ข่าวทนายความ/สืบ : ศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด"ไทกร
พลสุวรรณ"
ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวกับคดีล้มละลาย ซึ่งศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด"ไทกร
พลสุวรรณ" ซึ่งมีตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ
พรบ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 61,62,67, 67/1,81/1
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483
ขั้นตอนต่อไปจะมีการประชุมเจ้าหนี้
มาตรา61 เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว
และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานว่า
เจ้าหนี้ได้ลงมติในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกหรือในคราวที่ได้เลื่อนไป
ขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายก็ดี หรือไม่ลงมติประการใดก็ดี
หรือไม่มีเจ้าหนี้ไปประชุมก็ดี หรือการประนอมหนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบก็ดี
ให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย
และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของบุคคลล้มละลายเพื่อแบ่งแก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โฆษณาคำพิพากษาในราชกิจจานุเบกษาและในหนังสือพิมพ์รายวันไม่น้อยกว่าหนึ่งฉบับ
ในคำโฆษณาให้ระบุชื่อ ตำบลที่อยู่ อาชีพของลูกหนี้และวันที่ศาลได้มีคำพิพากษา
การเริ่มต้นล้มละลาย
มาตรา 62 การล้มละลายของลูกหนี้เริ่มต้นมีผลตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
มาตรา 67
เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้หรือพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายแล้ว
และยังไม่ได้สั่งปลดจากล้มละลาย
(1)
ลูกหนี้จะต้องขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดจำนวนเงินเพื่อใช้จ่ายเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูป
โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้อนุญาตให้ลูกหนี้จ่ายจากเงินที่ลูกหนี้ได้มาในระหว่างล้มละลายและลูกหนี้จะต้องส่งเงินหรือทรัพย์สินที่เหลือนั้น
แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดพร้อมด้วยบัญชีรับจ่าย
(2)
ทุกครั้งที่ลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับทรัพย์สินอย่างใดลูกหนี้จะต้องรายงานเป็นหนังสือให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ
โดยแสดงรายละเอียดเท่าที่สามารถจะทำได้ภายในเวลาอันสมควร และไม่ว่าในกรณีใด
ลูกหนี้จะต้องแสดงบัญชีรับจ่ายเสนอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทุกระยะหกเดือน
(3) ลูกหนี้จะออกไปนอกราชอาณาจักรไม่ได้
เว้นแต่ศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะอนุญาตเป็นหนังสือและถ้าจะย้ายที่อยู่
ต้องแจ้งตำบลที่อยู่ใหม่เป็นหนังสือให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบภายในเวลาอันสมควร
ระยะการปลดจากล้มละลาย
มาตรา 67/1 เมื่อศาลได้พิพากษาให้ล้มละลายแล้ว
บุคคลล้มละลายอาจได้รับการปลดจากล้มละลายเมื่อศาลได้มีคำสั่งปลดจากล้มละลายตามมาตรา
71 หรือเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 81/1
มาตรา 81/1 ภายใต้บังคับมาตรา 81/2
บุคคลธรรมดาซึ่งศาลพิพากษาให้ล้มละลายแล้วให้ปลดบุคคลนั้นจากล้มละลายทันทีที่พ้นกำหนดระยะเวลาสามปีนับแต่วันที่ศาลได้พิพากษาให้ล้มละลาย
เว้นแต่
(1)
บุคคลนั้นได้เคยถูกพิพากษาให้ล้มละลายมาก่อนแล้ว
และยังไม่พ้นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลได้พิพากษาให้ล้มละลายครั้งก่อนจนถึงวันที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ครั้งหลังให้ขยายระยะเวลาเป็นห้าปี
(2) บุคคลนั้นเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตที่ไม่มีลักษณะตาม
(3) ให้ขยายระยะเวลาเป็นสิบปี
เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุผลพิเศษและบุคคลนั้นถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลายมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายก่อนครบกำหนดสิบปีตามคำขอของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือของบุคคลล้มละลายนั้นก็ได้
(3)
บุคคลนั้นเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ให้ขยายระยะเวลาเป็นสิบปี
ในกรณีที่มีเหตุตาม (1) (2) หรือ (3)
มากกว่าหนึ่งเหตุให้ขยายระยะเวลาโดยอาศัยเหตุใดเหตุหนึ่งที่มีระยะเวลาสูงสุดเพียงเหตุเดียว
ให้นำบทบัญญัติมาตรา 76 มาตรา 77 และมาตรา 78
มาใช้บังคับกับการปลดจากล้มละลายตามมาตรานี้โดยอนุโลม
รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชน
มีประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์เด็ดขาด นายทัยกร หรือไทกร
พลสุวรรณ(คดีหมายเลขแดงที่ ล. 7150/2551)ลงเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 13 มกราคม 2552
เนื่องจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าหนี้เป็นโจทก์
ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้ลูกหนี้ล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ นายทัยกร
ลูกหนี้ เด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483
แล้ว
ลูกหนี้เลขประจำตัวประชาชน3-4099-00364-88-1 อาชีพ ไม่ปรากฏแน่ชัด
เกิดเมื่อวันที่ 7
กันยายน2511
มีภูมิลำเนาอยู่เลขที่ 139/2 หมู่ที่ 14 ตำบลในเมือง
อำเภอเมืองขอนแก่นจังหวัดขอนแก่น
นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดเป็นต้นไป
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจดังต่อไปนี้
(1) จัดการและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้
หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป
(2) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สิน
ซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น
(3) ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง
หรือต่อสู้คดีใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้
อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเรื่องนี้
จต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ
สำนักงานเลขานุการกรมกรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน
นับแต่วันโฆษณาคำสั่งนี้ แต่ถ้าเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจขยายกำหนดเวลาให้อีกไม่เกิน 2
เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไทกร
อ้างตัวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอีสานเคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อปี 2538โดยระบุว่า เพราะศรัทธาและประทับใจ นาย
จากนั้นจึงก่อตั้งขบวนการประชาชนขึ้นมา ชื่อว่า
ขบวนการอีสานกู้ชาติ เพื่อทำการต่อต้านระบอบทักษิณโดยเฉพาะ
นายไทกรเป็นที่รู้จักขึ้นมา จากการเป็นผู้เปิดโปงการทุจริตและประพฤติมิชอบต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างในรัฐบาลชุด พ.ต.ท.
ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์และไทยรักไทย
หลังการรับประหาร 19 กันายน 2549
นายไทกรเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากในการสืบหาหลักฐานที่พรรคไทยรักไทยจ้างวานพรรคเล็กเพื่อให้ลงเลือกตั้งในวันที่
2 เมษายน พ.ศ. 2549และเป็นพยานสำคัญในการพิจารณาคดีของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ แต่ทางพรรคไทยรักไทยโต้กลับมาว่า
นายไทกรใส่ความพรรคไทยรักไทยและสนิทสนมกับทางนาย
ปัจจุบัน นายไทกรยังคงดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่ในลักษณะการเคลื่อนไหวภาคประชาชน
โดยมักจะเคลื่อนไหวออกมาเป็นระยะ ๆ และได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย
และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในจังหวัดขอนแก่น ปลายปี พ.ศ. 2550 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง
ขอขอบคุณ
รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชน