สอบถามเรื่องการอายัดเงินเดือน
คำถามจาก www.decha.com
เงินเดือนผม รับอยู่ที่ 14,300
ได้โอที 3,000 บาท
รวมเป็น 17,300 บาท แฟนผม รับอยู่ที่ 8,640 ได้โอที 3,000 บาท รวมเป็น 11,640 บาทโอทีเข้าให้ทุกเดือนครับ ทรัพย์สินที่เป็นชื่อผม มีอย่างเดียวครับ มอเตอร์ไซค์
Honda Wave 110s ประมาณ 6 ปีที่แล้ว
นอกนั้นไม่มีครับ
ผมอยากทราบว่าถ้าเกิดผมกับแฟน
เข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ ก่อนการ อายัดเงินเดือน ผมจะโดนยึดมอเตอร์ไซค์ไหมครับ อีกอย่าง ผมจะโดนอายัดเงินเดือนเดือนละเท่าไหร่
และแฟนผมจะถูกอายัดเงินเดือนเดือนละเท่าไหร่ครับ ผมจะได้เตรียมการใช้จ่ายหลังจากการถูกอายัดเงินเดือนครับ
คำแนะนำ
เรื่องรถมอเตอร์ไซค์
หากเจ้าหนี้ตรวจสอบพบว่าคุณมีชื่อเป็นเจ้าของก็อาจถูกยึดได้ ส่วนเรื่องการอายัดเงินเดือนนั้น สามารถอายัดเงินเดือนได้ 30% ของเงินที่ได้รับโดยคำนวณจากเงินเดือนก่อนหักค่าใช้จ่าย แต่เมื่อถูกอายัดเงินเดือนแล้ว
ลูกหนี้ต้องมีรายได้เหลืออย่างน้อยเดือนละ10,000 บาท
แต่หากถูกอายัดเงินเดือนแล้วได้รับความเดือดร้อน
ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอลดยอดเงินที่ถูกอายัดได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 286
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 286
ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น
เงินหรือสิทธิเรียกร้องเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไปนี้
ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
(1)
เบี้ยเลี้ยงชีพซึ่งกฎหมายกำหนดไว้และเงินรายได้เป็นคราว ๆ
อันบุคคลภายนอกได้ยกให้เพื่อเลี้ยงชีพ เป็นจำนวนรวมกันไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาทหรือตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควร
(2) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ บำเหน็จ
เบี้ยหวัด หรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของข้าราชการ เจ้าหน้าที่
หรือลูกจ้างในหน่วยราชการ และเงินสงเคราะห์ บำนาญ
หรือบำเหน็จที่หน่วยราชการได้จ่ายให้แก่คู่สมรสหรือญาติที่ยังมีชีวิตของบุคคลเหล่านั้น
(3) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ ค่าชดใช้
เงินสงเคราะห์ หรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงาน
นอกจากที่กล่าวไว้ใน (2) ที่นายจ้างจ่ายให้แก่บุคคลเหล่านั้น หรือคู่สมรส
หรือญาติที่ยังมีชีวิตของบุคคลเหล่านั้น
เป็นจำนวนรวมกันไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท หรือตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควร
(4)
เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้รับอันเนื่องมาแต่ความตายของบุคคลอื่นเป็นจำนวนตามที่จำเป็นในการดำเนินการฌาปนกิจศพตามฐานะของผู้ตายที่ศาลเห็นสมควร
ในกรณีที่ศาลเป็นผู้กำหนดจำนวนเงินตาม (1) และ (3)
ให้ศาลกำหนดให้ไม่น้อยกว่าอัตราเงินเดือนขั้นต่ำสุดของข้าราชการพลเรือนในขณะนั้นและไม่เกินอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของข้าราชการพลเรือนในขณะนั้น
โดยคำนึงถึงฐานะในทางครอบครัวของลูกหนี้ตามคำพิพากษาและจำนวนบุพการีและผู้สืบสันดานซึ่งอยู่ในความอุปการะของลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วย
ในกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจออกคำสั่งอายัดตามมาตรา
311 วรรคสอง ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจกำหนดจำนวนเงินตาม (1) (3) และ (4)
และให้นำความในวรรคสองมาใช้บังคับแก่การกำหนดจำนวนเงินตาม (1) และ (3) โดยอนุโลม
แต่ถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา
หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนด
บุคคลดังกล่าวอาจยื่นคำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวัน
นับแต่วันที่ได้ทราบถึงการกำหนดจำนวนเงินเช่นว่านั้น
เพื่อขอให้ศาลกำหนดจำนวนเงินใหม่ได้
ในกรณีที่พฤติการณ์แห่งการดำรงชีพของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้เปลี่ยนแปลงไป
บุคคลตามวรรคสามจะยื่นคำร้องให้ศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดี แล้วแต่กรณี
กำหนดจำนวนเงินตาม (1) และ (3) ใหม่ก็ได้
คำสั่งของศาลที่เกี่ยวกับการกำหนดจำนวนเงินตามมาตรานี้ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ได้และคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด