ถอนคืนการให้ต้องฟ้องภายใน 6 เดือน
ทนายคลายทุกข์ขอนำคำพิพากษาศาลฎีกา
6962/2550
เรื่องอายุความเรียกถอนคืนการให้
ซึ่งเป็นเรื่องที่เพื่อนสมาชิกสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก
อายุความเรียกถอนคืนการให้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบที่ดินทั้งห้าแปลงดังกล่าว
คืนให้แก่โจทก์โดยให้ไปจดทะเบียนโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของจากชื่อจำเลยเป็นชื่อโจทก์
หากจำเลยไม่ยอมปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
รายละเอียดคำพิพากษาของศาลฎีกา
แม้คำให้การของจำเลยจะไม่ระบุระยะเวลาที่เป็นอายุความตามข้อต่อสู้ไว้ แต่โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุประพฤติเณรคุณเพียงเรื่องเดียว ซึ่งตาม ป.พ.พ.
บัญญัติเรื่องอายุความถอนคืนการให้ไว้ในลักษณะให้ มาตรา 533 เพียงมาตราเดียว
ซึ่งเมื่ออ่านคำให้การของจำเลยโดยตลอดแล้วเป็นที่เข้าใจได้ว่า
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยไม่ได้ประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ได้ด้วยการด่าว่า
และหมิ่นประมาทโจทก์ตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง
เพราะมิฉะนั้นโจทก์คงไม่โอนที่ดินแปลงที่ 5
ให้แก่จำเลยในวันที่ 10 เมษายน 2539
อย่างแน่นอน
และหากศาลฟังว่าจำเลยประพฤติเนรคุณดังที่โจทก์ฟ้องอันเป็นมูลเหตุให้โจทก์มีสิทธิถอนคืนการให้ได้ ฟ้องโจทก์ก็ขาดอายุความแล้ว
จำเลยยังได้แสดงเหตุแห่งการปฎิเสธและการขาดอายุความให้ปรากฏว่าเหตุใดฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ คำให้การของจำเลยชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา
177 วรรคสอง คดีจึงมีประเด็นเรื่องอายุความ
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่า
จำเลยประพฤติเนรคุณด่าว่าและหมิ่นประมาทโจทก์ เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ. 2538 ถึงปี 2539 แต่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 ซึ่งเหตุประพฤติเนรคุณที่โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อนับถึงวันฟ้องเกินกว่า 6
เดือน นับแต่วันที่โจทก์ได้ทราบถึงเหตุเหล่านั้นฟ้องโจทกึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 533 วรรคหนึ่ง
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
มาตรา 533 เมื่อผู้ให้ได้ให้อภัยแก่ผู้รับในเหตุประพฤติเนรคุณนั้นแล้วก็ดี
หรือ
เมื่อเวลาได้ล่วงไปแล้วหกเดือนนับแต่เหตุเช่นนั้นได้ทราบถึงบุคคลผู้ชอบที่จะเรียกถอนคืนการให้ได้นั้นก็ดี
ท่านว่าหาอาจจะถอนคืนการให้ได้ไม่
อนึ่ง ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาสิบปีภายหลังเหตุการณ์เช่นว่านั้น
มาตรา 177
เมื่อได้ส่งหมายเรียกและคำฟ้องให้จำเลยแล้ว
ให้จำเลยทำคำให้การเป็นหนังสือยื่นต่อศาลภายในสิบห้าวัน
ให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า
จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน
รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น
จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้
แต่ถ้าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้ว
ให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก
ให้ศาลตรวจดูคำให้การนั้นแล้วสั่งให้รับไว้
หรือให้คืนไปหรือสั่งไม่รับตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18
บทบัญญัติแห่งมาตรานี้
ให้ใช้บังคับแก่บุคคลภายนอกที่ถูกเรียกเข้ามาเป็นผู้ร้องสอดตามมาตรา 57 (3)
โดยอนุโลม
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา
พ.ศ. 2550 เล่น 9 บริการสำนักงานศาลยุติธรรม