายนี้แล้ว ยังมีผู้ปกครองอีกหลายโรงเรียนที่ร้องว่า เป็นไปลักษณะนี้เช่นกัน และบางแห่งยังนำอุปกรณ์การเรียนอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นมาบังคับขายให้กับผู้ ปกครอง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครอง การทำเช่นนี้ เหมือนกับการหากินของโรงเรียน โดยเฉพาะแบบฝึกทักษะ ที่ราคาหลายร้อยบาท แต่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นในเบื้องต้นก่อนเปิดเรียนอาจเป็นการไปหาซื้อมาในราคาถูก เพื่อจำหน่ายให้นักเรียนในราคาสูงด้วย

 

 

ขอขอบคุณ เนื้อหาประกอบข่าวจาก ไทยรัฐ

 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

อยากให้ผู้ที่รับผิดชอบมาตรวจเอกสารเกี่ยวกับการซื้อและการแจกอุปกรณ์ในโรงเรียนด้วยเพราะบางโรงไม่ได้แจกอย่างที่รัฐบาลให้จะให้เฉพาะชุดนักเรียนกับนักเรียนใหม่เท่านั้นและอุปกรณ์การเรียนไม่มีการแจกเลยทำให้ผู้ปกครองต้องออกเงินเอง(แจกเฉพาะหนังสือเท่านั้น)

โดยคุณ ครูในสามจังหวัดใต้ 28 พ.ค. 2553, 23:14

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก