งัด 6 มาตรการรับมือวิกฤติเลิกจ้างงาน
เมื่อวันที่
31 ต.ค.
ที่สำนักงานประกันสังคม
(สปส.) นาย
“เห็นตรงกันว่ามีช่องทางอื่นอีกมากและสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ
และส่วนลดที่นายจ้าง
ลูกจ้างได้รับนั้นเป็นส่วนที่น้อยมากลดลงประมาณ
100-200 บาทต่อเดือน
ไม่ได้เป็นการเพิ่มสภาพคล่องเท่าที่ควร
สปส.ก็ยินดีที่จะทบทวน
พร้อมหาข้อมูล
ศึกษาผลกระทบรอบด้าน
เพราะเรื่องนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ
สปส.จะเชิญลูกจ้าง
นายจ้าง
และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาหารือมาตรการช่วยเหลืออื่น
แต่หากสถานการณ์วิกฤติจริง
ๆ
ก็พร้อมที่จะนำมาตรการดังกล่าว
มาใช้”
ที่กระทรวงแรงงานวันเดียวกัน
นาย
4. โครงการมหกรรมอาชีพ
เพื่อให้นักเรียน
นักศึกษา
ประชาชนทั่วไป
รวมทั้งผู้ถูกเลิกจ้างได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงานด้านอาชีพ
รวมทั้งยังเป็นการเตรียมบุคลากรที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน
5.โครงการจัดหางานพิเศษสำหรับนักเรียน
นักศึกษา
ช่วงปิดภาคเรียน
6.โครงการมีงานทำนำชุมชนเข้มแข็ง
ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรุกของกรมการจัดหางานที่ได้จัดรถ
โมบาย ยูนิต
ออกให้บริการในชุมชนห่างไกลเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่แท้จริง
อธิบดีกรมการจัดหางาน
กล่าวต่อว่า
นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์ตำแหน่งงานว่างขึ้นที่ศูนย์จัดหางาน
ภายในกระทรวงแรงงาน
และที่สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด
และสำนักจัดหางานกรุงเทพฯ
เขตพื้นที่ 1-10
ได้เตรียมตำแหน่งงานไว้แล้ว
122,560 ตำแหน่ง
ในเขตกรุงเทพฯ
51,771 อัตรา
ภาคกลาง 23,734 อัตรา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
13,754 อัตรา
ภาคตะวันออก 9,810
อัตรา
ภาคเหนือ 9,480 อัตรา
ภาคใต้ 8,773 อัตรา
และภาคตะวันตก
5,238 อัตรา เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการว่างงานและเป็นการส่งเสริมให้แรงงานที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่และผู้ถูกเลิกจ้างได้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพ
ด้าน นาง
โดยในวันที่
3 พ.ย. นี้
เจ้าหน้าที่สำนักแรงงานสัมพันธ์
ได้นัดตัวแทนนายจ้างและลูกจ้างมาเจรจาเพื่อให้จ่ายเงินทดแทนตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามถ้านายจ้างมีปัญหาด้านการเงินจะต้องจ่ายค่าจ้างภายใน
30 วัน หากยังไม่จ่าย
กสร.ก็จะนำเงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
มาสำรองจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกจ้างไปก่อน
จากนั้นก็จะไปไล่เบี้ยเงินคืนจากนายจ้างอีกต่อหนึ่ง
อธิบดี กสร.
กล่าวต่อว่า
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่
กสร.ทั้ง 75
จังหวัด ลงไปตรวจสอบดูแลปัญหาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้หากนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยและสวัสดิการ
จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน
2 แสนบาท และจากสถิติที่ผ่านมาทุกปีจะมีนายจ้างประมาณ
300 ราย
ถูกปรับเป็นเงินกว่า
8 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม
ในช่วงที่สถานการณ์ในการเลิกจ้างมีตัวเลขที่สูงขึ้นก็มีข่าวดีเกี่ยวกับตัวเลขสถานประกอบการที่เกิดขึ้นใหม่ในปี
51 จำนวน 269 แห่ง
คิดเป็นเงินลงทุนกว่า
2 หมื่นล้านบาท
มีความต้องการจ้างแรงงานใหม่
9,248 คน นอกจากนี้หากโครงการเมกะโปรเจคท์ของรัฐบาลเกิดขึ้นก็จะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย.
ขอขอบคุณข้อมูลประกอบจาก
เดลินิวส์