ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพลังประชาชน ตัดสินกก.บห.พรรค5ปี|ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพลังประชาชน ตัดสินกก.บห.พรรค5ปี

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพลังประชาชน ตัดสินกก.บห.พรรค5ปี

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพลังประชาชน ตัดสินกก.บห.พรรค5ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ประกาศย้ายสถานที่นัดแถลงปิดคดียุบพรรคการเมือง 3 พรรค

บทความวันที่ 2 ธ.ค. 2551, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1047 ครั้ง


ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพลังประชาชน ตัดสินกก

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพลังประชาชน ตัดสินกก.บห.พรรค5ปี

 

หลังชท.-มฌ.แถลงปิดคดีเสร็จสิ้น-ไร้เงาพปช.

 

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ประกาศย้ายสถานที่นัดแถลงปิดคดียุบพรรคการเมือง 3 พรรคคือ พลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย จากศาลรัฐธรรมนูญ ถนนจักรเพชร มาที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ ในเวลา 10.00

 

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีกลุ่มคนเสื้อแดงมารวมตัวชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญจำนวนมากจนปิดทางเข้าออก เพื่อกดดันไม่ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปได้ หลังจากที่ทราบข่าวการย้ายสถานที่กลุ่มคนเสื้อแดงเริ่มทยอยออกจากศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมเดินทางไปศาลปกครองต่อไป ท่ามกลางกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารที่ยังคงตรึงกำลังโดยรอบอย่างเข้มงวด

 

    ทั้งนี้มีรายงานว่าภายหลังจากมีการแถลงปิดคดีแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอาจจะพิจารณาตัดสินยุบพรรคทันที เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงเข้าไปก่อกวนการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ

 

     ด้านพล.ต.ต.สาโรจน์พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2  กล่าวว่า ได้รับการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่มาอารักขารอบบริเวณศาลปกครอง คาดว่า จะใช้กำลังประมาณ 3 กองร้อย หรือ 450 นาย ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้จัดกำลังทหาร จากกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 2 กองร้อย เข้าร่วมดูแลความสงบเรียบร้อยด้วยเช่นเดียวกัน

 

     เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงประมาณ 500 คน ได้เดินทางมาถึงหน้าศาลปกครอง โดยนำรถบรรทุกเครื่องขยายเสียง 2 คัน เข้ามาจอดในบริเวณด้านหน้าศาลปกครอง และเปิดปราศรัยโจมตีการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  และกลุ่มพันธมิตร โดยมีรายงานข่าวว่า ตุลาการฯทั้ง 9 คนได้เข้าไปทำหน้าที่ภายในอาคารศาลปกครองแล้ว

 

      เวลา 09.10 น.นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พร้อมด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรค และผู้บริหารพรรค เดินทางมาถึงศาลปกครองเพื่อรอการแถลงปิดคดี นายบรรหาร กล่าวว่า มั่นใจในข้อมูลที่พรรคได้ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ก็จะชี้แจงด้วยวาจาตามข้อเท็จจริง

 

 

 

     ต่อมาเวลา 10.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ได้ออกนั่งบัลลังก์ โดย นายบรรหารได้กล่าวแถลงปิดคดีเป็นพรรคแรกโดยระบุว่า กรรมการบริหารพรรคไม่ได้กระทำความผิดอย่างที่ศาลกล่าวหา และกรรมการคนอื่นไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ที่ผ่านมาในการปฐมนิเทศของพรรคก็ได้ย้ำเตือนสมาชิกไม่ให้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งตลอดเวลา เชื่อว่าหากศาลได้เปิดโอกาสให้สืบพยานตามที่พรรคเสนอไปก่อนหน้านี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาวินิจฉัยของศาล ทั้งนี้ช่วงสุดท้ายของการแถลงปิดคดี นายบรรหารได้ยกมือไหว้ตุลาการฯ และกล่าวขอความเป็นธรรมจากศาล โดยขอให้ศาลช่วยพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา

 

       ภายหลังนายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้กล่าวว่า วันนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้แถลงปิดคดีด้วยวาจาแล้ว ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาคดี รอฟังคำวินิจฉัยในวันนี้ ให้คู่กรณีคัดสำเนาการพิจารณาคดี

 

     ผู้สื่อข่าวรายต่อจากนั้นนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาได้ขึ้นแถลงปิดคดี ขณะที่พรรคพลังประชาชนไม่ได้ส่งตัวแทนมาแถลงปิดคดีแต่อย่างใด

 

     ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงนัดให้ทั้ง 3 พรรคฟังคำวินิจฉัยในวันนี้ โดยในส่วนของพรรคพลังประชาชน

            ประเด็นที่ 1 นายยงยุทธ ติยะไพรัช กระทำความผิดตามพรบ.เลือกตั้งส.ส. หรือไม่ เห็นว่าประเด็นปัญหาการกระทำผิดของนายยงยยุทธ ได้ต่อสู้คดีกันโดยผู้ร้องและผู้ถูกร้องได้นำพยานหลักฐานสู่ศาลฎีกา และศาลมีคำวินิจฉัยว่านายยงยุทธ กระทำผิด ฝ่าฝืนพรบ.เลือกตั้ง มาตรา 53 ทำให้การเลือกตั้งส.ส.เชียงรายไม่สุจริต เที่ยงธรรม ตามคำสั่งศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดการทุจริต ส.ส. แล้วว่ามีเหตุสมควรเชื่อได้ว่านายยงยุทธ กระทำการฝ่าฝืนพรบ.เลือกตั้ง กรณีนายยงยุทธ จึงถือยุติตามคำสั่ง

 

     ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจไปตรวจสอบคำวินิจฉัยของศาลฎีกาและไม่มีอำนาจคัดค้าน ตามประเด็นคัดค้านว่าคำสั่งศาลฎีกาไม่มีคำสั่งผูกพันหัวหน้าพรรค เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยคดีนี้ แต่เป็นการพิจารณาว่านายยงยุทธ รองหัวหน้าพรรค ฝ่าฝืนพรบ.เลือกตั้ง ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้ยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งตามมาตรา 237 ประกอบมาตรา 68 วรรค 3 หรือไม่ โดยไม่จำเป็นว่าต้องวินิจฉัยว่าคนอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

 

       ประเด็นที่ 2 มีเหตุสมควรให้ยุบพรรคหรือไม่ กรณีศาลรธน.มีคำสั่งยุบพรรค ให้เพิกถอนสิทธิ์ 5 ปี

 แม้ข้อเท็จจริงจะไม่ได้กระทำ กฎหมายให้ถือว่าเป็นผู้กระทำ ศาลรธน.ไม่สามารถวินิจฉัยเป็นอื่นได้ เพราะการซื้อเสียงความผิด ใช้วิธีการแยบยล จึงให้ผู้บริหารพรรคคัดเลือกผู้ที่จะทำงานกับพรรคและควบคุมสอดส่องไม่ให้คนของพรรคกระทำผิด  ถือได้ว่ามีเหตุว่าสมควรยึดพรรคการเมืองผู้ถูกร้องหรือไม่ ต้องเป็นแบบอย่างถูกต้องชอบธรรม การได้มาซึ่งส.ส.ควรได้มาด้วยความนิยมเป็นหลัก มิใช่ได้มาด้วยผลประโยชน์หรืออามิสสินจ้าง กก.บห.ต้องช่วยกันทำหน้าที่ควบคุมดูแล แต่นายยงยุทธ และกก.บห.ใช้วิธีการผิดกฎหมายตนเองได้รับการเลือกตั่ง ได้ส.ส.เพิ่มขึ้น ถือว่าได้ประโยชน์แล้ว

 

       การที่นายยงยุทธ เป็นกก.บห. มีบทบาทสำคัญในพรรค ได้รับยกย่องเป็นรองหัวหน้าและประธานสภา มีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลส.ส. แต่กลับกระทำความผิดเสียเอง คุกคามระบอบประชาธิปไตย มีเหตุมควรให้ยุบพรรคเพือเป็นมาตรฐานพฤติกรรมที่ดีงาม ไม่ให้กระทำความผิดขึ้นอีก

 

      ประเด็นที่ 3 หัวหน้าพรรคและกก.บห.ผู้ถูกร้องต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่

 มาตรา 237 วรรค 2 หากศาลรธน.มีคำสั่งยุบพรรคให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปีนับแต่มีคำสั่งยุบพรรค เน้นย้ำมาตรา 68 วรรค 4 เมื่อศาลมีคำสั่งยุบพรรค ต้องเพิกถอนสิทธิ ศาลไม่อาจใช้ดุลยพินิจเป็นอื่นได้

 

      ส่วนข้อโต้แย้งว่าต้องมีส่วนรู้เห็นนั้น เห็นว่าการเพิกถอนสิทธิกก.บห.ในคดีนี้เป็นการเพิกถอนตามรธน. 68 วรรค 3 ไม่ใช่ตามพรบ.พรรคการเมือง มิอาจลบล้างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญข้อโต้แย้งทั้งหมดจึงฟังไม่ขึ้น ศาลจึงมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพปช.เนื่องจากนายยงยุทธ กระทำความผิดตามพรบ.เลือกตั้ง มีผลให้การเลือกตั้งไม่สุจริต 68-237 วรรค และให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งกก.บห.ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างกระทำความผิดเป็นเวลา 5 ปี มาตรา 68 วรรค 4 237 วรรค 2

 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พรรคมัชฌิมา ศาลได้วินิจฉัยไปในแนวทางเดียวกันคือยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตยและตัดสิทธิ์กก.บห.พรรคชุดรักษาการเป็นเวลา 5 ปี

ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด

 

 

 

 

 

  

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก