ข่าวทนาย - รอบรู้เรื่อง \"ประกันภัย\"|ข่าวทนาย - รอบรู้เรื่อง \"ประกันภัย\"

ข่าวทนาย - รอบรู้เรื่อง \"ประกันภัย\"

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ข่าวทนาย - รอบรู้เรื่อง \"ประกันภัย\"

ทุก ๆ ปี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะมีการปรับระเบียบเงื่อนไขเกี่ยวกับการทำประกันประเภทต่าง ๆ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

บทความวันที่ 8 ก.พ. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 916 ครั้ง


ข่าวทนาย - รอบรู้เรื่อง "ประกันภัย"

ข่าวทนาย - รอบรู้เรื่อง "ประกันภัย"

 

ทุก ๆ ปี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะมีการปรับระเบียบเงื่อนไขเกี่ยวกับการทำประกันประเภทต่าง ๆ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งในส่วนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในปีนี้ คปภ.ได้ปรับเงื่อนไขกรมธรรม์ใหม่เพื่อช่วยเพิ่มความคุ้มครอง และดูแลผู้เอาประกันภัยมากขึ้น ซึ่งมีหลายประเด็นน่ารู้ ที่ผู้ทำประกันภัยรถยนต์ไม่ควรมองข้ามเพื่อรักษาสิทธิการ คุ้มครองให้ได้ประโยชน์สูงสุด
 
เงื่อนไขแรกที่ประกาศใช้มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2552 คือ การนำหลัก แคช บีฟอร์ คัฟเวอร์ ตามหลักเกณฑ์สากลที่ปฏิบัติกันทั่วโลกมาใช้กับการประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท คือ ต่อไปกรมธรรม์จะมีผลบังคับใช้ทันที เมื่อผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยแล้ว โดยเกณฑ์ใหม่นี้เมื่อผู้เอาประกันภัยแจ้งทำประกันภัยและบริษัทตอบตกลงแล้ว บริษัทต้องออกเอกสารหลักฐานการชำระเงินให้ทันที ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถนำหลักฐานนี้ ยืนยันการรับประกันภัยตามที่ตกลงไว้ได้ แต่มีข้อแม้ว่าผู้เอาประกันภัยจะต้องชำระเบี้ยประกันให้ครบจำนวนในครั้งเดียว ไม่สามารถแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ได้
 
ข้อดีของ แคช บีฟอร์ คัฟเวอร์ จะช่วยเพิ่มความเป็นธรรมแก่ผู้เอาประกันภัยมาก   ขึ้น เพราะที่ผ่านมาการทำประกันภัยมักมีช่องโหว่ เช่น เมื่อแจ้งทำประกันภัยทางโทรศัพท์ บริษัทตอบตกลงรับประกันภัยแต่ผู้ประกันยังไม่ได้รับเอกสารเป็นหลักฐานในการทำประกัน เมื่อรถไปประสบอุบัติเหตุก่อน ก็ไม่   สามารถเรียกร้องความคุ้มครองจากการประกันได้ทันที อาจต้องมีข้อพิพาทระหว่างผู้เอาประกันภัย กับบริษัทประกันภัย และเสียเวลาพิสูจน์หลักฐานให้ตรงกับข้อเท็จจริง หรือกรณีตัวแทนขายบางราย ไม่ส่งค่าชำระประกันแก่บริษัททันที ซึ่งระหว่างนั้นเกิดแจ๊กพอตโดนชนขึ้นมา ก็ต้องเสียเวลาเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกนาน
 
ประเด็นต่อมาที่คปภ.ปรับเพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้ผู้เอาประกันภัยมากขึ้น คือ กำหนดให้บริษัทชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกที่ประสบภัยถึงขั้นทุพพลภาพถาวร จำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคนหรือมากกว่านั้นเพิ่มจากเดิมที่ไม่มีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำเลย เพราะในอดีตผู้ได้รับอุบัติเหตุจนพิการบางรายได้รับค่าชดเชยมากน้อยไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการเจรจาและจิตสำนึกของบริษัท ดังนั้นคปภ.จึงปรับเงื่อนไขใหม่ให้มีมาตรฐานการคุ้มครองมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามนับจากนี้ไปเมื่อเกิดอุบัติเหตุจนทำให้เกิดทุพพลภาพถาวร หากผู้เอาประกันทำประกันภาคสมัครใจไว้ จะได้รับเงินค่าเสียหายขั้นต่ำเพิ่มเป็น 200,000 บาททันที แยกเป็นรับจากการเอาประกันภัยเงื่อนไขใหม่ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท และจากพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์อีก 100,000 บาท
 
อีกประเด็นที่สำคัญที่ได้ปรับใหม่ คือ การคิด ค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัยเสียหาย หรือเรียกว่า ค่าแอคเซส ที่เดิมผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท กรณีรถยนต์เสียหายจากการชนและไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีได้ แต่หลังจากแก้ไขใหม่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท ของความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือกรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้
  
ขยายความให้เข้าใจง่ายขึ้น คือ จะมีการคิดค่าแอคเซสในการเกิดอุบัติเหตุเป็น 2 กรณี โดยเงื่อนไขใหม่หากรถเกิดอุบัติเหตุด้วยการชนและพลิกคว่ำแบบไม่มีคู่กรณี ผู้เอาประกันจะจ่ายค่าแอคเซสลดลงจาก 2,000 บาท เหลือ 1,000 บาทเท่านั้น แต่หากเป็นกรณีที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ เช่น ขับขี่รถไม่ระมัดระวังไปขูดกับต้นไม้ ถอยชนรั้ว จอดรถในที่มืดจนถูกมือดี ขูด กรีดถลอกรอบคัน ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายค่าแอคเซสด้วย 1,000 บาท จากเดิมที่ไม่ต้องจ่ายเลย
 
ในทางกลับกัน กรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยสุดวิสัย เช่น ถูกชนแล้วหนี ได้รับประโยชน์เสียค่า     แอคเซสลดลงครึ่งหนึ่งทันที เงื่อนไขใหม่เหล่านี้ ทางคปภ.หวังว่าจะช่วยให้ผู้ใช้รถยนต์ระมัดระวังการขับขี่ยิ่งขึ้น เพราะผลสำรวจที่ผ่านมาพบว่า รถที่มีประกันภัยเกิดอุบัติเหตุมากกว่ารถที่ไม่ได้ทำประกันหลายเท่าตัว อีกทั้งช่วงนี้ค่าซ่อม ค่าทำสีรถยนต์แพงขึ้นเท่าตัว จากเดิมทำสีทั้งคันจ่ายขั้นต่ำ 15,000 บาท เพิ่มเป็น 30,000 บาท
 
ข้อต่อมา คือ การยกเลิกเงื่อนไขการให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดีกลุ่มที่ทำประกันภัยรถยนต์ 3 คันขึ้นไป เปลี่ยนไปคิดให้ส่วนลดเบี้ยเป็นเดี่ยวหรือแยกเป็นคัน ๆ แทน แต่ผู้ประกันภัยแบบกลุ่มยังคงได้รับส่วนลดการประกันภัยกลุ่ม 10% เหมือนเดิม ทั้งนี้เพื่อให้การคิดส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์มีความรัดกุมและเป็นระบบยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาการคิดค่าส่วนลดของประกันประวัติดีกลุ่ม มีช่องโหว่ทำให้เข้าไปตรวจสอบได้ยาก
 
อย่างไรก็ตามการยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวจะไม่ทำให้ผู้ประกันได้รับประโยชน์ลดลง เช่น รถคันแรกขับมาหลายปีไม่เคยชนเลยได้รับส่วนลด 50% คันที่ 2 ใช้หลายปีเคยชนครั้งเดียวได้ส่วนลด 40% แต่คันที่ 3 เคยชนหลายครั้งได้ส่วนลด 30% เมื่อนำเข้าประกันกลุ่มก็จะได้ส่วนลดพิเศษเพิ่มทุกคันอีก 10% หรือเมื่อถัวเฉลี่ยจะได้รับส่วนลดรวมถึง 50% และหากดูแลรถดีอาจได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 60% ก็ได้
 
ส่วนเงื่อนไขอื่นที่คปภ.ได้ปรับปรุงและมีผลบังคับใช้ไปแล้ว ได้แก่ การแก้ไขข้อกำหนดการคิดดอกเบี้ยผิดนัดกรณีบริษัทประกันภัยปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากเดิม 15% เหลือเป็น 7.5% เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ รวมถึงการนำนิยามความเสียของรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง ให้หมายถึงรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ หรือเสียหายไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่ารถยนต์ในขณะเกิดความเสียหาย
  
ขณะที่นายยอด ชายกล้า เจ้าของอู่ยอดการช่าง ย่านรังสิต คลอง 2 กล่าวว่า แต่ละวันจะมีรถเข้าซ่อมวันละ 10 คัน หรืออยู่ในขั้นตอนการซ่อม 100 คัน ส่วนการซ่อมช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับบาดแผล ถ้าไม่ชนหนักใช้เวลาซ่อมเฉลี่ย 3-4 วันก็เสร็จ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการตรวจเช็กงานก่อนส่งมอบให้ลูกค้า ส่วนลูกค้าก่อนรับมอบรถภายหลังการซ่อมก็ต้องตรวจสอบจุดที่เสียหายว่าได้รับการซ่อมดีหรือไม่ หากมีปัญหาก็ต้องแจ้งทางอู่ซ่อมเพื่อให้แก้ไขสำหรับเงื่อนไขของคปภ.ที่เปิดให้คิดค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาทนั้น ขณะนี้บริษัทประกันภัยที่เป็นพันธมิตรยังไม่เรียกเก็บกับลูกค้า.

 

 

ขอขอบคุณ เนื้อหาข่าวประกอบจาก เดลินิวส์

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก