ลักทรัพย์นายจ้างหรือยักยอกทรัพย์
คุณเพ็ญจรัส ขอคำปรึกษาเรื่องของหลานสาว เล่าว่า หลานสาวไปทำงานเป็นพนักงานฝ่ายการเงิน ที่สนามไดร์ฟกอล์ฟแห่งหนึ่ง นอกจากทำเรื่องการเงิน
สิ่งที่จะต้องรับผิดชอบอีกเรื่องคือต้องทำหน้าที่ขายคูปองลูกกอล์ฟควบคู่ไปด้วย
ซึ่งในการขาย จะตั้งราคาลูกกอล์ฟเป็น 2 แบบ คือ ลูกกอล์ฟเก่า ถาดละ 25
บาท มีลูกกอล์ฟจำนวน 40 ลูก ลูกกอล์ฟแบบใหม่ ถาดละ 40
บาท มีลูกกอล์ฟ 40 ลูก ซึ่งโดยปกติมียอดขายวันละ
2-3 หมื่นบาท
ต่อมามีการตรวจสอบในเครื่องของแคชเชียร์
มีเงินหายไปเฉลี่ยวันละ 1,500 บาท
ซึ่งในช่วงนั้นหลานสาวคุณเพ็ญจรัส
ทำงานกะเย็น เจ้านายได้เรียกไปพูดคุยและให้ทำหนังสือ
รับว่าตนเองเป็นผู้รับผิดชอบในช่วงนั้นจริงและต้องรับผิดชดใช้เงินจำนวน 120,000 บาท
มิฉะนั้นจะแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับหลานสาวต่อไป
คำแนะนำ
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น
ถ้าหลานสาวของคุณเพ็ญจรัส เอาเงินไปจริงถือว่าเบียดบังเอาทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่นนั้นเป็นของตน
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา
352 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าทรัพย์สินนั้นเป็นของนายจ้างจะมีความผิดตามมาตรา
335(11) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี
และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น
หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด
เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด
หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้
ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง
มาตรา 335
ผู้ใดลักทรัพย์
(11)
ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี
และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราดังกล่าวแล้วตั้งแต่สองอนุมาตราขึ้นไป
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี
และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท