ปรึกษาทนาย – ปัญหาเรื่องที่ดิน|ปรึกษาทนาย – ปัญหาเรื่องที่ดิน

ปรึกษาทนาย – ปัญหาเรื่องที่ดิน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ปรึกษาทนาย – ปัญหาเรื่องที่ดิน

คุณศราวุธ ขอคำปรึกษาทนายคลายทุกข์ว่า กระผมมีเรื่องรบกวนถามหน่อยครับคือ

บทความวันที่ 25 ก.พ. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 28440 ครั้ง


ที่ดิน

ปรึกษาทนาย ปัญหาเรื่องที่ดิน

 

คุณศราวุธ ขอคำปรึกษาทนายคลายทุกข์ว่า กระผมมีเรื่องรบกวนถามหน่อยครับคือ ผมวางมัดจำที่ดินไป 2 แสนบาท เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2552 จึงทำการเซ็นสัญญากันแต่ที่ดินยังไม่ได้แบ่งแยกนะครับ แล้ว 1 อาทิตย์ ต่อมาผมให้เจ้าของที่ดินไปแบ่งแยกให้เพื่อจะนำไปกู้ธนาคารครับ  แต่เจ้าของที่บอกว่าถ้าจะให้แบ่งต้องวางเงินมัดจำเพิ่ม  โดยจะขอเพิ่มอีก 1 แสนบาท

 

เรื่องก็เลยเกิดว่า ผมมารู้ทีหลังว่าที่ดินนั้นติดจำนองอยู่ โดยเจ้าของที่ดินไม่บอก  ผมเลยไปขอเอกสารจากกรมที่ดินมาในวันที่ 16 ก.พ. 2552 และถ่ายสำเนามาด้วย  โดยที่เจ้าของที่ดินไม่รู้พอผมถามไปก็บอกว่าที่ดินไม่มีปัญหาหรอกรีบนำเงินมาให้จะได้แบ่งแยกเร็วๆโดยโกหกว่าทีดินอยู่ศาล เดี๋ยวไปเอาออกมาให้วันเดียวก็เสร็จ  ผมก็เลยสงสัยว่าทำไมถึงไม่บอกว่าที่ดินติดจำนองอยู่กลับมาโกหกว่าอยู่ที่ศาล  และยังให้สำเนาโฉนดที่ดินที่ไม่ได้ติดจำนองมาเป็นหลักฐานในการเซ็นสัญญามัดจำด้วย 

 

ผมก็เลยไม่ไว้ใจ เมื่อที่ดินมีปัญหาผมจึงขอยกเลิกสัญญา  แต่เจ้าของที่ไม่ยอมคืนเงินให้ พอเขารู้ว่าผมไปที่ดินในวันที่ 16 ก.พ. 2552 เขาเลยไปที่ดินในวันที่ 17 ก.พ. 2552 คือในวันต่อมา และก็ได้ไปถอนจำนองออกมา  และยื่นเรื่องแบ่งแยกเรียบร้อยโดยไม่สนใจเงินอีก 1 แสนบาท ที่ต้องการจากผมแต่อย่างใด  นี่เป็นเรื่องคร่าวๆครับ  พอตอนนี้ผมต้องการเงินมัดจำคืน เขาบอกว่าเขาไม่ได้ผิดสัญญาแต่อย่างไร เนื่องจากเขาได้ถอนจำนองออกมาแล้ว และยื่นเรื่องแบ่งแยกตามที่ผมต้องการแล้ว  ผมจึงขอถามอาจารย์หน่อยครับว่า ถ้าผมจะฟ้องขอยกเลิกสัญญา

 

1.ในสัญญาผู้จะขายตกลงจะขายและผู้ซื้อตกลงจะซื้อที่ดินโดยปลอดจากสิทธิภาระผูกพันใดๆ  ซึ่งเจ้าของที่ไม่ยอมเปิดเผยและปกปิดเอกสารตัวจริงแก่ผู้ซื้อ  ในกรณีเช่นนี้เข้าข่ายผิดสัญญาไหมครับ

            2. สัญญาระบุงวดที่ 2 ระบุวางเงินในวันที่ 10 ก.พ. 2553 ซึ่งเป็นเวลา 1 ปีและเจ้าของที่ดินได้ไปถอนจำนองออกมาแล้วในวันที่ 17 ก.พ. 2552 และเป็นการไถ่ถอนจำนองหลังสัญญาในข้อที่ 1 โดยเจ้าของที่บอกว่าได้ทำตามสัญญาแล้ว

3. ในกรณีอย่างนี้ผมมีสิทธิ์จะฟ้องยกเลิกสัญญาได้ไหมครับ

4. ถ้าผมฟ้องจะต้องฟ้องอาญาหรือแพ่งครับ

            5. ผมจะมีสิทธิ์ได้เงินคืนไหมครับถ้าต้องฟ้องจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 490

สวัสดีค่ะ.จะขออนุญาต ปรึกษาเรื่องที่ดินค่ะ ปัญหาคือ มีที่นาอยู่30ไร่ แม่โอนเป็นชื่อหนูทั้งหมดคนเดียวทั้ง30ไร่ ทีนี้จะแบ่งให้พี่2คน คนละ5ไร่ ซึ่งไปเดินเรื่องแบ่งโฉนดออกเป็น3 ส่วนแล้ว คือ 

1)20ไร่ ชื่อหนูคนเดียว 

2)5ไร่   ชื่อหนูคนเดียว 

3)5 ไร่ ชื่อหนูคนเดียว 

  

แต่ด้วยเหตุจำเป็นเรื่อวโคสิค จึงยังไม่ได้ไปโอนในส่วนของพี่ๆทั้ง2คน ทีนี้เขาจะไปฟ้องศาล ฟ้องทนายเพื่อรื้อส่วนแบ่งใหม่เรื่อวคืออยากได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติม ในกรณีนี้พี่ทั้ง2คน เขาสามารถทำเรื่องฟ้องได้หรือเปล่าคะ

โดยคุณ ภรภัทร สิงห์สุข 15 ม.ค. 2565, 09:35

ความคิดเห็นที่ 489

มีพินัยกรรมธรรมดา แบบพิมพ์มีพยาน2คน(ในเอกสารได้ระบุ ผจก มรดกไว้)พินัยกรรลุงยกให้หลาน เจ้าหน้าที่กรมที่ดินเชคเอกสารแล้วแจ้งว่า ประกาศครบ30วัน ถ้าไม่มีผู้คัดคัานสามารถโอนได้เลย โดยไม่ต้องแต่งตั้ง ผจก มรดกที่ศาลหรืแ นอกจากมีข้อโต้แยัง ช่วงประกาศ (ยื่นแล้วไม่มีการคัดคัาน)

+++ไม่มีทรัพย์อย่างอื่นนอกจากทีดืน****

คำถาม  1 หลานสามารถนำพินัยกรรมไปทำเรื่องทีกรมทีดินทีดินได้เลยใช่ไหมคะ

2 หรือเราควรแต่งตั้ง ผจก มรดก โดยศาลเพื่อเป็นการพิสูจน์พินัยกรรม ดีไหมเพื่อป้องกันปัญหาภายหนัา

รบกวนคุณทนายว่าควรดำเนินการอย่างไร

โดยคุณ เก่ง 26 ต.ค. 2563, 16:15

ความคิดเห็นที่ 488



โดยคุณ สุนิสา 29 ก.ย. 2562, 15:07

ความคิดเห็นที่ 487

เรียนปรึกษาคะ

เนื่องจากคุณพ่อได้ฟ้องขอเป็นผู้จัดการมรดกที่ดินของคุณปู่เพื่อมาทำการแบ่งปันไห้กับทายาทพ่อมีพี่น้องเก้าคนเสียชีวิตไปหมดแล้วพ่อเป็นคนที่เก้าตอนนี้ได้ทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินจำนวนเจ็ดแปลงไห้กับบุตรของพี่ๆที่เสียชีวิตไปแล้วในจำนวนพี่น้องเก้าคนมีสองคนที่ไม่ขอรับที่ดินตั้งแต่ครั้งยังมีชีวิตอยู่แต่เมื่อพ่อของดิฉันทำการฟ้องเป็นผู้จัดการมรดกเพื่อนำมาแบ่งปันลูกหลานลูกของลุง(พี่ชายพ่อ)ที่ไม่ขอรับเมื่อครั้งลุงมีชีวิตอยู่จะฟ้องร้องพ่อดิฉันว่าพ่อดิฉันไม่แบ่งที่ดินไห้พ่อดิฉันจะมีความผิดรึไม่อยากทราบ

พ่อแบ่งที่ดินจำนวนเจ็ดแปลงอีกสองคนที่ไม่ได้แบ่งไห้เพราะเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ได้ปฏิเสธ

ว่าไม่เอาคะ

โดยคุณ คิดถึงคนบนฟ้า 1 ก.ค. 2562, 10:27

ความคิดเห็นที่ 486

จากข้อความข้างบนเราสามารถเรียกร้องอะไรได้มั๊ยคะพ่อมีสัญญา

ซื้อขายค่ะ


รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ

ขอบพระคุณมากๆค่ะ

โดยคุณ Kesraporn Chayanto 8 มิ.ย. 2562, 10:39

ความคิดเห็นที่ 485

สวัสดีค่ะอยากรบกวนปรึกษาเรื่องการแบ่งซื้อที่ดินค่ะ

คือเมื่อปีพ.ศ 2541 พ่อของดิฉันได้ซื้อที่นาที่ติดกับที่นาของตัวเองประมาณ1ไร่แต่ที่ดินผืนนี้ติดจำนองอยู่กับธนาคาร ซึ่งพ่อก็ได้ทำนาในส่วนที่ซื้อมาตลอดตั้งแต่ ปี2541-2560 แต่ไม่ได้โอนพอมาปี2561 ลูกชายคนเล็กของเจ้าของที่นาเขาไปไถ่ถอนออกมาแล้วเขาไม่ให้ทำแล้วเขาก็เอาที่ดินที่พ่อซื้อคืนเพราะเขาบอกว่าเขา

ไถ่มายกแปลงมันต้องเปนของเขาหมด ดิฉันจึงอยากปรึกษาคุณทนายว่าถ้าดิฉันจะฟ้องร้องได้หรือเปล่าคะ

ถ้าไม่ได้ก็อยากจะขอเงินคืนค่ะ

โดยคุณ Kesraporn Chayanto 8 มิ.ย. 2562, 10:31

ความคิดเห็นที่ 484

ขออนุญาตเรียนถามครับ

ผมซื้อที่ดินจากเจ้าของซึ่งแจ้งว่าไม่มีเอกสารสิทธิ์ไดๆเลย จำนวน 20 ไร่ แบ่งกับญาติคนละ 10 ไร่ โดยเจ้าของคนนี้ทำการเกษตรมาหลายเกินสิบปี ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่  หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 7 ปี ผมตรวจสอบกับเวปไซต์ของกรมที่ดินพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าว มีเอกสารสิทธฺ์ นส4จ โดยเป็นของอีกคนซึ่งไม่ใช่เจ้าของคนที่ผมซื้อมาครับ  ผมต้องทำอย่าไรบ้างครับ ขอคำแนะนำ  ที่ดินการเกษตร 

ขอคำแนะนำด้วยครับ

ขอบพระคุณครับ

โดยคุณ กิจวัฒ 29 พ.ค. 2562, 01:08

ความคิดเห็นที่ 483

ขอคำแนะนำน่อยคับ คือผมมีญาติคนนื่งซื่งเปนชาวบ้านไม่ค่อยรุ้เรื่องกฎหมายฝากให้ผมช่วยเรียกร้องความเปนธรรมให้แกน่อย เรื่องมีอยุ่ว่า น้าผมมีที่ดิน ครอบครองทำกินมาเปนเวลาหลายสิบปีตั้งแต่รุ้นพ่อ แม่ ที่ดินตรงนี้เปนที่ดินเปล่า ไม่มีใบอะไร แต่ก้อได้ทำกินมาช้านาน พ่อแม่ก้อได้เสียไป หลายปีต่อมา ลูกๆ ทั้งหลาย ขอออกลางวัด แบ่งที่ดินกันโดยที่ดินทั้งหมด 50กว่าไร่ ปรากฏหัวหน้าหน่ยวลางวัดบอกว่าสามารถออกโฉนดได้ คนละ 10ไร่ = น .ก 10 น.ข 10 น.ค10 ยังคงเหลือตกหล่น จำนวน 20 ไร่ นาง ก ข ค มีการทักท้วง ว่าทำไมไม่ออกราววัดให้ทั้งหมด างฝ่ายรางวัดบอกว่าเยอะเกินไป ถ้าจะให้ทำทั้งหมด ที่ตรงนี้จะยกเลิก จะไม่ออกโฉนดให้ ตกลงทิ้งความงวยงง ให้3พี่น้อง และ20ไร่ให้ทำรอบต่อไป แล้วก้อให้เช็นรับโฉนดที่กล่าวมาข้างต้น  ต่อมา หลายปี ทางรัฐบาลว่าใครมีที่ตกหล่น ให้มาทำเรื่องออกโฉนดได้ แต่ปรากฎว่าที่ตรงนี้มีผุ้ครอบครองออกโฉนด  ทีนี้ขอถามผุ้รุ้กฎหมาย น่อยคับกรณีแบบนี้ จะช่วยน้าผมได้ไหม  ถ้าจะสุ้พอมีโอกาสชนะไหม หลักฐานมีเพียงพยาน ที่ข้างเคียง และการเสียภาษีที่ดิน พยานแวดล้อมว่าผุ้ที่เสียหายเคยทำกินมาเปนเวลานานหลายปี ขอขอบคุณล่วงหน้าคับสำหรับข้อแนะนำ

โดยคุณ สมบูรณ์ แสงเทพ 26 มี.ค. 2562, 12:33

ความคิดเห็นที่ 482

ขอปรึกาาหน่อยค่ะ  



ที่ดินที่อยุ่นี้อยุ่มานานมากแล้ว มีแค่ใบครอบครอง ที่ดินอ่ะคะ แต่พอไปติดต่อที่ดินเพื่อขอออกนส.3 หรือโฉนด เขาบอกที่พื้นนี้เป็นเขตโบราณสถาน แต่ณ ปัจจุบัน โบราณสถานถูกขุดรื้อออกไปนานแล้ว แล้วตัวบ้านก็อยุ่ห่างจากโบราณสถานมาก จะขอออกให้ได้ไหมค่ะ หรือต้องทำไงบ้างค่ะ

โดยคุณ มายด์ 22 มี.ค. 2562, 22:35

ความคิดเห็นที่ 481

ปัญหามีอยู่ว่ายายมีลูก 7 คน  แบ่งที่ดินให้ลุกคนละ 7 ไร่  แต่ลูกคนเล็กได้ 26 ไร่  แล้วเซนต์เอกสารว่าที่ดินแปลงนี้ยกให้ นาง  สม  สมภักดี  ครอบครองเพียงผู้เดียว  แต่วันโอนที่ดินไม่มีใครคัดคาน  ต่อมาระยะเวลา  29 ปี  ลูกที่ได้ 7 ไร่ขายที่ดินไปหมดแล้ว  แล้วมาขอแบงที่ดินใหม่จากน้องคนเล็ก  แต่น้องไม่ให้จึงเกิดการฟ้องร้องกัน  แต่ยายยังมีชีวิตอยู่  แต่ที่ 26 ไร่ที่ลูกคนเล็กได้  ได้ยกให้ทายาทหรือบุตรไปหมดแล้วที่ดินพื้นนี้ได้ทำนามานานแล้ว  แบบนี้จะมีสิทธิ์ชนะไหมค่ะ

โดยคุณ อรพรรณ หมื่นประจญ 3 ม.ค. 2562, 11:34

ความคิดเห็นที่ 480

ขอปรึกษาหน่อยนะคะ...

คือดิฉันและอดีตสามี(ต่างชาติ) ได้ซื้อที่ดินพร้อมบ้านประมาณสี่ไร่กว่า มีสองโฉนด .. โดยที่อดีตสามีเป็นคนออกเงินซื้อที่ดินจำนวนหนึ่งล้านบาทถ้วน เมื่อปีพ.ศ.2550 และได้ทำสัญญาไว้สองฉบับ คือสัญญากู้ยืมเงินจำนวนหนึ่งล้านบาทและอีกฉบับเป็นหนังสือก่อตั้งสิทธิเหนือพื้นดินมีกำหนด 30 ปี รวมสองโฉนดกับดิฉันโดยในสัญญากู้เงินบอกว่า 

1. ผู้ให้กู้(สามี)ตกลงให้ผู้กู้(ดิฉัน)เป็นจำนวนหนึ่งล้านบาทโดยผู้กู้ได้นำเงินไปซื้อที่ดินจำนวนสองแปลง

2. ผู้ให้กู้ตกลงให้ผู้กู้โดยไม่คิดดอกเบี้ย

3. ผู้กู้ตกลงชำระเงินเมื่อถูกทวงถามเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งนี้ภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่ได้รับหนังสือทวง (ไม่มีหนังสือทวง)

4. ผู้กู้สัญญาว่าในระหว่าที่ยังไม่ได้ชำระหนี้ไม่เสร็จ จะไม่นำที่ดินบางส่วนหรือทั้งหมดออกขาย ให้ ให้เช่า หรือก่อภาระผูกพันธ์ใดๆบนที่ดินเว้นแต่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร

5. หากผู้กู้ไม่ปฏิบัติตามในข้อ 4. ให้ถือว่าผู้กู้ผิดสัญญายินยอมให้ฟ้องร้องเรียกเงินต้นคืนโดยไม่ต้องแจ้งเป็นหนังสือ


และในสัญญาก่อตั้งสิทธิเหนือพื้นดิน ระบุว่า

หนังสือนี้ทำขึ้นระหว่าง น.ส ศรีสุพรรณ ดำรงค์วัฒน์ (ผู้ถือกรรมสิทธ์) และ นาย วิลเลี่ยม เดวิดสัน (ผู้ทรงสิทธิ์)

ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากันดังต่อไปนี้ 

1. เจ้าของที่ดินตกลงยินยอมให้ นาย วิลเลี่ยม เดวิดสัน มีสิทธิจัดสร้างโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง และเพาะปลูกบนดินและใต้ดิน 

     มีกำหนด 30 ปี รวมสองโฉนด นับตั้งแต่วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไป

2. ผู้ทรงสิทธิ์เหนือพื้นดิน มีค่าเช่าแก่เจ้าของที่ดินเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาทถ้วน 


ปัญหาคือ พอหลังจากซื้อที่ดินได้ประมาณสองหรือสามเดือน สามีดิฉันก็กลับต่างประเทศ โดยเป็นผู้ต้องหาคดี พยายามฆ่าข่มขืน อดีตภรรยา และได้ถูกตัดสินให้ติดคุก 6 ปี. แต่ดิฉันก็ยังอาศัยและทำกินบนที่ดินผืนนี้จนถึงทุกวันนี้... หลังจากที่สามีพ้นโทษก็ไม่ได้กลับมาทันที ดิฉันเห็นว่า สามีอายุมากแล้วและมีพระคุณที่ได้ซื้อที่ดินผืนนี้ให้ ก็เลยให้กลับมาอยู่ด้วยกัน.. แต่พออยู่ได้สักพัก ก็มีปัญหามีปากเสียงกันแต่ก็ไม่ได้รุนแรง สามีก็ไปๆมาระหว่างเมืองไทยและต่างประเทศ แต่ปัญหาเริ่มเกิดเมื่อสามีติดแอลกอฮอล์และบุหรีอย่างหนัก ตัวดิฉันได้ขอร้องให้เลิก หรือไม่ก็ไปสูบบุหรี่และดื่มให้ห่างจากดิฉันเพราะว่าแพ้แอลกอฮอล์และควันอย่างหนัก       ( อ้อ..ลืมบอกไปว่าช่วงที่สามีไปติดคุก ดิฉันได้สร้างบ้านอยู่เองอีกหลังโดยสร้างให้อยู่ด้านหน้าซึ่งใกล้เคียงเพื่อนบ้าน ส่วนบ้านหลังเดิมอยู่เข้าไปในสวน และห้องน้ำไม่ได้อยูในบ้านแต่จะอยู่ห่างออกไป ซึ่งไม่ปลอดภัยสำหรับดิฉันที่ต้องอยู่ลำพัง เพราะเคยถูกงัดบ้านและถูกรบกวนตอนกลางคืนโดยจะมีผู้ชายมาเดินรอบๆบ้าน ดิฉันก็เลยตัดสินใจปลูกบ้านหลังเล็กอีกหลังโดยให้อยู่ใกล้กับเพื่อนบ้านและปลอดภัยกว่าหลังเดิม) และทุกครั้งที่สามีกลับมาเมืองไทยจะต้องดื่มต้องสูบทุกวัน จนดิฉันต้องขอให้แยกกันอยู่เพราะแพ้อย่างหนักและสามีไม่ได้ให้ความช่วยเหลือในการรักษาแต่อย่างใด แต่ให้ค่าใช้จ่ายเดือนละ 5,000 บาท โดยรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในบ้านและรวมไปถึงค่าใช้จ่ายส่วนตัวของดิฉันด้วย.. หนักเข้าก็ออกไปดื่มข้างนอก บางวันก็กลับเช้าบางวันก็ไม่กลับและสามียังเป็นคนเจ้าชู้มักจะไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นเสมอเป็นอยู่แบบนี้มาประมาณสามปีโดยที่ดิฉันยังคงดูแลเรื่องอาหารการกิน และเครียดหนัก ... ดิฉันพยายามทำทุกทางเพื่อให้สามีดูแลสุขภาพเพราะสามีมีโรคประจำตัวหลายโรคมาก ทุกครั้งที่สามีมาเมืองไทยดิฉันเครียดจนต้องทานยาคลายเครียดทุกวันและเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าดิฉันกลัวว่าสามีจะไม่หายใจเวลาหลับ กลัวแกจะหยุดหายใจเพราะเป็นโรคหัวใจและยังเคยหัวใจวายมาแล้วสามครั้ง .. ดิฉันไม่เคยได้นอนหลับสนิทสักคืนเดียวตลอดเวลาที่สามีมาอยู่เมืองไทย ต้องคอยตื่นและเช็คดูว่าสามียังหายใจอยู่รึเปล่า.. เป็นแบบนี้มาตลอด... ล่าสุดที่ถึงจุดแตกหัก เมื่อดิฉันพาสามีไปเยี่ยมญาติเพื่อนที่ชัยภูมิ และเช่นเคย สามีก็ดื่มเหมือนเดิมและทุกครั้งจะไม่สามารถควบคุมตัวเองหรือจำอะไรได้เลย..และยังได้ไปทำเจ้าชู้กับน้องสาวของเพื่อนตามปกตินิสัยโดยไม่แคร์ว่าดิฉันจะรู้สึกอย่างไร... พอกลับมาจากชัยภูมิ ก็ไปค้างที่บ้านเพื่อนโดยยังคงเมาเหมือนเดิม และถึงขนาดฉี่ใส่กางเกงและที่นอนของเพื่อน ดิฉันก็รอให้สามีสร่างเมาก็ให้ขับรถกลับบ้าน ตลอดทางดิฉันก็เครียดเพราะสามีไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ร้อยเปอร์เซนต์ จนขับมาถึงบ้านสามีก็ได้ขับรถพุ่งใส่บ้านดิฉันเลย ก็บาดเจ็บเล็กน้อย เสียหายบ้าง เพราะดิฉันทำแปลงดอกไม้ไว้ข้างบ้าน แปลงดอกไม้เลยช่วยลดการกระแทกให้ลดลงไป... ดิฉันโกรธมากที่แกไม่ยอมรับว่าขับชนบ้านทั้งๆทีหลักฐานทนโท่ แถมคราวนี้ขาสามีเกิดอักเสบจากเชื้อราเรื้อรัง ดิฉันก็พยายามรักษาทำความสะอาดให้ทุกวัน พาไปหาหมอ และบอกให้หยุดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่ต้องทานยา แต่สามีไม่เคยฟังและ สามีมักจะโกหกจนกลายเป็นนิสัย ดิฉันเครียดจนทนไม่ไหวก็เลยไปอยู่บ้านแม่ประมาณเกือบๆอาทิตย์นึง สามีก็โทรบอกให้เรียกแท๊กซี่บอกว่าจะกลับต่างประเทศแล้ว ดิฉันก็เลยกลับมาและถามให้แน่ใจว่าจะไปจริงหรือไม่อย่างไร.. แต่สามีก็ได้เก็บของไปเกือบหมดแพ็คเรียบร้อย ดิฉันก็เลยเรียกรถแท๊กซี่แอร์พอร์ตให้มารับ แต่สามียังไม่กลับแต่ไปพักที่ในตัวเมืองโดยไม่โทรติดต่อมาเลย จนกลับไปต่างประเทศหกเจ็ดเดือน ก็ไม่มีการส่งเสียไดๆทั้งสิ้น และพอกลับมาเมืองไทยเมื่อวันที่ 16 เดือนธันวาที่ผ่านมา สามีไม่ได้ติดต่อดิฉันแต่ได้ไปอยู่กับเพื่อนที้ร้อยเอ็ดจนกระทั่ง วันที่ 25 สามีได้ติดต่อมาบอกให้ช่วยหาโรงแรมหรือห้องพักให้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับมาที่บ้าน ดิฉันก็หาห้องพักที่ใกล้ๆร้านสะดวกซื้อและสะดวกสำหรับสามีในการเดินทาง และยังได้ซื้ออาหารผลไม้ไปให้ที่ห้องพัก แต่สภาพของสามียังอยู่ในอาการเมา ดิฉันก็เลยตัดสินใจจากมา...แต่ดิฉันก็ยังเป็นฝ่ายโทรถามไถ่และสามีก็ยังเมาเหมือนเดิม จนก่อนที่สามีจะเดินทางกลับต่างประเทศ วันที่ 5 สามีได้โทรหาและถามว่าดิฉันจะไปหาแม่วันไหนให้แวะไปหาหน่อยมีเรื่องจะคุยด้วย ดิฉันบอกว่าจะเข้าไปวันอาทิตย์ตอนเช้า แต่สามีไม่ยอม ดิฉันก็เลยบอกว่างั้นก็ไม่ต้องเจอ พอวันเสาร์ดิฉันกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านก็ได้มีรถกระบะเข้ามาจอดและมีผู้ชายสี่คนลงมาจากรถ หนึ่งในนั้นคือสามีดิฉันเองและน้องเขยเป็นคนขับรถ โดยเมื่อมาถึงน้องเขยดิฉันซึ่งเป็นต่างชาติก็ได้มีการต่อว่าดิฉันโดยไม่ได้ถามไถ่อะไร และได้มีการข่มขู่ว่า สามีดิฉันสามารถไล่ดิฉันออกไปจากบ้านได้ทันทีตอนนี้ ดิฉันก็งงว่าทำไมสามีไม่พูดเรื่องจริงว่าอะไรเป็นอะไร และดิฉันไม่เคยคิดที่จะยึดที่ดินเลย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนต่างชาติสองสามคนถึงได้เข้ามาข่มขู่ว่าดิฉันไม่มีสิทธิ์อะไรเลยในที่ดินผืนนี้..... 

จริงหรือไม่คะคุณทนายคะ... ดิฉันเป็นคนโง่ไม่ฉลาดเรื่องกฏหมายหรือเอกสารใดๆลยค่ะ.. ขอรบกวนช่วยตอบให้เข้าใจหน่อยค่ะ และขอคำแนะนำด้วยว่าดิฉันต้องทำยังไงต่อไป.. ต้องย้ายออกไปมั้ยคะ.... 


ขอบคุณมากๆเลยค่ะ


โดยคุณ ศรีสุพรรณ ดำรงค์วัฒน์ 10 ม.ค. 2561, 12:42

ความคิดเห็นที่ 479

ขอปรึกษาเรื่องที่ดินค่ะคุณทนายที่เคารพ

ปัญหามีอยู่ว่า  คุณตาได้ครอบครองที่ดินในเขตเทศบาลอำเภอ ตอนนี้คุณตาเสียชีวิตไป 50 ปี แล้ว มีเอกสารครอบครองที่ดิน2 แปลง รวม 8 ไร่ คือ นส.3 และ สค.1 ชำระค่าภาษีที่ดินมาต่อเนื่องทุกปี  ต่อมาคุณยายและคุณแม่ไปขอให้สำนักงานที่ดินมาทำการรางวัลเพื่อออกโฉนดแต่สำนักงานที่ดินแจ้งว่าที่ดินมีปัญหา  ยังออกโฉนดไม่ได้ เพราะมีเอกสารคุณตาเขียนเป็นลายมือยกให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์  คุณยายไม่ทราบมาก่อน บอกว่าไม่จริงใครจะยกให้ลูกหลานก็มี  อยากเรียนถามว่าเราจะตั้งเรื่องอย่างไรคะ  จะยื่นเรื่องอย่างไรให้เขาออกโฉนดให้เรา  ขอบพระคุณมากค่ะ

โดยคุณ สายใจ ชูช่วย 12 ธ.ค. 2560, 11:29

ตอบความคิดเห็นที่ 479

1.หากเจ้าของที่ดิน แสดงเจตนาว่าได้อุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณะ ที่ดินนั้นก็ตกเป็นที่สาธารณะทันที  อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 4900/2528

2.เมื่อที่ดินพิพาทดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ ก็ไม่สามารถที่จะออกโฉนดได้

3.กรณีดังกล่าวท่านก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันว่าคุณตาไม่ได้ทำการยกที่ดินให้เป็นที่สาธารณะ ซึ่งการสู้ในประเด็นดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล ซึ่งท่านควรนำรายละเอียดต่างๆเข้าพบและปรึกษาทนายครับ 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 26 ม.ค. 2561, 15:18

ความคิดเห็นที่ 478

อยากสอบถามคะพอดีที่ที่พ่อแม่ยุมา20ปีล่ะแต่ไม่มีฉโนดที่ดินเราสามรถไปขอออกฉโนดได้หรือป่าวค่ะพอดีว่าอยากทำบ้านไหมแล้วกลัวอนาคตเขามาไล่ที่ที่เห็นพ่อแม่บอกเป็นแต่หลวงก็เลยงงว่าบ้านตรงกันทำไหมเขามีโฉลดขนาดยุในหมู่บ้านเดียวกัน

โดยคุณ จอย 18 ต.ค. 2560, 23:20

ความคิดเห็นที่ 477

เรื่องมีอยู่ว่า ปู่กับย่าต้องการให้พ่อกับแม่หนูมาอยู่ด้วย แม่ก็ได้ขายสมบัติแม่มาอยู่กับปู่ย่าจนหมด อยู่ไปสักพักก็เกิดปัญหาคือปู่ไม่ชอบแม่และไล่แม่หนี แม่เลยต้องการจะหนีแต่อยากให้ปู่คืนเงินให้แม่เป็นบางส่วนเพื่อจะไปซื้อที่ดินที่เก่าคืนจากน้องสาว แต่ปู่ไม่มีเงินให้ และย่าไม่อยากให้แม่กลับบ้านเดิม ปู่อยากให้พี่สาวคนที่2ของพ่อมาเลี้ยงปู่ จึงได้ตกลงกันว่า ที่ดินของพี่สาวคนที่2ของพ่อ จะยกให้พ่อและแม่ แต่ติดที่ว่าพี่สาวคนที่2 ของพ่อเอาไปจำนองไว้เป็นระยะ 20 กว่าปี ไม่เคยไปติดต่อกับผู้จำนองเลย พี่สาวของพ่อให้บอกกับพ่อว่าถ้ามีเงินตอนไหนให้ไปไถ่มา พร้อมที่จะโอนให้ ก็ได้เอาคนเฒ่าคนแก่มาคุยกัน และไม่มีลายลักษณ์อักษร เพราะไม่มีผู้ใหญ่บ้าน พอตกลงกันเสร็จ พี่สาวคนที่2 ก็ได้รื้อบ้านไปอยู่กับปู่ และบ้านพ่อและแม่ก็ย้ายมาปลูกบนที่ดินของพี่สาวคนที่2ของพ่อ โดยที่ไม่ห่างกันนัก พอสักพักพี่สาวคนที่2ของพ่อไม่ดูแลปู่กับย่า ลูกๆจึงพากันมีความคิดเห็นให้ปู่กับย่าไปอยู่บ้านพี่สาวคนที่1 แต่ที่ดินที่พี่สาวคนที่2ของพ่ออยู่ไม่ใช่ชื่อตน แต่เป็นชื่อของพี่สาวคนที่1 ในตอนนั้นได้ตกลงไว้ว่า ถ้าหากพี่สาวคนที่2ได้ดูแลปู่กับย่าให้ดี จะโอนให้แต่พี่สาวคนที่2ของพ่อไม่ดูแลปู่ย่า พี่สาวคนที่1จึงยังไม่โอนให้แต่จะโอนให้แน่นอนถ้าพี่สาวคนที่2ของพ่อ โอนที่ดินของพี่สาวคนที่2 ที่คิดจำนองไว้ให้กับพ่อ อยู่มาเป็นระยเวลาหนึ่งพ่อแม่ได้ขอทะเบียนพร้อมเลขที่บ้านเป็นของตน สร้างบ้านขึ้นใน พ.ศ2547 อยู่มาเป็นระยะเวลา 13 ปี พ่อและแม่ได้หาเงินมาจำนวนนึ่ง เพื่อที่จะไปไถ่โฉนดออกมาแล้วให้พี่สาวคนที่2 โอนให้แต่ในวันที่ไปไถ่ได้แจ้งกับพี่สาวคนที่2ของพ่อว่าจะไปไถ่ให้ไปด้วยกัน พี่สาวคนที่2ไม่ไป พ่อกับหนูเลยไปไถ่ด้วยกัน2คน และไม่มีเอกสารการไถ่ถอนเพราะในสมัยนั้นไม่มีเอกสารการจำนองอะไรเลย มีแต่โฉนดที่ดิน นส.3 อย่างเดียว พอพ่อไปไถ่ออกมาเสร็จพี่สาวคนที่2 ของพ่อกับไม่ยอมโอนให้และบอกจะเอาที่คืน ได้มีการไกล่เกลี่ยแล้ว แต่พี่สาวคนที่2ของพ่อไม่ยอมโอน พ่อจึงได้จ้างทนายเพื่อฟ้องครอบครองปรปักษ์ หนูจึงอยากสอบถามว่ามีสิทธิ์ที่จะชนะคดีบ้างไหมค่ะ  

โดยคุณ อั้ม 23 ก.ย. 2560, 00:48

ตอบความคิดเห็นที่ 477

ครองครองปรปักษ์ เป็นการครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นโดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี ทั้งนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 ซึ่งในเบื้องต้นทรัพย์สินที่จะครอบครองปรปักษ์ได้นั้น ต้องเป็นทรัพย์สินที่มีกรรมสิทธิ์ กล่าวคือต้องเป็นที่ดินมีโฉนด สำหรับที่ดินที่ไม่มีหนังสือสำคัญหรือว่าที่ดินมือเปล่า (น.ส.3) จะมีได้เพียงสิทธิครอบครองเท่านั้น จึงไม่อาจอ้างการครอบครองปรปักษ์เพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์ตาม มาตรา 1382 ได้ครับ

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 24 ต.ค. 2560, 14:48

ความคิดเห็นที่ 476

ปัญหามีอยู่ว่า
เมื่อเดือน เม.ย 59 ดิฉันได้ทำสัญาเช่า กับนางสาวยอด  เพื่อทำไร่อ้อย จำนวนปีที่เช่า 3ปี แต่ตกลงกันจ่ายเงินกันปีต่อปี คือตอนนี้ได้จ่ายค่าเช่า ไปจำนวน 2ปี ก็คือ งวดที่1=20 เม.ย.59 งวดที่ 2ก็คือ =20 เม.ย.60ประมาณช่วงเดือน เม.ย.2560 เจ้าของที่ดินได้ไปบอกขายที่ดินให้กับนายสำราญ  ดิฉันได้ไปสอบถามผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าบอกดิฉันให้ไปคุยกับผู้ซื้อ
ดิฉันได้ไปสอบถามผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อบอกว่าอยากได้ที่ทำกินเลย  ดิฉันอยากทราบถามว่า
1.ดิฉันจะไปเรียกร้องค่าเสียหาย เพราะยังมีตออ้อยที่ยังไม่ครบสัญญา จำนวน 1ปี ได้จากที่ใคร
โดยคุณ สุดารัตน์ 14 ก.ย. 2560, 13:03

ตอบความคิดเห็นที่ 476

เมื่อผู้ให้เช่าได้ขายที่ดินให้กับนายสำราญ กรณีดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569 นั้น นายสำราญ ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของนางสาวยอด ผู้โอน อันมีต่อท่านในฐานะผู้เช่า ดังนั้นแล้ว นายสำราญ จึงต้องให้ท่านใช้ประโยชน์ที่ดินตามสัญญาเช่านั้นต่อไปจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาเช่า หากนายสำราญ ผู้รับโอน ไม่ให้ท่านใช้ประโยชน์ กรณีดังกล่าวถือเป็นการโต้แย้งสิทธิท่าน ท่านสามารถฟ้องนางสาวยอดต่อศาลเพื่อเรียกเอาค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาเช่านั้นได้ในฐานะคู่สัญญา ทั้งนี้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 28 ก.ย. 2560, 15:53

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก