ปรึกษาทนาย - ฟ้องคดีผู้บริโภคได้หรือไม่|ปรึกษาทนาย - ฟ้องคดีผู้บริโภคได้หรือไม่

ปรึกษาทนาย - ฟ้องคดีผู้บริโภคได้หรือไม่

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ปรึกษาทนาย - ฟ้องคดีผู้บริโภคได้หรือไม่

เรียนท่านทนายที่เคารพ แฟนผมซื้อตั๋วเดินทางของ บริษัท ไทยสงวนทัวร์

บทความวันที่ 13 ก.พ. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 2190 ครั้ง


ตั๋วเครื่องบิน

ปรึกษาทนาย - ฟ้องคดีผู้บริโภคได้หรือไม่

 

เรียนท่านทนายที่เคารพ  แฟนผมซื้อตั๋วเดินทางของ บริษัท ไทยสงวนทัวร์ ที่มุกดาหาร จะเข้ากรุงเทพ เวลา 20.30 น. ของวันที่ 13/02/2552  ผมขับรถไปส่งแฟน  เจอรถคันที่จองตั๋วติดไฟแดงที่ออกจากขนส่งมุกดาหารพอดี  พอไฟเขียวผมก็เลี้ยวรถวิ่งตามก็ทันกัน  ห่างจากไฟแดงประมาณ 1.5 กม.   เขาก็จอดรถ แฟนผมจะขึ้นแต่เขาบอกว่า ให้ไปคันหลัง เพราะเขาได้โอนไปคันหลัง ผมเลยขับรถเข้าไปส่งแฟนที่ บขส.มุกดาหาร

 

ปรากฏว่าไม่มีรถของไทยสงวนทัวร์เลย ไปสอบถามที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว แต่ไม่เจอคนขายตั๋ว เลยโทรตาม เขาบอกให้ขึ้นรถคันอื่นที่มี ซึ่งขณะนั้นก็มีรถของ บ.สหพันธ์ทัวร์ คันสุดท้ายพอดี  เลยสอบถามผู้ควบคุมรถ ว่า บ.ไทยสงวนทัวร์เขาโอนมาขึ้นคันนี้  ทางผู้คุมสหพันธ์เขาก็ไม่รู้เรื่อง จะขึ้นก็ได้แต่ต้องซื้อตั๋วของสหพันธ์ ช่วงเจรจากัน รถก็ออกพอดี ผมเลยต้องให้แฟนขึ้นรถ  ขับวิ่งไล่ตามไปขึ้นอีก  ซึ่งเสียความรู้สึกมาก เลยอยากถามว่า ผมจะฟ้องบริษัท ไทยสงวนทัวร์ ด้วย พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ได้หรือไม่ ด้วยข้อหาอย่างไรบ้าง และจะไปยื่นฟ้องได้ที่ไหนในจังหวัดมุกดาหาร ขอขอบคุณในคำชี้แนะมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 19

ขอเรียนปรึกษาและร้องเรียนรถทัวร์โดยสารของบริษัท ภูเก็ตท่องเที่ยวด้วยครับว่าผมจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้บริษัทรถทัวร์รับผิดชอบทรัพย์สินผู้โดยสารครับ ..เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กันยายนผมได้ซื้อตั๋วรถทัวร์ 3 ที่นั่ง เลขที่ 4,7,8 ของบริษัทนี้ เที่ยว 18.30 น. (คันที่ 5) เพื่อเดินทางไปเพชรบุรีโดยลงที่แยกวังมะนาวและเจ้าหน้าที่ของบริษัทรับตั๋วและติดบัตรที่กระเป๋าสัมภาระ 3 ใบ เพื่อเอาไปไว้ที่ห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถ หลังจากออกรถจากภูเก็ต รถก็ได้แวะรับประทานอาหารที่ครัวสาหร่าย จ.ชุมพรเพียงครั้งเดี๋ยวและก็ไม่ได้มีใครขึ้นลง จนถึงเพชรบุรีแยกวังมะนาวตอนตี 5.30 ถึงจุดที่ต้องลง ก็ให้เจ้าหน้าที่ไปเอากระเป๋าใต้ท้องรถออกมา 3 ใบ และหลังจากรถออกไป 10 นาที ผมเปิดกระเป๋าก็ได้ทราบว่ากระเป๋าถูกรื้อค้นและมีทรัพย์สินมีค่าสูญหายไป ประกอบไปด้วยถ่ายภาพกล้องวีดีโอโซนี่ 1 ตัว กล้องถ่ายภาพดิจิตอล Canon 1 ตัว ทั้งๆที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า ปิดไว้อย่างดี เจ้าหน้าที่รถเอาไปเก็บไว้ในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถ (โดยปกติไม่มีใครสามารถเปิดได้ยกเว้นเจ้าหน้าที่ประจำรถเพราะเปิดด้วยไฮโดรลิค) และรถออกจากภูเก็ตก็ไม่ได้แวะรับผู้โดยสานที่ไหนยกเว้นจอดรับประทานอาหารที่ครัวสาหร่ายจังหวัดชุมพร และผมก็ลงรถที่เพชรบุรี ตอนตี 05.30 น.เป็นผู้โดยสารชุดแรกหลังจากขึ้นรถต้นทางที่ภูเก็ต และรถต้องเข้าถึงกรุงเทพตอน 7 โมงเช้า รู้ว่าของหายไปจากกระเป๋าตอนลงจากรถเพียง 10 นาที แต่ติดต่อบริษัทรถ ภูเก็ตท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะฝากข้อความอย่างเดียว เข้าแจ้งความที่ สน.เขาย้อยเพชรบุรี และวิทยุสื่อสารไปที่ทางหลวงเพื่อช่วยสกัดจับแก๊งรถทัวร์ภูเก็ตท่องเที่ยว (คาดว่าทำเป็นทีม) แต่รถก็ได้ผ่านด่านทางหลวงไปแล้ว เท่ากับว่าถ้ารถถึงกรุงเทพ ทรัพย์สินก็จะถูกถ่ายเททันทีหรือไม่ก็ระหว่างทางก่อนเข้ากรุงเทพ ติดต่อเข้าไปที่ผู้จัดการบริษัท 086-3675760 บริษัทปฎิเสธความรับผิดชอบ....บอกไม่มีหลักฐานแถมให้ไปแจ้งความเอาเอง...ทั้งๆทีี่ตำรวจบอกว่าไม่มีช่องทางที่คนภายนอกจะขึ้นไปห้องสัมภาระได้เลย (ยกเว้นคนใน) เพราะห้องสัมภาระต้องเปิดจากคนขับรถเท่านั้น....อยากจะรบกวนมูลนิธิช่วยเดินเรื่องนี้ให้ด้วยครับ เพราะนี่แค่ผมลงก่อนถึง กทม.ยังถูกรื้อค้นกระเป๋า แต่อาจจะมีหลายๆรายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ถูกรื้อค้นเช่นกัน แต่เค้าอาจจะทราบหลังจากถึงบ้านแล้วก็ได้

โดยคุณ 21 ก.ย. 2555, 17:28

ตอบความคิดเห็นที่ 19

ท่านสามารถยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เพื่อดำเนินการแก่บริษัทรถทัวร์ดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดแก่ผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้บริโภคนั้น

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ (สมาชิก) 2 ต.ค. 2555, 14:57

ความคิดเห็นที่ 18

ท่านสามารถยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เพื่อดำเนินการแก่บริษัทรถทัวร์ดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดแก่ผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้บริโภคนั้น

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ (สมาชิก) 2 ต.ค. 2555, 14:57

ความคิดเห็นที่ 17

ต่อเติมบ้าน ผู้รับเหมาทั้งค่าแรง+ค่าของ วงเงิน 85,000.- บ. ทำสัญญากัน กำหนดชำระ 3 งวด เบิกไปแล้ว 2 งวด แต่ถูกทิ้งงานและประเมินจากเนื้องาน+ราคาของไม่เกิน  20,000 บ. จะทำอย่างไรดี (แอบสืบมาว่าบ้านเลขที่ที่ผู้รับเหมาให้ไว้มีจริง พร้อมทะเบียนรถที่เขาใช้ ก็เป็นทะเบียนจริงแต่จดในนามภรรยาซึ่งใช้นามสกุลเดียวกัน

โดยคุณ สมใจ 19 มี.ค. 2555, 13:17

ความคิดเห็นที่ 16

เรียนคุณดารินครับ

กรณีของคุณ ค่าซ่อมรถถ้าเกิดจากอุบัติเหตุอยู่ในเงื่อนไขประกัน คุณไม่ต้องจ่าย 

ถ้าบริษัทประกันไม่จ่ายคุณก็ฟ้องประกัน  ถ้าอู่ผิดสัญญาจ้างกฟ้องอู่ แต่ต้องดูข้อเท็จจริงมากกว่านี้
 

โดยคุณ ทนาย 5 ก.พ. 2555, 14:41

ความคิดเห็นที่ 15

เรียนคุณดารินครับ

กรณีของคุณ ค่าซ่อมรถถ้าเกิดจากอุบัติเหตุอยู่ในเงื่อนไขประกัน คุณไม่ต้องจ่าย 

ถ้าบริษัทประกันไม่จ่ายคุณก็ฟ้องประกัน  ถ้าอู่ผิดสัญญาจ้างกฟ้องอู่ แต่ต้องดูข้อเท็จจริงมากกว่านี้
 

โดยคุณ ทนาย 5 ก.พ. 2555, 14:41

ความคิดเห็นที่ 14

เรียนท่านทนายที่เคารพ ดิฉันนำรถตู้เข้าซ่อมที่อู่เอสเอ็น ซึ่งเป็นอู่ในเครือของ บ.สินมั่นคงประกันภัย เนื่องจากรถไฟไหม้ที่ห้องเครื่อง สาเหตุช่างบอกว่าเกิดจากคอมแอร์ไม่ทำงาน ดิฉันลากรถเข้าอู่ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2553  2 เดือนแรกเมื่อเข้าไปดูรถช่างบอกว่ารออะไรอยู่ พอมีนาคม ดิฉันก็ไปดูรถอีกช่างก็บอกว่ารออะไหล่บางตัวอยู่ จนเกิดสินามิที่ญี่ปุ่น ทุกอย่างไม่มีอะไรคืบหน้าเลย จนดิฉันได้ติดต่อกับเพื่อนที่ทำงานอยู่ บ.โตโยต้า เค้าบอกว่ามี แต่ทางอู่อ้างว่าไม่มีเงินสำรองที่จะซื้ออะไหล่ที่มีราคาแพงได้ ต้องรอเบิกกับทางประกันก่อน ดิฉันก็รออย่างใจเย์นทั้งที่ต้องจ่ายค่างวดเดือนละ 23,032 บาททุกเดือน และทางอู่บอกว่าต้องรออะไรที่ส่งมาจากนอก 45 วัน จนถึงกลางเดือน ก.ค.54 รถก็ยังไม่ได้ทำการซ่อมให้เสร็จเรียบร้อย และดิฉันเดินทางไปอู่(ลืมบอกไปว่า ดิฉันอยู่จังหวัดสระแก้ว แต่นำรถเข้าอู่ที่ จ.ฉะเชิงเทราเพราะรถเกิดเหตุในเขตนี้ จึงลากรถเข้าซ่อมอู่ที่ใกล้ที่สุด)ทุก 2 สัปดาห์ดิฉันได้รับคำตอบเถึงเดิมคือรถซ่อมไม่เสร็จ  ดิฉันก็อดทนจนถึงเดือน สิงหาคม ปรากฏว่าอู่บอกดิฉันต้องจ่ายเงินค่าหม้อต้มแก๊สและค่าใช้จ่ายเอง จำนวน 29,500บาทเนื่องจากใช้การไม่ได้ ดิฉันจึงนำเอกสารการแจ้งประกันให้ทาง บ.ประกันจึงได้รับการซ่อมเมื่อเดือน กันยายนที่ผ่านมา แต่รถก็เกิดปัญหาอีก ดิฉันเสียค่าใช้จ่ายสำหรับค่าคอมแอร์และค่าอุปกรณ์การทำระบบแอร์ไป จำนวน 8,750บาท ขับรถกลับบ้าน จากฉะเชิงเทรา ถึงสระแก้ว ระยะทางประมาณ 180ก.ม. และวิ่งไปอรัญฯประเทศไปกลับ 120 ก.ม. และกำลังจะเดินทางไปตรวจสภาพถังแก๊สที่ อ.กบินทร์บุรี ในขณะที่กำลังขับรถอยู่ ปรากฏว่าแอร์ไม่เย็นเมื่อเปิดดูที่เครื่อง พบว่า หน้าคัสแอร์ไหม้ ทางอู่ให้ดิฉันขับถเข้าอู่เพื่อซ่อมต่อไป โดยให้ทางดิฉันหารูปคอมแอร์เพื่อที่จะไปซื้อมาเปลี่ยนเนื่องจากว่า คอมแอร์ที่ใช้เป็นคอมดัดแปลง ซึ่งดิฉันใช้มาเป็นเวลาถึง 9 เดือน แต่เมื่อรถเกิดเหตุแล้วนำเข้าซ่อมทางอุ่ให้ดิฉันจ่ายเงินค่าคอมแอร์และ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับแอร์ แต่เมื่อนำรถไปใช้ได้เพียง 2 วันรถกลับเสียหาย ใช้แอร์ไม่ได้ ทางอู่นิ่งนอนใจมาก ไม่ดูแลกันเลย วันนี้ที่ 24 ต.ค. ดิฉันโทรฯติดต่อสอบถามทางอู่ ติดต่อยากมาก ทั้งที่อู่เปิดทำงานแต่ไม่มีใครรับสาย เพราะดิฉันคิดว่า เค้าคงทำให้ไม่ได้แล้ว ก็ไม่มีใครที่สามารถติดต่อได้ จนเมื่อ เวลา 13.50น.ดิฉันโทรฯติดต่อได้และทำการต่อว่าทางอู่ ไม่รับผิดชอบงานเลย แย่มาก อย่างนี้จะมีลูกค้าที่ไหนใช้บริการ ซึ่งดิฉันโกรธมาก เพราะเมื่อมาคำนวณค่าใช้จ่ายที่เดินทางไปดูรถในแต่ละครั้งไม่น้อยกว่า 1,000 บาทเพราะต้องขับรถกระบะไปดูทุกครั้งแต่สิ่งที่ได้รับคำตอบกลับมาคือ รถให้เสร็จ เป็นระยะเวลานานมากว่า 11เดือน แล้ว ในวันนี้ดิฉันต้องการติดต่่อทางอู่เพื่อน้ำรถกลับมาซ่อมเองแต่กลับติดต่ออู่ได้ในเวลา 14.00น. ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับดิฉันมากเพราะแบกรับภาระผ่อนรถโดยไม่มีรายรับมีรายจ่ายอย่างเดี่ยว ถึง 230,320 บาท ด้วยความที่ใจเย็นเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแต่ทางอู่กลับไม่ดูแลดิฉันเลย ดิฉันเสียความรู้สึกกับอุ่รถ และเจ้าหน้าที่คุมราคาของ บ.สินมั่นคงประกันภัยมาก เพราะดำเนินเรื่องช้ามาก เราเป็นผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน เค้ากลับไม่เห็นใจ หวังจะขูดรีดเงินจากทางเราอีก และดิฉันยื่นคำขาดว่า วันที่ 25ต.ค. 54 ดิฉันจะไปรับรถกลับเพื่อนำมาดำเนินการซ่อมส่วนที่เหลือเองอีกต่อไป แล้วอย่างนี้ดิฉันจะทำประกัน ชั้น 1 ทำไมคะ ถ้าไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างเป็นะรรม  ท่านทนายค่ะดิฉันขอความเป็นธรรมให้กับดิฉัน จึงขอเรียกร้องสิทธิที่ควรได้รับความคุ้มครองจากหน่วยงานของท่านด้วย ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

นางสาวดารินทร์  พืชนะผล 6 ม. 4 ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว

โดยคุณ ดารินทร์ พืชนะผล 24 ต.ค. 2554, 15:24

ความคิดเห็นที่ 13

ใช้บริการอินเตอร์ไร้สายแบบ wifi แต่ผู้ให้บริการ ให้บริการได้บ้างเล็กน้อย ให้บริการไม่ได้ เป็นส่วนใหญ่ ทั้งแจ้งปัญหาทาง โทรศัพท์ และทาง อีเมล ก็ได้รับคำตอบคือไม่ทราบค่ะ เดี๋ยวคุยกับทางช่างนะคะเดี๊ยวโอนสายให้ แล้วก็ใช้อะไรไม่ได้ ทั้งๆที่เสียค่าบริการไปเต็มจำนวนแล้ว สามารถฟ้องร้องอย่างไรได้บ้าง

โดยคุณ กิตติพจน์ 20 ต.ค. 2553, 22:44

ตอบความคิดเห็นที่ 13

ไม่เห็นมีใครมาตอบเลยนะเวปนี้

โดยคุณ man 21 ต.ค. 2553, 14:18

ความคิดเห็นที่ 12

ไม่เห็นมีใครมาตอบเลยนะเวปนี้

โดยคุณ man 21 ต.ค. 2553, 14:18

ความคิดเห็นที่ 11

ผมชื่อเศรษฐพงค์   เชื้อวงพรม  เมื่อวันที่ 12 /10/2553 เวลา 20.57.น ได้ทำการซื้อสิ้นค้าตามปรกติที่ร้าน พลอยซุปเปอร์ 436/1 ถนนอภิบาลบัญชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนมแต่มีเหตุน้องชายเจ้าของร้านกล้าวหาว่าผมกล่าวคำไม่สุภาพจึงพยามข่มขู่ให้ผมไป หลังร้าย(ห้องเก็บของ)และพยามทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัวในการที่จะใช้บริการในร้านนี้ไม่ทราบว่าผมสามารถเรียกร้องสิทธิ์อันใดได้บาง

โดยคุณ นายเศรษพงค์ เชื้อวงพรม 12 ต.ค. 2553, 22:11

ความคิดเห็นที่ 10

อยากทราบว่าเราค้างค่างวดรถยนต์ไว้ประมาณ 4 งาด แต่ทางเราได้โทรไปขอผ่อนส่งค่างวดเป็นจำนวนเงิน 5000 บาท ก่อนแล้วที่เหลือจะส่งตามไปให้ที่หลัง (ค่างวดเดือนละ10000บาท)

อย่างนี้บริษัทไฟเนตมีสิทธิยึดรถเปล่า

โดยคุณ น้อง 5 ส.ค. 2553, 12:07

ความคิดเห็นที่ 9

สวัสดีค่ะ

ขอเรียนสอบถามว่าดิฉันนำโทรศัพท์มือถือไปซ่อมที่ร้านรับซ่อม เหตุด้วยเครื่องน้ำเข้า ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2553  ได้โทรไปสอบถามที่ร้านว่าซ่อมได้ หรือ ซ่อมเสร็จหรือไม่ ทางร้านบ่ายเบี่ยงคืนเครื่องตลอด พร้อมอ้างว่าได้ส่งไปซ่อมอีกร้านนึง จนถึงบัดนี้เป็นเวลา 2 เดือนยังไม่ได้รับเครื่องคืน โทรศัพท์ไม่ได้มีมูลค่าสูง แต่ต้องการรูปภาพในเครื่องคืน กรณีนี้จะทำเช่นไรคะ แจ้งความแล้วจบที่กระบวนการใด

ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ

โดยคุณ ทัศนีย์ 8 มิ.ย. 2553, 13:09

ตอบความคิดเห็นที่ 9

การกระทำของร้านซ่อมที่ไม่ยอมคืนโทรศัพท์คุณ ถือว่ามีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของคุณ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 352 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ (สมาชิก) 22 มิ.ย. 2553, 13:54

ความคิดเห็นที่ 8

การกระทำของร้านซ่อมที่ไม่ยอมคืนโทรศัพท์คุณ ถือว่ามีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของคุณ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 352 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ (สมาชิก) 22 มิ.ย. 2553, 13:54

ความคิดเห็นที่ 7

เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ผมได้เช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ และ ทีวี กับ บ.easybuy แบบผ่อนชำระเป็นงวดๆ และได้ส่งประมาณ 2 งวด แล้วประสพปัญหาทางการเงิน เนื่องจากเพิ่งทำงานใหม่และเงินเดือนไม่มากนัก ก็ได้โทรไปขอผ่อนผันกับทาง บ. easybuy ทางพนักงานบอกว่าผ่อนผันไม่ได้ต้องเอาโทรศัพท์ไปคืนเท่านั้น ผมก็เอาโทรศัพท์ไปคืนที่บ.easybuyที่สีลม (อาคารเดียวกับห้าง robinson สีลม) มีพนักงานเซ็นรับเอกสารและได้คืนของเป็นที่เรียบร้อย ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรส่วนทีวีจะผ่อนต่อ
ต่อมาประมาณ 5-6 เดือนก็มีบิลค่างวดเรียกเก็บค่าโทรศัพท์จากเดิมค้างชำระอยู่ 7,xxx เพิ่มเป็น 14,xxx ก็พยายามติดต่อกลับไปซึ่งเป็น callcenter ไม่มีพนักงานรับเรื่องเฉพาะกรณี ก็ได้โอนสายไปมา สายหลุดก็เล่าเรื่องใหม่ และถามหาเอกสารคืนของซึ่งผมได้ทำหายไป(เพราะไม่คิดว่าจะเกิดปัญหา) เป็นอย่างนี้อยู่ซ้ำๆก็ติดต่อไป 2-3 วัน เรื่องก็ไม่ได้คืบหน้าโทรไปก็โอนสายไปมาสายหลุดเล่าเรื่องใหม่ และไม่มีใครดำเนินการให้เรื่องคืบหน้าได้ ผมจึงเลิกติดต่อไป
หลังจากนั้นก็ได้มีการติดตามทวงหนี้มาเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่ได้ชำระไป ทั้งค่าโทรศัพท์และโทรทัศน์ เพราะผมคิดว่าทาง easybuy ดำเนินการไม่ถูกต้อง การติดตามทวงหนี้มีหลายรูปแบบทั้งการโทรมาที่ทำงาน โทรเข้ามือถือ พูดจาแบบไม่สุภาพเอาเสียเลย และโทรไปที่บ้านที่ ตจว. โทรไปบ้านผู้ใหญ่บ้านที่ ตจว.บอกว่าผมจะถูกจับซึ่งทำให้ผมอับอายมาก มีทั้งโกหกว่าเป็นทนาย กันตำรวจอยู่ที่ สน.ปทุมวัน(เมื่อปีที่แล้ว)มีสำนวนคดีผมอยู่ที่โรงพัก ให้ผมไปจ่ายซึ่งตอนนั้นผมจะจ่ายให้(โอนเงิน)ไปแต่ฉุกคิดได้เลยขอไปเจอที่ สน.เพื่อดูสำนวนคดีปรากฏว่าไปถึงไม่มีตำรวจนายนั้น (อ้างชื่อว่า หมวด สมชาย กับ ทนายไพศาล ) ซึงถ้าผมโอนเงินไปให้อาจเป็นไปได้ว่าเงินนั้นอาจจะหายอีก
ล่าสุดได้มี บ.เกรช รีเลชั่น เซ็นเตอร์ โทรมาเบอร์ที่ทำงาน พูดจาแบบคุกคาม ดูถูกต่างๆนานา ซึ่งทำให้ผมโมโหมาก ก็ได้ต่อว่ากลับไปและยังส่ง fax เอกสารทวงหนี้มาที่ทำงานด้วย ซึ่งลักษณะนี้ผมคิดว่าเป็นการคุกคามสิทธิอย่างมาก จึงอย่างร้องเรียนกับทางศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคให้ช่วยดูแลเรื่องนี้ให้ด้วย ทั้งกับทาง บ.easybuy และ บ.เกรช รีเลชั่น เซ็นเตอร์ ที่โทรมาที่ทำงาน
ทาง บ. Easybuy ได้รบกวนผมมาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งตอนที่ผมพยายามติดต่อไปเพื่อจะเคลียร์กลับไม่มีระบบการรับเรื่องการดำเนินการให้เรื่องคืบหน้าได้ ส่งผลเสียกับลูกค้าอย่างมาก ผมคิดว่าบ.easybuy ดำเนินการแต่ละอย่างเอาแต่ได้มากซึ่งจะสังเกตุได้ว่าหลายปีที่ผ่านมามีลูกค้ามีปัญหากับ บ.นี้จำนวนมาก และผมสาบานที่ไหนก็ได้ว่าผมเอาของไปคืนแล้วและบัตรอื่นๆที่ผมถืออยู่ปัจจุบันนี้ 6-7 ใบก้ไม่เคยมีปัญหาซักนิดเลยจะมีก็แค่ บ.นี้ซึ่งเล่นไม่ซื่อกับลูกค้าก่อน
หวังว่าผมคงได้รับการคุมครองสิทธิจากศูนย์เพราะผมได้รับความเดือดร้อนจากการทวงหนี้ที่ไม่ถูกต้องนี้
ด้วยความเคารพอย่างสูง
นาย โชคชัย มณีวรรณ
 

โดยคุณ chokchai manevan 24 พ.ค. 2553, 14:14

ความคิดเห็นที่ 6

มีข้อหารือดังนี้ครับ
กรณี การซื้อบริการเทรนเนอร์ออกกำลังกายส่วนตัว (Personal Trainer หรือ PT) ที่มีการเสนอขายเป็นรายชั่วโมงและราคาแพงๆ ตามสถานที่ออกกำลังกายชื่อดังนั้น การขายชั่วโมงบริการของ PT จะขายเป็นลักษณะ Package เช่น 25 ชั่วโมง ฟรี 9 ชั่วโมง ที่ราคา 25,xxx บาท (ตกชั่วโมงละ 600-800 บาท) ถือว่าเป็นราคาที่แพงจนเกินไปหรือไม่ หรือว่าถือเป็น ดวามพึงพอใจเองของทั้ง 2 ฝ่าย สามารถดำเนินการด้านกฎหมายอย่างไรได้บ้าง
ลักษณะการให้บริการของ PT เป็นการที่ลูกค้าจ่ายเงินล่วงหน้า เพื่อใช้บริการตามจำนวนชั่วโมงที่ได้ตกลงกันไว้ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ PT มักจะติดต่อยาก เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้าต้องการPT PTก็ไม่สามารถจัดบริการให้ได้ ต้องรอเป็นวันอื่นที่ PT ว่างหรือมีคนมาแทนให้ ซึ่งใช้เวลาเป็นสัปดาห์ ซึ่งหลักการพอเข้าใจได้ว่าจะต้องว่างตรงกัน แต่ประเด็นคือ ลูกค้าได้ซื้อบริการจ้างเหมาไปแล้วควรจะได้รับในสิ่งที่คาดหวังตั้งแต่ซื้อบริการ PT หรือไม่ ประเด็นที่ 2 คือ ตอนที่ซื้อ package นั้น ความเข้าใจคือสามารถใช้บริการ PT ได้ตามสะดวก ซึ่งตอนที่ พนักงาน PT มาขาย Package นั้น ไม่ได้มีการพูดถึงในประเด็นนี้เลย ถือว่าเป็นการปกปิดในสาระสำคัญ หรือไม่  ซึ่งความเข้าใจทั่วไปคือ หากจะมาใช้บริการ PT ให้โทรนัดได้เลย ไม่ได้แจ้งว่า หาก PT ไม่ว่าง หรือ นัดไม่ได้จะมีมาตรการในการดำเนินการอย่างไร ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการเช่นนี้ขึ้น ลูกค้าก็ได้แต่ รอ รอ รอ จน PT ว่างจึงจะสามารถใช้บริการได้ เนื่องจากเสียเงินไปแล้ว ในกรณีเช่นนี้ สามารถดำเนินการด้านกฎหมายอย่างไรได้บ้าง

     สืบเนื่องจากย่อหน้าที่แล้ว เมื่อ PT ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงมีการนำพนักงานฝึกงาน (นักศึกษาฝึกงาน) มาให้กับลูกค้าที่ซื้อ Package ไป ซึ่งถือว่าไม่ใช่พนักงานประจำของสถานที่ออกกำลังกายแห่งนั้น ในขณะที่ลูกค้าก็ต้องยอมรับไป เนื่องจากเสียเงินไปแล้ว ประเด็นต่อมา ความคาดหวังที่ลูกค้าซื้อบริการ PT นั้น คือเพื่อต้องการความรู้ ความสามารถของ PT เพื่อความถูกต้องในการออกกำลังกาย และ ปลอดภัยจากเครื่องออกกำลังกายต่างๆ ดังนั้นการที่เอานักศึกษาฝึกงานซึ่งคาดได้ว่า ไม่มีความรู้ ความสามารถเทียบเท่ากับพนักงานจริงๆ มาให้กับลูกค้า ถือว่าถูกต้องหรือไม่
 

     การที่ไม่ได้ระบุแจ้งวันสิ้นสุดสัญญา ทำให้ลูกค้าเข้าใจว่า ระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาคือ เมื่อครบจำนวนชั่วโมงที่ซื้อไว้ หากแต่มาทราบภายหลังว่า ได้มีการระบุตัวเล็กๆไว้ในสัญญาว่า มีระยะเวลาสิ้นสุด 6 เดือน เท่านั้น
 

    ในระหว่างการออกกำลังกายนั้น การที่ PT หลายๆคนเข้ามาขายชั่วโมงบริการอีก จนก่อให้เกิดความรำคาญ แก่ผู้ใช้บริการซึ่งต้องการมาออกกำลังกาย ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิจนก่อให้เกิดความรำคาญได้หรือไม่
 

เหล่านี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการทั่วไป บางคนทนไม่ไหวก็ทิ้งชั่วโมง PT ไปเลย ผมรู้สึกว่าได้ตกเป็นเหยื่อของการให้บริการ PT ในลักษณะนี้ จึงเขียนมาเพื่อให้ผู้อื่นทราบ และ รู้เท่าทัน

Stevie G.
 

โดยคุณ Stevie G. 26 พ.ย. 2552, 13:56

ความคิดเห็นที่ 5

เรียนท่านทนายความ

ผมขอคำปรึกษาหน่อยคับ ผมได้เป็นสมาชิกของ แคลิฟอร์เนีย ว๊าว ประเภทตลอดชีพซึ่งได้จ่ายเงิน

ไปเป็นจำนวนประมาณ 75000 บาท (เจ็ดหมื่นห้าพันบาท)  ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี ๆ ละ 100

บาท  (เป็นค่าบริการผ้าเช็ดตัว) ซึ่งผมต้องชำระเดือน กรกฎาคม  แต่ผมไม่ได้ไปใช้บริการและชำระ

ค่าธรรมเนียม จนถึงปัจจุบัน คือวันนี้ที่ 5 พฤศจิกายน 2552 

ทางบริษัทฯ แจ้งว่า ผมไม่ได้ชำระต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 2999 บาท (สองพันเก้าร้อยเก้าสิบ

เก้าบาท)  รวมค่าต่อสมาชิกอีก 100 บาท  รวมเป็นจำนวนเงิน 3099 บาท (สามพันเก้าสิบเก้าบาท)

   จึงจะทำการต่อสมาชิกให้ได้ ถ้าไม่ชำระภายในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 นี้ จะตัดสิทธิ์การเป็น

สมาชิก ซึ่งไม่สามารถใช้บริการของแคลิฟอร์เนีย ว๊าว นี้ได้ 

  จึงขอเรียนปรึกษา จะทำยังไงได้บ้างกับกรณีนี้  ซึ่งผมได้โทรศัพท์ไปติดต่อกะทางบริษัทฯ แล้ว

เข้าบอกทำอะไรไม่ได้ คุณต้องชำระตามยอดดังกล่าวเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์การใช้บริการได้  ผมสงสัย

ทำไมค่าปรับถึงได้สูงขนาดนี้ถึง 30 เท่าจากยอดที่ต้องชำระ เป็นการเอาเปรียบผุ้บริโภคเกินไปหรือ

เปล่า ถ้าจะปรับก็น่าจะปรับพอสมควร ซึ่งผมยินดีที่จะจ่ายให้ แต่คงไม่มากมายถึงขนาดนี้  

โดยคุณ วิชาญ 5 พ.ย. 2552, 19:29

ตอบความคิดเห็นที่ 5

ต้องดูความประสงค์ของท่านว่าท่านต้องการต่อสัญญาหรือไม่ หากต้องการต่อให้ท่านติดต่อไปที่ผู้มีอำนาจสูงสุดของฟิตเนสดังกล่าว ทราบถึงเงื่อนไขการชำระค่าปรับหรือขอลดยอดการชำระ  หากไม่ยอมลดให้  ก็อยู่ที่ท่านว่ายังมีความประสงค์จะต่อสัญญาอีกหรือไม่

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ (สมาชิก) 12 พ.ย. 2552, 13:30

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก