หลักฐาน-ค่าใช้จ่าย-ฟ้องชู้-ตัวอย่างคดีชู้|หลักฐาน-ค่าใช้จ่าย-ฟ้องชู้-ตัวอย่างคดีชู้

หลักฐาน-ค่าใช้จ่าย-ฟ้องชู้-ตัวอย่างคดีชู้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

หลักฐาน-ค่าใช้จ่าย-ฟ้องชู้-ตัวอย่างคดีชู้

มีคู่สมรสหลายท่านสอบถามมาเกี่ยวกับการฟ้องหย่า ฟ้องชู้ และเรียกค่าทดแทน

บทความวันที่ 12 เม.ย. 2560, 16:58

มีผู้อ่านทั้งหมด 23787 ครั้ง


หลักฐาน-ค่าใช้จ่าย-ฟ้องชู้-ตัวอย่างคดีชู้

          มีคู่สมรสหลายท่านสอบถามมาเกี่ยวกับการฟ้องหย่า ฟ้องชู้ และเรียกค่าทดแทน ทนายคลายทุกข์ขอให้คำแนะนำเป็นรายประเด็นดังนี้

          1.คู่สมรสต้องจดทะเบียนโดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1457 จึงจะเป็นโจทก์ฟ้องได้

          2.การฟ้องต้องฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวที่มูลคดีเกิดหรือที่จำเลยมีภูมิลำเนา

          3.เหตุฟ้องหย่าเป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 

          4.การฟ้องชายชู้หรือหญิงชู้เป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 

          5.ค่าทดแทน คู่สมรสมีสิทธิเรียกได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1523 

          6.ถ้าคู่สมรสยินยอมให้มีชู้หรือรู้เห็นเป็นใจ ยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1517 และมาตรา 1518 (ให้อภัยแล้ว) อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 13082/2558 และฎีกาที่ 7229/2537

          7.ฎีกาเกี่ยวกับคดีชู้ ฎีกาที่ 4818/2551 คดีชู้เป็นคดีครอบครัว, ฎีกาที่ 6516/2552 ไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่ในบ้านชุมชน ขับรถรับส่งทุกวัน ถือว่าแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวแล้ว, ฎีกาที่ 3288/2527 ผัวเมียรู้เห็นร่วมกันกระทำผิด ยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้, ฎีกาที่ 4818/2551, ฎีกาที่ 320/2530, ฎีกาที่ 2940/2538 ฟ้องชู้ไม่ต้องฟ้องหย่าก่อน, ฎีกาที่ 6288/2537 ในคดีหย่าถ้าหลังจากหย่าแล้วคู่สมรสยากจนลง ถ้าเหตุหย่าเป็นความผิดของจำเลยฝ่ายเดียว โจทก์จะขอให้ฝ่ายที่ต้องรับผิดจ่ายค่าเลี้ยงชีพเพราะทำให้ยากจนลงหลังหย่าได้ ส่วนการกำหนดค่าเลี้ยงชีพให้ศาลกำหนดได้ ฎีกาที่ 2685/2540, ฎีกาที่ 1125/2544, ฎีกาที่ 2141/2531 การหย่าโดยคำพิพากษาของศาลเพียงแต่ยื่นสำเนาคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดต่อนายทะเบียน และนายทะเบียนบันทึกไว้ก็พอแล้วตาม พ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัวมาตรา 16 

ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกา

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4818/2551

            โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลย โดยอ้างเหตุว่า จำเลยคบหากับ พ. ในลักษณะชู้สาวและจำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่าเป็นภริยาของ พ. เป็นการฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทบัญญัติในบรรพ 5 เป็นการเฉพาะ มิใช่คดีละเมิดธรรมดา ถือเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ไม่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 วรรคสอง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 6

            โจทก์อ้างเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอกเป็นพยานไม่จำต้องส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่จำเลยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 90 (2)

            จำเลยไปรับประทานอาหารกับ พ. ร่วมกับเพื่อนของจำเลยและเพื่อนของ พ. โดยมีการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ในลักษณะใกล้ชิดเป็นพิเศษเกินกว่าความสัมพันธ์ในระดับคนที่รู้จักในการทำงานทั่วไปและการที่จำเลยไปพักที่โรงแรมทั้งสองแห่งกับ พ. โดยพักอยู่ห้องเดียวกันและมีเพศสัมพันธ์กัน แม้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์จะเป็นเพื่อนของ พ. เพื่อนของจำเลยและพนักงานงานโรงแรมก็เป็นการแสดงตัวอย่างเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้

            โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยซึ่งเป็นหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง ซึ่งกฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะน้องมีการฟ้องหย่าก่อนจึงจะมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ ย่อมไม่ใช่การฟ้องเรียกค่าทดแทนตามมาตรา 1523 วรรคหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีการฟ้องหย่าโดยอาศัยเหตุตามมาตรา 1516 (1) เสียก่อนจึงจะมีสิทธิฟ้องได้

2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530

            การล่วงเกินในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนนี้มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้และค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ด้วย
โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นชู้กับ น.ผู้ตายซึ่งเป็นภริยาโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ข้อหนึ่งว่าหากน. เป็นภริยาโจทก์โจทก์ก็รู้เห็นเป็นใจให้ภริยามีชู้ ดังนี้ประเด็นที่ว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้กับผู้ตายนั้น ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลย

3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2538

            โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่ามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวตลอดมา จนถึงวันฟ้อง ลักษณะการกระทำของจำเลยได้กระทำต่อเนื่องกัน มายังมิได้หยุด การกระทำละเมิดของจำเลยได้เกิดขึ้นและ มีอยู่ในขณะฟ้อง คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ฎีกาจำเลยที่ว่า การฟ้องเรียกค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 จะต้องฟ้องหย่าเสียก่อนจึงจะเรียกค่าทดแทนได้นั้นเป็นฎีกาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การจำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ การเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ไม่มีเงื่อนไขว่าภริยาต้องฟ้องหย่าสามีเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียก ค่าทดแทนจากหญิงนั้นได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

4. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791/2515

            สามีฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายชู้โดยไม่ได้ฟ้องขอหย่าภรรยากรณีไม่ต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1505วรรคแรก (มาตรา 1523 ใหม่) แต่สามีมีสิทธิตามวรรคสองของมาตราเดียวกันนี้ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ การล่วงเกินในทำนองชู้สาวมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย

5. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6558/2542

           การที่จำเลยกับป. สามีโจทก์ พักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันในท้องที่ย่านชุมนุมชน โดยเปิดเผย และมีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาจนมีบุตรด้วยกัน โดยบุตรก็ใช้นามสกุล ของ ป. ด้วยนั้น เป็นพฤติการณ์ที่แสดงโดยเปิดเผยว่าจำเลยมีความสัมพันธ์กับ ป.ในทำนองชู้สาวแล้วโดยไม่จำเป็นต้องออกงานสังคมร่วมกับ ป. แต่อย่างใด ตามปกติภริยาย่อมต้องรักใคร่หวงแหนมิให้สามีไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับ หญิงอื่นเว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษอย่างยิ่ง โจทก์มีความรักและหวงแหน ป. ผู้เป็นสามีถึงกับต้อง ย้ายจากจังหวัดนครศรีธรรมราชติดตามมาอยู่กับ ป. ที่จังหวัดจันทบุรีและยังไปร้องเรียน ต่อผู้บังคับบัญชา ป.ให้ว่ากล่าวตักเตือน ป.ให้ยุติความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยด้วย ไม่ปรากฏว่ามีเหตุผลหรือพฤติการณ์พิเศษอย่างใดที่โจทก์มีความจำเป็นต้องยินยอมให้จำเลยมาเป็นภริยาของ ป. อีกคนหนึ่ง เมื่อจำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับ ป. ในทำนองชู้สาวโดยโจทก์มิได้ยินยอมเช่นนี้ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ค่าทดแทนที่ภริยาเรียกจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมี ความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวนั้น พิจารณาจากความเสียหายที่ภริยาพึงได้รับ พฤติการณ์แห่งคดีและสถานะของคู่สมรสเป็นหลัก โจทก์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย มหิดลประกอบอาชีพรับราชการนับว่าเป็นผู้มีเกียรติฐานะในวงสังคม โจทก์กับ ป.สมรส กันมานานถึง 10 ปี มีบุตรด้วยกัน 1 คน สถานะของครอบครัวมีความมั่นคงสมบูรณ์ การกำหนดให้จำเลยใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์จำนวน 100,000 บาท นับว่าเหมาะสมแล้ว

6. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522

            คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งการกระทำของจำเลยเฉพาะการนอนกอดกับภริยาโจทก์ แต่ที่ว่าจำเลยยังลักลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา จนในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยนั้น ฟ้องโจทก์ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดพอที่จะถือเป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา จึงต้องถือว่าโจทก์มุ่งประสงค์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยสำหรับการที่จำเลยไปนอนกอดกันกับภริยาโจทก์เป็นหลัก

            การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523วรรคสอง

7. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2847/2523

            จำเลยทราบว่า ต. เป็นหญิงมีสามี แต่ก็ยังร่วมหลับนอนด้วย เมื่อจำเลยล่วงเกิน ต. ภริยาโจทก์ในทำนองชู้สาวจึงถือว่าจำเลยละเมิดสิทธิต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายต้องใช้ค่าทดแทน

8. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2514

            กรณีที่ภริยามีชู้หรือมีผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาว อันเป็นการกระทบกระเทือนไปถึงสิทธิของสามีนั้น มีมาตรา 1505 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นบทที่บัญญัติไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะให้สามีมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากภริยาและชู้หรือผู้ที่ล่วงเกินนั้นได้สามีจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินภริยาของตนในทางชู้สาว โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิของสามีตามมาตรา 420 ไม่ได้
            ฟ้องหาว่าจำเลยล่วงเกินภริยาของโจทก์ในทางชู้สาวโดยกอดจูบและร่วมประเวณีแต่ได้ความว่าต่อมาโจทก์กับภริยาได้สมัครใจจดทะเบียนหย่ากันเองเสียแล้ว กรณีจึงไม่ต้องด้วยมาตรา 1505 วรรคแรก แม้กระนั้นก็ยังเป็นเรื่องการล่วงเกินไปในทำนองชู้สาวตามวรรคสองและถึงแม้ว่าภริยาจะได้สมัครใจหรือยินยอมให้ล่วงเกิน สามีก็ยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินได้
            แม้จะได้จดทะเบียนหย่ากันแล้ว สามีก็ยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวตามมาตรา 1505 วรรคสองได้
            โจทก์รู้หรือควรรู้ว่าจำเลยล่วงเกินภริยาของโจทก์ในทำนองชู้สาวจนพ้นกำหนด 3 เดือนแล้ว จึงฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลย คดีโจทก์ย่อมขาดอายุความตามมาตรา 1509

9. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2509

            ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1505 วรรค 1 บัญญัติถึงกรณีที่ภริยาทำชู้กับผู้อื่น สามีจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากภริยาและชู้ได้ต่อเมื่อได้มีคำพิพากษาของศาลให้สามีภริยานั้นหย่ากันเสียก่อน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1505 วรรค 2 บัญญัติถึงกรณีสามีมีสิทธิจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวได้ อันมิใช่เรื่องภริยามีชู้ แต่เป็นเรื่องภริยาถูกล่วงเกินโดยไม่สมัครใจ ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นต้องให้ศาลพิพากษาให้สามีภริยาหย่ากันเสียก่อน
            เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ข่มขืนชำเราภริยาโจทก์โดยภริยาโจทก์ไม่สมัครใจ อันเป็นการล่วงเกินในทางชู้สาว ดังนี้ กรณีจึงต้องด้วยมาตรา 1505 วรรค 2 แม้จะไม่มีคำพิพากษาของศาลให้โจทก์หย่าขาดจากภริยาเสียก่อน โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้

10. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3596/2546

            โจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลยที่ 1 มีบุตรด้วยกัน 2 คน ต่อมาจำเลยที่ 1 ไปจดทะเบียนสมรสกับจำเลยที่ 2 และอยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผยโดยยังมิได้หย่าขาดกับโจทก์ โจทก์จึงฟ้องหย่าโดยเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรจากจำเลยที่ 1 และเรียกค่าทดแทนจากจำเลยทั้งสอง แม้โจทก์จะทราบว่าจำเลยทั้งสองจดทะเบียนสมรสและอยู่กินด้วยกันตั้งแต่ปี 2536 แต่จำเลยทั้งสองก็อยู่กินด้วยกันตลอดมาจนถึงวันฟ้อง ลักษณะการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการละเมิดต่อโจทก์ต่อเนื่องกันมายังมิได้หยุดการกระทำอายุความจึงยังไม่เริ่มนับ คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
            แม้โจทก์จะเคยเห็นภาพถ่ายพิธีมงคลสมรสของจำเลยทั้งสองในภายหลังและมิได้โต้แย้งคัดค้านก็ตาม แต่ขณะจัดพิธีมงคลสมรสของจำเลยทั้งสอง โจทก์ไม่ทราบเรื่องกรณียังไม่พอฟังว่าโจทก์ได้รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยทั้งสองอยู่กินเป็นสามีภริยากันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1517 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องหย่าได้
            การที่จำเลยที่ 1 อุปการะเลี้ยงดูและยกย่องจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหญิงอื่นฉันภริยาอันเป็นเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(1) และศาลพิพากษาให้โจทก์และจำเลยที่ 1 หย่ากันด้วยเหตุดังกล่าว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยทั้งสองได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคแรก
            สิทธิของผู้เยาว์ที่จะได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูจากบิดามารดาเป็นสิทธิของบุตรแต่ละคนจะพึงได้รับตามความสามารถของผู้มีหน้าที่ให้ ฐานะของผู้รับและพฤติการณ์แห่งคดี การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กำหนดให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่บุตรทั้งสองรวมกันมาจึงไม่ถูกต้อง ควรกำหนดจำนวนเงินเป็นรายเดือนให้เป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองแต่ละคนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และเมื่อบุตรคนแรกบรรลุนิติภาวะแล้วให้ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูโดยกำหนดจำนวนเงินเป็นรายเดือนแก่บุตรคนที่สองต่อไปจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ

11. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6383/2537

            ภริยามีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1521 วรรคสอง ค่าทดแทนนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งมีความหมายรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของภริยา ซึ่งเป็นเรื่องที่กฎหมายบัญญัติให้รับผิดไว้โดยเฉพาะแล้ว จะฟ้องเรียกค่าทดแทนโดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และมาตรา 447 ให้ชำระค่าเสียหายเป็นรายเดือน นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะเลิกแสดงตนและเลิกมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามีอีกไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 149

รบกวนถาม

สามีเคยไปมีสัมพันกับผู้หญิงเมื่อ8-9ปีก่อนแล้วเกิดท้องมีลูก จดทะเบียนกับดิฉันแล้วดิฉันฟ้องชู้เรียกค่าทดแทนได้ไหมค่ะ

โดยคุณ แอ๋ม 29 ส.ค. 2562, 08:21

ความคิดเห็นที่ 148

ขอสอบถามหน่อยนะคะ

ดิฉันอยู่กินกับสามี ตั้งจดทะเบียนสมรส มาได้เกือบ 3 ปีแล้ว แต่เราไม่ได้แต่งงานกัน เพียงแต่หมั้นหมายกันกับทางผู้ใหญ่ไว้ก่อน และยังไม่มีลูกด้วยกัน แต่สามีไปมีผู้หญิงอื่นก่อนที่เราจะจดทะเบียนสมรสกัน ซึ้งดิฉันจับได้ตลอดว่าเขาแอบคุยกัน โดยการซ่อนโทรศัพท์อีกเครื่องไว้คุยกับผู้หญิงคนนี้โดยไม่ให้ใครรู้ บางครั้งก็ส่งไลน์คุยกับผู้หญิงคนนี้ แต่มีการลบแชทและบลอคซ่อนไว้ เมื่อเราจับได้ ฝ้ายชายบอกว่าผู้หญิงคนนี้ขอเป็นเมียน้อยอยู่เงียบๆก็ได้ แบบนี้เราจะฟ้องฝ่ายหญิงได้มั้ยคะ

โดยคุณ มิน 21 ส.ค. 2562, 14:29

ความคิดเห็นที่ 147

สวัสดีค่ะ ดิฉันแยกกันอยู่กับสามี(รับราชการตำรวจ) ทิ้งฉันกับลูกไปตั้งแต่ปี 59 มีบุตรด้วยกัน 2 คน เขาไปอยู้กับเมียน้อย ทั้งที่ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายผิด และไม่เคยช่วยค่าเลี้ยงดู(ที่เป็นกิจลักษณะ ใดๆเลย) ค่าใช้จ่ายของลูก ดิฉันเป็นคนจ่ายมาตลอด 3 ปี เงินเดือนของพนักงานจ้างเทศบาล ไม่พอที่จะจ่าย ทำให้การดำเนินชีวิต ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องแบกรับภาระและรับผิดชอบอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อปี 59 ตอนที่เขาทิ้งฉันกับลูกไป และทิ้งงานราชารตำรวจไป 10 วัน ติดต่อไม่ได้ รวมถึงทางโรงพักก็ได้ติดตาม ถ้าครบ 15 วัน ไม่มาปฏิบัติหน้าที่ จะโดนออกจากราชการ ซึ่งตอนนั้นฉันอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่มาก ตกงาน ไม่มีงานทำ หางานทำไม่ได้ ต้องไปกู้ยืมเงินเขามาลงทุนขายของ เพื่อที่จะได้มีเงินมาเลี้ยงลูกได้บ้าง และฉันได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึง ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี(ภาค 2) ว่าสามีมีชู้ และถูกสามีทอดทิ้งฉันกับลูกไป ให้ฉันอยู่กับลูกที่แฟลลตำรวจโดยลำพัง ทางภาค 2 ได้ดำเนินกักขังเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามเลยว่ามีการนัดให้มาคุยหรือตกลงพูดคุยกันหรือเปล่า พอดิฉันได้ทำงานเทศบาล มีเงินเดือน ก็ไม่ได้จะคิดติดตามเขา ได้แต่คิดว่าถ้าเขาไม่ช่วยค่าเลี้ยงดูลูก ก็เลี้ยงเองก็ได้ แต่ปัญหาที่ตามมา ค่าใช้จ่ายต่างๆนาๆ ค่ากิน ค่าเล่าเรียนทุกอย่างของลูก กลายเป็นฉันรับผิดชอบเองแทบทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันปีนี้ 62 ดิฉันกับลูกก็ยังคงอยู่ที่แฟลตตำรวจ โดยที่เขาไม่จะคิดมาหาลูก ไม่เคยคิดที่จะโทรมาถามลูกเลยว่า มีเงินใช้มั้ย หรือแม้แต่จะคิดมาช่วยจ่ายกิน ค่าใช้จ่ายของลูกเลย มีแต่ลูกที่พยายามติดต่อหาเขา บางทีต้องอาศัยตำรวจที่อยู่โรงพักเดียวกันว่า ฝากบอกเขาที ลูกถามถึง พอติดต่อได้ลูกถามพ่อว่า พ่อช่วยแม่จ่ายค่ากินให้หนูหน่อย แต่คำตอบที่เขาตอบกลับมาหาลูกว่า พ่อไม่มี ถ้าแม่ไม่ปัญญาเลี้ยงให้มาอยู่กับพ่อ ซึ่งทำให้ฉันกับลูกรับไม่ได้กับคำพูดของผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ขาดความรับผิดชอบต่อลูก ทั้งที่ตลอดระยะเวลา 3 ปี มาใช้ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเลย เขาเป็นฝ่ายที่ทำผิด มีชู้ ทิ้งฉันกับลูกไป  เมื่อปี 59 ฉันเคยยื่นหนังสือต่อศาล (พอศาลติดต่อมาฉันไม่มีเงินให้ค่าทนาย)ก็ฟ้องไม่ได้ อยากจะรับกวนขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ช่วยตอบมาทีนะคะ ตอนนี้ฉันจะขอความยุติธรรมให้กับฉัน กับลูกแล้วล่ะค่ะ เพราะฉันไม่เคยได้รับความยุติธรรมใดๆ หรือทางหน่วยงานของสามี ติดตามเรื่องหรือแม้จะถามดิฉันกับลูกอยู่เป็นยังไงบ้าง สิ่งที่ดิฉันอยากจะได้เพียงขอค่าเลี้ยงดูลูก ช่วยจ่ายให้ลูก โดยหักจากเงินเดือนตำรวจ เข้าบัญชีลูกเดือนละ 4 - 5 พันบาทเท่านั้นเอง แต่ดิฉันจะยังไม่ยอมหย่ากับเขาเด็ดขาด จนกว่าลูกดิฉันจะเรียนจบและมีงานทำ ตอนนี้เขาจะให้ฉันหย่ากับเขาให้ได้ เพื่อที่เขาจะเอาผู้หญิงที่เป็นชู้กัน เข้ามาอยู่ที่แฟลต และจะเอาลูกฉันไป แต่ฉันไม่ยอม เขาบอกกับฉันว่าเขาจะฟ้องหย่าฉัน ฉันเลยบอกกับเขาว่าถ้าคุณจะฟ้องฉัน ฉันยินดี เพราะฉันไม่ได้เป็นฝ่ายผิด และฉันเองก็มีหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับเขาทั้งหมด รบกวนช่วยตอบมาทีนะคะ ว่า ฉันต้องทำอย่างไรบ้างตามขั้นตอน

โดยคุณ ศุภรา สาลีงาม 7 ส.ค. 2562, 11:36

ตอบความคิดเห็นที่ 147

1.เมื่อท่านได้จดทะเบียนสมรสกับสามี ท่านกับสามีจึงเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายแล้วสามีภริยาต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามี  และต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถ และฐานะของตนตามความแห่ง ป.พ.พ.ม.1461 ด้วยสิทธิและหน้าที่ของบิดามารดาและบุตร  บิดามารดาและบุตรต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์  ตามความแห่ง ป.พ.พ.ม.1564

          2.พฤติการณ์ที่สามีของท่าน ไม่ได้ให้การช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูแก่ท่านภริยาตามความสามารถและฐานะของตนประกอบกับไม่ได้ให้การอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตร  ย่อมเข้าเหตุฟ้องหย่า อันสามีทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง  ทั้งนี้เนื่องจากการกระทำของสามีดังกล่าวย่อมถึงขนาดที่ท่านซึ่งเป็นภริยา มีความเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบท่านย่อมมีสิทธิฟ้องหย่าสามีโดยอาศัยเหตุนี้ และย่อมเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรจากสามีของท่านได้ ตาม ป.พ.พ.ม.1516(1),1522,1598/38

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 13 ก.ย. 2562, 10:04

ความคิดเห็นที่ 146

เรียน สอบถาม

เนื่องจากแต่งงานจดทะเบียนสมรสมา 14 ปี แต่สามีมีเมียน้อยเป็นชาวลาว ดิฉันจับได้เลยขอแยกกันอยู่สักพักก่อน แต่สามีกลับยกย่องเปิดเผยออกหน้าออกตาต่อญาติฝ่ายผู้ชายรับทราบและชู้ก็ได้ลงรูปคู่ผ่านทางเฟรสบุ๊คแต่เอาสติ้กเกอร์ปิดหน้าสามีดิฉันไว้และได้ลงข้อความเสียดสีดิฉันซึ่งเป็นภรรยา และทางฝ่ายผู้ชายไม่รับชอบค่าเลี้ยงดูลูกเลยอ้างว่าจ่ายค่าบ้านค่าใช้จ่ายทุกเดินไม่มีเงินส่ง แต่กลับพากันไปเที่ยวเปิดโรงแรมนอน สอบถาม

1.ดิฉันเลยอยากทราบว่า ถ้าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจะต้องใช้หลักฐานที่ชัดเจนแบบไหน ต้องเป็นรูปคู่สามีกับชู้ถ่ายด้วยกันไหม

2.ค่าจ้างทนายแพงไหมค่ะ ต้องใช้เงินเท่าไหร่


โดยคุณ กนกรดา 10 ก.ค. 2562, 11:26

ความคิดเห็นที่ 145

สวัสดี​ค่ะ...ขอคำแนะนำ​ค่ะ

ดิฉันแต่งงานกับสามี(จดทะเบียน)​มีลูกชาย​1คน

แต่เมื่อสิงหาปีที่แล้วได้แยกกันอยุ่และเลิกรากันไป(ไม่ได้หย่า)...แล้วก็ไม่ได้ติดต่อ​กันอีกเลย​ เงินค่าเลี้ยงดูก็ไม่ให้ พอดิฉันรู้ข่าวอีกที...สามีก็มีภรรยาใหม่ไปแล้ว...จากที่ดิฉันทราบมาคือสามีมีภรรยาใหม่ตั้งแต่เลิกกับดิฉันได้เพียงหนึ่งวันและได้พาภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน​ คบกันเปิดเผย

ออกหน้าออกตา​ ไปไหนมาไหนด้วยกัน​ ซื้อรถด้วยกัน...แบบนี้ฟ้องได้ไหมคะ

โดยคุณ ศรัญญา 7 พ.ค. 2562, 09:57

ความคิดเห็นที่ 144







อยากทราบขั้นตอน และเอกสารหลักฐานที่ต้องเตรียมค่ะ
ขอบคุณค่ะ

โดยคุณ ชมพูนุช 10 ก.ย. 2561, 15:11

ความคิดเห็นที่ 143

ขอคำแนะนำคะ

ดิฉันแต่งงานกับสามี(ตำรวจ) จดทะเบียนสมรส และมีลูกด้วยกัน 1 คน(ผู้หญิง) เมื่อลูก 5 เดือน ก็มีปากเสียง ทะเลาะกับสามีๆ ได้ทำร้ายร่างกายดิฉัน โดยที่แม่สามีก็ยื่นดู และด่าดิฉันไปด้วย ฉันเลยตัดสินใจ เก็บของออกจากบ้านสามี และพาลูกมาเลี้ยงที่บ้านแม่ตัวเอง โดยที่แรกๆสามีก็มางอ ขอให้กลับไปอยู่ด้วยกัน และเสนอมาว่าจะไปเช่าบ้านข้างนอกอยู่ แต่พออีกวัน สามีกลับโทรมาบอกว่าแม่ไม่ให้ไปเช่าบ้าน ฉันก็ไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้ เพราะคิดว่าสักวันคงมีทางออกที่ดีกว่านี้ เหตุเกิดเมื่อปี 56 ปีนี้เขาก็มาหาลูกที่บ้านแม่ทุกเดือน มีให้เงินบ้างบางครั้ง ปี 57-58 มาหาลูกบ้าง แต่น้อยครั้งลง  ปี 59 หายไปเกือบทั้งปี เป็นช่วงที่ลูกเริ่มเข้า รร.แล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันเป็นคนจ่าย  ฉันต้องเช่าบ้านอยู่กับลูกด้วย สามีก็มีมาหาที่บ้านบ้าง ก่อนที่ลูกจะเข้าอนุบาล1 และมาหาเรื่อยๆ มีให้เงิน 500-1000 บาท แต่ไม่บ่อย และพูดกับลูกว่าป๋ากำลังทำเพื่อครอบครัวของเราอยู่ แบบนี้ตลอดเวลามาหาลูก จนฉันได้บ้านพักที่ทำงาน เมื่อปลายปี 60 สามีก็มาหาบ่อยขึ้น ให้ค่าขนมลูกอาทิตย์ละ 1000 บางอาทิตย์ก็ไม่ให้ สามีขอรับผิดชอบค่าเทอมของลูก(อนุบาล 2) แต่พอลูกขึ้นอนุบาล3 ปี 61 สามีไลน์มาให้ไปหย่า ฉันเลยบอกให้เสนอข้อตกลงการหย่า เขาเลยเงียบไป ผ่านไปไม่กี่วัน ก็พูดถึงเรื่องหย่าอีก โดยจะให้เดือนละ 5000 ฉันเลยถามเขาว่าถ้าเดือนไหนไม่ให้ละ เขาก็เงียบอีก เพราะแต่ละเดือนก็ให้บ้างไม่ให้บาง พึ่งมาให้เยอะก็ตอนลูกอยู่อนุบาล 2 เหมือนทำดีหวังใบหย่า.  ระยะเวลาผ่านมาไม่กี่วัน ก็จะให้ฉันไปหย่าอีก ฉันเลยบอกว่าไม่หย่า สามมีบอกว่าจะฟ้องฉัน ช่วงนี้ก็ไม่ให้ค่าขนมลูก ค่าเทอมก็ไม่จ่าย (เขามีผู้หญิงอื่น และพาออกหน้าออกตาปรากฏต่อที่สาธารณะ) 

      ** ในกรณีแบบนี้ฉันจะทำอะไรได้บ้างคะ จะเรียกร้องหรือดำเนินการอะไรได้ก่อนที่จะมีหมายศาลไมคะ

       **  ถ้าฉันจะฟ้องหย่าก่อน ค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาล จะประมาณเท่าไหร่

       **  ลูก ใครจะเป็นผู้ดูแล


โดยคุณ ฟ้า 20 พ.ค. 2561, 00:43

ความคิดเห็นที่ 142

ขอปรึกษาหน่อยค่ะ

มีเรื่องอยู่ว่า คือพ่อหนูค่ะ ไปทำงานที่ประเทศลาวมา 3-4 ปีแล้วค่ะ แล้วเกิดเรื่องชู้สาว คือพ่อไปมีเมียน้อยที่ทำงานน่ะค่ะ โดยที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีสามีแล้ว แต่ว่าหนูไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่กับพ่อนานหรือยัง แต่วันที่ 18 น่ะค่ะ มีสามีของผู้หญิงคนนั้นมาแจ้งความแล้วนำตำรวจมาจับพ่อที่ห้องพัก โดยที่พ่อไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้พ่อหนูอยู่ในคุกของประเทศลาว ชื่อบุญเพ็ง สัตตะพันธ์  ติดคุกมา 2 วันแล้วค่ะ หนูเลยติดต่อบริษัทถามว่าพอจะช่วยพ่อได้ไหม แต่บริษัทกลับปฏิเสธ บอกว่าพ่อหนูลาออกแล้ว ไม่ได้เป็นคนในบริษัท ลาออกได้แต่ 2วันเองนะค่ะเพราะว่าพ่อไม่สบายป่วยเปนใส้เลื่อนค่ะ ที่ลาออกเพราะจะมารักษาตัวที่ประเทศไทยค่ะ แต่ว่าโดนผู้หญิงกับสามีเขาแจ้งจับยำตำรวจมาจับก่อนเรยยังไม่ได้กับไทยค่ะและผู้หญิงกับสามียังเรียกร้องความเสียหายประมาณสี่หมื่นกว่าบาท คือมากเกินจนไม่แน่ใจเรยว่าเปนพวกมิจฉาชีพหรือป่าว  เลยอยากทราบว่าจะต้องทำยังไงจะประกันตัวพ่อยังไงค่ะ ช่วยหนูด้วยนะค่ะ ช่วยตอบกลับมาหาหนูทีค่ะ

โดยคุณ จิราภรณ์ สัตตะพันธ์ 20 ก.พ. 2561, 21:31

ความคิดเห็นที่ 141

สวัสดีค่ะ จะถามค่ะว่าตอนนี้ สามีมีผู้หญิ่งอื่นและให้ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ดัวย จะทำอย่างไรบ้างค่ะแฟนเป็นคนต่างชาติค่ะ มีกล้องวงจร เป็นหลักฐานและสามีก็ขู่ทุกครั้ง บอกว่าเราเเบล็กเม

โดยคุณ สร้อยทิพย์ 16 ก.พ. 2561, 21:56

ตอบความคิดเห็นที่ 141

หากท่านจดทะเบียนสมรสกับสามีตามปพพ.มาตรา 1457  ท่านสามารถฟ้องหย่าและเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้ได้ตามปพพ.มาตรา 1516(1) มาตรา 1523 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 11 มี.ค. 2561, 11:41

ความคิดเห็นที่ 140

รบกวนขอคำปรึกษาค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า สามีอยู่กินกับภรรยามาประมาน 7ปี มีลูกสาว1คน อายุ 4 ขวบ จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย
แต่ภรรยาไม่มีอาชีพและชอบการพนัน ทำให้สามีต้องตามใช้หนี้ ซึ่งเป็นเงินจำนวนหลายบาท บ่อยครั้งเข้า จึงแยกกันอยู่ แยกกันอยู่ได้ 2-3ปี

ครั้งแรกที่แยกกัน ภรรยาเอาลูกไปเลี้ยง แต่ไม่มีรายได้และไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ จึงเอากลับมาให้บ้านของสามีเลี้ยง (แต่ลูกก็ยังเจอแม่ ช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์)

และขณะนี้สามีมีภรรยาใหม่แล้ว และจะขอหย่ากับภรรยาเก่า ซึ่งภรรยาเก่าไม่ยอม และยืนขอเสนอว่า จะหย่าให้แต่ต้องเอาลูกไปให้ทางภรรยาเก่าเลี้ยง ซึ่งทางเขาไม่มีรายได้ และยังคงเล่นการพนันอยู่

เรื่องเกิดขึ้นประมานนี้ สามารถดำเนินการฟ้องศาลได้อย่างไรบ้างค่ะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ
โดยคุณ P.Supattra 25 ม.ค. 2561, 16:21

ตอบความคิดเห็นที่ 140

1.หากสมัครใจแยกกันอยู่ เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกิน 3 ปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ ตามมาตรา 1516(4/2) และในกรณีที่หย่าโดยคำพิพากษาของศาล มาตรา 1520 ให้ศาลซึ่งพิจารณาคดีฟ้องหย่านั้นชี้ขาดด้วยว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร ในการพิจารณาชี้ขาดนั้น ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุที่จะถอนอำนาจปกครองของคู่สมรสนั้นได้ตามมาตรา 1582 (เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถโดยคำสั่งของศาลก็ดี ใช้อำนาจปกครองเกี่ยวแก่ตัวผู้เยาว์โดยมิชอบก็ดี ประพฤติชั่วร้ายก็ดี) ศาลจะถอนอำนาจปกครองของคู่สมรสและสั่งให้บุคคลภายนอกเป็นผู้ปกครองก็ได้ ทั้งนี้ ให้ศาลคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรนั้นเป็นสำคัญ

2.การฟ้องหย่านั้น ท่านควรเข้าพบและปรึกษาทนาย เพราะทนายจะมีความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายดี สามารถช่วยท่านได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องภายในครอบครัว ท่านควรจะเจรจากัน หากไกล่เกลี่ยกันได้ก็จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 16 พ.ค. 2561, 11:11

ความคิดเห็นที่ 139

กรณีที่เราจดทะเบียนกันได้ประมาณ 6 เดือน แล้วจู่ๆภรรยาเก่าสามีที่มีลูกด้วยกัน2 คนซึ่งเป็นคนลาว กลับมาหาสามี บังคับให้ทำตามที่ภรรยาเก่าต้องการโดยอ้างว่าหากไม่ทำจะไม่ให้ได้เจอลูกอีก เรารู้ว่าฟ้องชู้ได้ แต่ผลกระทบคือ สามีเราอาจไม่ได้เจอลูกอีกเลย เพราะล่าสุดที่ข้ามไปลาวไปดูบูกก้เกือบไม่ได้กลับมาหากไม่ยอมตอบตกลงว่า จะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ หากไม่ตกลงมันจะทำให้ข้ามมาไทยไม่ได้ โดยใช่ขวดทุบรถของเรากับสามีบุบ และดักไม่ให้ก้าวออกจากห้องได้ อยากทราบว่าเราจะป้องกันเวลาสามีไปหาลูกได้อย่างไรบ้างค่ะ ห่วงความปลอดภัยของสามีค่ะ (สามีบอกว่าไม่มีอะไรกันมานานตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง ปัจจุบันเด็กมีอายุ 1 ปี)

โดยคุณ มินตรา 1 ม.ค. 2561, 20:55

ความคิดเห็นที่ 138

ปรึกษาครับผมกับแฟนเรายังไม่หย่ากันแต่เขาหนีไปทำงานต่างประเทศด้วยกันพอสักพักเราตกลงกันว่าต่างคนต่างอยู่แยกกันมาปีกว่าๆพอยุดีๆเขาจะมาเรียกร้องเงินจากแฟนใหม่ผมทั้งๆที่เขาไปยุกินกับชู้เขาสามารถมาเรียกร้องจากแฟนใหม่ผมได้ป่าวครับ


โดยคุณ พิเชษฐ์ 11 ธ.ค. 2560, 21:04

ตอบความคิดเห็นที่ 138

ตราบใดที่ท่านยังไม่จดทะเบียนหย่า และภรรยาท่านมีหลักฐานว่าท่านมีแฟนใหม่ เขาก็มีสิทธิที่จะมาเรียกค่าทดแทนจากแฟนใหม่ท่านได้ครับ ทั้งนี้ตามมาตรา 1523 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่อย่างไรก็ตาม ท่านก็มีสิทธิเรียกค่าทดแทนเอากับชายชู้ของแฟนท่านได้เช่นกัน 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 26 ม.ค. 2561, 14:36

ความคิดเห็นที่ 137

ผมได้แต่งงานกับคนสัญชาติลาวจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยมียงบุตรชายด้วยกันหนึ่งคนแต่เราแยกทางกันได้หกปีแล้วครับ..แม่ผมเป็นคนเลี้ยงบุตรชายผมตั้งแต่เกิดครับเมี่อสองปีที่แล้วแม่ผมเกิดป่วยหนักญาติผมได้โทรไปบอกแฟนเก่าไห้มารับเอาลูกผมไปโดยที่ผมไม่ได้รับรู้...และตอนนี้เขาบอกว่าเอาลูกไปเรียนหนังสือที่ประเทศลาวครับ..ถ้าอยู่บ้านเราก็  ป.ห้าครับ..ถ้าผมจะตามเอาลูกกลับต้องทำอย่างไรครับ.  ..ช่างเปี๊ยก..0924186259
โดยคุณ สาคร ศรีชัยมูล 15 ต.ค. 2560, 12:44

ตอบความคิดเห็นที่ 137

กรณีตามปัญหา  อำนาจปกครองบุตรย่อมเป็นของบิดาและมารดา ท่านและภริยามีอำนาจปกครองบุตรร่วมกันได้ ดังนั้น หากตอนนี้มีปัญหาภายในครอบครัวกัน ก็ควรเจรจาหาข้อยุติกัน หากตกลงกันไม่ได้ก็อาจจะต้องฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 28 พ.ย. 2560, 16:46

ความคิดเห็นที่ 136

รบกวนสอบถามค่ะ คือเรื่องมีอยู่ว่า สามีเขาเพิ่งเลิกกับรรยาเก่าเเละมีบุตร 1คนโดยได้จดทะเบียนหย่ากัน โดยแต่เดิมทีสามีจะเป็นคนรับภาระค่าใช้จ่ายคนเดียวมาตลอดเดือนละ16,000บาท คือค่าใช้จ่ายภายในบ้านค่ากินและให้ภรรยาเก่ารวมถึงลูกติดภรรยาเก่า พอฟ้องหย่ากันด้วยความไม่รู้ ศาลพิพากษาให้จ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร16,000และจ่าย300,000บาท เป็นค่าขาดประโยชน์ และต้องจ่ายค่าการศึกษาแต่เพียงผู้เดียวจนจบ ป.ตรี และสามีไม่รู้ว่าสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ จึงได้จ่ายมาเรื่อยๆจนตอนนี้ สามีมาแต่งงานกับดิฉันจนมีลูก1คนแต่สามีของดิฉันมีหนี้สิน จน ทำให้ดิฉันกับลูกลำบากมากๆ เพราะต้องทำตามคำพิพากษา ทุกวันนี้ดิฉันต้องเป็นคนจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรแทนสามี เนื่องจากสามีไม่มีเงินเหลือ เลย ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะ กลุ้มใจมากค่ะ ทะเลาะกันทุกวันเลย รบกวนช่วยด้วยนะคะ

โดยคุณ K. Thiti 5 ต.ค. 2560, 12:59

ความคิดเห็นที่ 135

ฟ้องหย่าแล้วศาลสั่งให้เอาเงินเข้าบัญชีให้ลูกเดือนละ5พันกับทำประกันชีวิตให้ลูกแต่เขาไม่ทำสักอย่างฟ้องตั้งแต่ปี57เขามีความผิดไหมค่ะเขาเป็นคนต่างชาติขอศาลให้ได้อยู่บ้านในชื่อของ

ลูกแต่เขาไม่ให้ลูกอยู่ในบ้าน

อยากทราบว่าเขาทำอย่างนี้มีความผิดไหมค่ะ

โดยคุณ ลำพูน ตะวัน 20 ก.ค. 2560, 17:56

ตอบความคิดเห็นที่ 135

เมื่อศาลมีคำสั่งให้สามีท่านปฏิบัติตาม แต่ไม่ปฏิบัติตาม เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศาล แนะนำให้เข้าพบทนายความเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปครับ 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 22 ส.ค. 2560, 12:01

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก