เชิดเงินเดือน10ล.
ครูวุ่นทั้งจว.
ครูเมืองร้อยเอ็ดวุ่นเบิกเงินเดือนไม่ได้
สอบพบจนท.การเงินสาวเชิดเงินหนีนับสิบล้านบาท
แก้ไขข้อมูลนำเงินเข้าบัญชีพรรคพวกรวม 3 คน
ก่อนถอนรวดเดียวเกลี้ยงแล้วเผ่นหนีไปทันที
ความมาแตกเพราะครูจะไปกดเงินเดือนมาใช้พบยังไม่เข้าบัญชี ตร.ออกหมายจับข้อหายักยอกทรัพย์
ผอ.สพท.รีบประสานธนาคารขอเบิกเงินพิเศษมาจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนก่อน
ยอมรับไว้ใจลูกน้องเกินไปวอนให้นำเงินมาคืนแล้วจะไม่เอาเรื่อง
กฎหมายที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีนี้ โดยทีมทนายความรายการทนายคลายทุกข์
คือ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 66, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,147,151,353
มาตรา 66 เหตุที่จะออกหมายจับได้มีดังต่อไปนี้
(1)
เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี
หรือ
(2)
เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี
หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น
ถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
หรือไม่มาตามหมายเรียกหรือตามนัดโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร
ให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 83
ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป
ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ
ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ
จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต
หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต
และปรับตั้งแต่สองพัน บาทถึงสี่หมื่นบาท
มาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ
จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ
เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี
หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
มาตรา 353
ผู้ใดได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น หรือทรัพย์สินซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ โดยทุจริต
จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รายละเอียดรายงานข่าว
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 28 เม.ย. นาย
ตำรวจสอบสวนทราบว่า นางรุ่งรัตน์ แก้ข้อมูลการนำเงินเข้าบัญชีเงินเดือนของครูแต่ละคนไปเข้าบัญชีของพรรคพวกประกอบด้วย
น.ส.
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า
ทางสพท.ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของครู
และเพื่อให้สบายใจจึงดำเนินการใน 3 มาตรการ คือ 1.ชะลอการใช้หนี้สหกรณ์ครู
เพื่อนำเงินมาจ่ายเป็นเงินเดือน 2.ประสานกับธนาคารกรุงไทย
สาขาร้อยเอ็ด เพื่อขอโอดี (เงินเบิกเกินบัญชี) สพท.ร้อยเอ็ด เขต 1 ไปจ่ายเงินเดือนครูได้ในวันที่ 29 เม.ย. และ 3.จะรายงานไปยังผอ.สำนักกองคลัง สำนักงานคณะกรรม การการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(สพฐ.) เพื่อหาทางช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ขอให้ครูทุกคนอดใจรอและสบายใจได้ว่าไม่เกิน 1-2
วันได้รับเงินเดือนแน่นอน
ส่วนนายบุญโฮม หัวหน้างานของนางรุ่งรัตน์
กล่าวว่า สาเหตุเพราะไว้ใจลูกน้องเกินไป และไม่คิดว่าลูกน้องจะแก้ข้อมูลเชิดเงิน
ขอให้นางรุ่งรัตน์ ติดต่อนำเงินมาคืนด้วย ยินดีให้อภัย
ขอขอบคุณ
รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด