กองทุนเงินทดแทน
ทนายคลายทุกข์ขอนำข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม
เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์กองทุนเงินทดแทนจากหลายสาเหตุด้วยกันมานำเสนอให้เพื่อนสมาชิกในฐานะผู้ประกันตนได้รู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเอง ศึกษาเพิ่มเติมได้จากด้านล่างนี้
กรณีทุพพลภาพเนื่องจากการทำงาน
เงื่อนไข
คือ ได้รับสิทธิทันทีเมื่อเข้าเป็นลูกจ้าง
สิทธิที่ลูกจ้างจะได้รับ
คือ ค่าทดแทนเป็นรายเดือนละ 60% ของค่าจ้างรายเดือน
โดยจ่ายตามประเภททุพพลภาพแต่ไม่เกิน 15 ปี
หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน คือ
1. กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน
- กท. 16
- ใบรับรองแพทย์
2. กรณีอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงานนอกสถานที่ทำงาน
- กท. 16
- ใบรับรองแพทย์
- บัตรลงเวลาทำงาน
- หลักฐานการออกปฏิบัติงานนอกสถานที่
- บันทึกประจำวันตำรวจ
กรณีตายหรือสูญหายจากการทำงาน
เงื่อนไข
คือได้รับสิทธิทันทีเมื่อเข้าเป็นลูกจ้าง
สิทธิที่ลูกจ้างจะได้รับ คือ
1. ค่าทำศพ จำนวน 100 เท่าของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน
2. ค่าทดแทนของค่าจ้างรายเดือนในอัตรา 60% ของค่าจ้างรายเดือน มีกำหนด 8 ปี
(จ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด)
หมายเหตุ:
1. ค่าทดแทนรายเดือน จ่ายให้ร้อยละ 60%
ของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน
ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในท้องที่ที่ลูกจ้างประจำทำงานอยู่คูณด้วย 26 และไม่เกินร้อยละ 60 ของค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือน ซึ่งคำนวณจากค่าจ้างสูงสุดที่ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบ และไม่เกินเดือนละ 12,000 บาท
- กท. 16
- ใบรับรองแพทย์
2. ผู้มีสิทธิรับเงินทดแทน กรณีลูกจ้างตายหรือสูญหาย ได้แก่
- บิดา - มารดา โดยชอบด้วยกฎหมาย
- สามีหรือภรรยา โดยชอบด้วยกฎหมาย
- บุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี
(เว้นแต่เมื่อครบ 18
แล้วยังศึกษาอยู่ในระดับไม่สูงกว่าปริญญาตรี)
ให้ได้รับส่วนแบ่งต่อไปตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่
- บุตรอายุตั้งแต่ 18 ปี และทุพพลภาพ
หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ซึ่งอยู่ในอุปการะของลูกจ้างก่อนลูกจ้างถึงแก่ความตาย
หรือสูญหาย
- บุตรของลูกจ้างซึ่งเกิดภายใน 310 วัน
นับแต่วันที่ลูกจ้างถึงแก่ความตายหรือวันที่เกิดเหตุ
สูญเสียมีสิทธิได้รับเงินทดแทนนับแต่วันคลอด
วิธีปฏิบัติการส่งตัวลูกจ้างเข้ารักษาพยาบาล
กรณีเข้ารักษา
ณ สถานพยาบาลที่ตกลงไว้
นายจ้างจะส่งผู้ประสบอันตราย
หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานเข้ารับการรักษา ณ สถานพยาบาล
ซึ่งกองทุนเงินทดแทนทำความตกลงไว้ โดยใช้แบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาล (กท.44)
ในกรณีนี้ นายจ้างและลูกจ้างไม่ต้องทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน
สถานพยาบาลนั้น ๆ จะเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนเงินทดแทนโดยตรง
แต่นายจ้างต้องนำส่ง กท.16
และสำเนา กท.44 ก่อน
กรณีเข้ารักษา
ณ สถานพยาบาลทั่วไป
นายจ้างจะส่งลูกจ้างผู้ประสบอันตราย
หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานเข้ารับการรักษา ณ สถานพยาบาลใด ๆ ก็ได้
ทั้งของเอกชนและของรัฐบาล
แต่ทั้งนี้ต้องเป็นสถานพยาบาลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายให้ทำการรักษา
และลงชื่อรับรองในใบความเห็นของแพทย์ การส่งลูกจ้างไปรับการรักษา ณ
สถานพยาบาลดังกล่าวนี้ นายจ้างหรือลูกจ้างจะต้องทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน
แล้วนำไปเสร็จรับเงินมาเป็นหลักฐานขอเบิกเงินจากกองทุนเงินทดแทนได้
หลักการปฏิบัติและหน้าที่ของนายจ้าง ลูกจ้าง
หน้าที่ของนายจ้าง
วิธีปฏิบัติในการส่งลูกจ้างเข้ารักษา
1. นายจ้างต้องแน่ใจว่าลูกจ้างประสบอันตราย
หรือเจ็บป่วยด้วยโรคเนื่องจากการทำงานจริง
2. ให้นายจ้างกรอกข้อความในแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาล
(กท.44) ซึ่งชุดหนึ่งมี 2 แผ่น โดยให้ลูกจ้างนำไปแสดงต่อโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา ณ
สถานพยาบาลที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทนทำความตกลงไว้
3. ให้นายจ้างส่งสำเนาแบบ กท.44
ไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด
พร้อมแบบแจ้งการประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย (กท.16)
และใบรับรองแพทย์
4. ในการส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษาตามแบบ
กท.44 นี้ หากภายหลังสำนักงานกองทุนเงินทดแทน
หรือสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด
วินิจฉัยว่าลูกจ้างไม่มีสิทธิรับเงินทดแทน นายจ้างผู้ส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษา
จะต้องรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลแก่สถานพยาบาลที่ให้การรักษาแก่ลูกจ้างนั้นเอง
หน้าที่ของลูกจ้าง
หน้าที่ของลูกจ้างผู้ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน
1. รีบแจ้งนายจ้างทันทีที่ประสบอันตราย
แม้จะเป็นการประสบอันตรายเพียงเล็กน้อยก็ต้องแจ้ง
เพราะอาจจะมีอาการกำเริบมากขึ้นได้ในภายหลัง
2. กรอกข้อความหรือตรวจสอบรายละเอียดให้ถูกต้อง
และลงลายมือชื่อในแบบแจ้งการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย (กท.16)
ในส่วนของลูกจ้าง
3. ต้องรักษาพยาบาลกับแพทย์ปัจจุบันชั้น
1
4. ถ้าลูกจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อนแล้ว
ให้รีบนำใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล มาเบิกคืนจากสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่
หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดแล้วแต่กรณี
5. หากลูกจ้างได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าลูกจ้างจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน
ให้ไปติดต่อสมัครเข้ารับการฟื้นฟูฯ ได้ที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน
หรือที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทน หรือสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่
หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดทุกจังหวัด
6. ในกรณีที่มีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นภายหลังการสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
ให้ลูกจ้างยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทน (กท.16) ได้ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ทราบการเจ็บป่วย
ขอขอบคุณเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์จาก
www.sso.go.th