พิสูจน์-ลักไต ใช้\'เอ็มอาร์ไอ\'|พิสูจน์-ลักไต ใช้\'เอ็มอาร์ไอ\'

พิสูจน์-ลักไต ใช้\'เอ็มอาร์ไอ\'

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

พิสูจน์-ลักไต ใช้\'เอ็มอาร์ไอ\'

ความพยายามในการหาสาเหตุว่าไตข้างขวาของนางเกษร พุ่มแจ้ง อายุ 43 ปี สาวโรงงานเย็บผ้า จ.สมุทรปราการ ที่เข้าร้องเรียน ?ไทยรัฐ? ว่าจะมาจากสาเหตุใด

บทความวันที่ 17 ก.ค. 2551, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 699 ครั้ง


พิสูจน์-ลักไต ใช้'เอ็มอาร์ไอ'

พิสูจน์-ลักไต ใช้'เอ็มอาร์ไอ'

 

ความพยายามในการหาสาเหตุว่าไตข้างขวาของนางเกษร พุ่มแจ้ง อายุ 43 ปี สาวโรงงานเย็บผ้า จ.สมุทรปราการ ที่เข้าร้องเรียน ไทยรัฐว่าจะมาจากสาเหตุใด โดยหลังจากเสนอข่าวไปนั้น กรมการประกอบโรคศิลปะกระทรวงสาธารณสุข ได้นำตัวนางเกษรไปเอกซเรย์อีกครั้งที่โรงพยาบาลราชวิถี แต่ยังไม่มีแพทย์คนใดระบุถึงผลเอกซเรย์ และไม่ให้ฟิล์มเอกซเรย์กับผู้เสียหายนำไปประกอบการแจ้งความ ความคืบหน้าในเรื่องนี้ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ก.ค. นางเกษร พุ่มแจ้ง และนางเจริญ จักษุ อายุ 67 ปี มารดา พร้อมญาติๆ เดินทางไปที่ตึกชินวัตร 3 เนื่องจากได้รับเชิญให้ไปออกรายการทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

นางเจริญ จักษุ แม่นางเกษรกล่าวว่า ตั้งแต่ลูกสาวป่วย ทางบ้านเหมือนขาดเสาหลัก ภาระที่นางเกษรต้องจ่ายเงินกู้เพราะเอาบ้านไปเข้าธนาคารไว้ 2 แสนบาท ต้องขาดชำระ ที่ผ่านมา ลูกสาวรู้ตัวว่ามีไตข้างเดียว ช่วงที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3 แต่ไม่ได้บอกให้คนในบ้านรู้ เพราะกลัวจะเครียด จนร่างกายไม่ไหวแล้วถึงตัดสินใจบอก ตอนนี้ถ้าเป็นไปได้อยากได้ความช่วยเหลือเรื่องไตเทียม เพื่อจะได้มีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ไตที่เหลืออยู่ข้างเดียวก็เสื่อม ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ถ้าเป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาล อยากให้มีความรับผิดชอบ ไม่อยากเห็นลูกเป็นอะไรไปเพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้น 

ต่อมานางเกษรพร้อมด้วยญาติ เดินทางต่อไปที่แพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำข้อมูลมาให้คณะกรรมการแพทยสภาพิจารณา อาทิ ฟิล์มเอกซเรย์ เปรียบเทียบระหว่างโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง ซึ่งอัลตราซาวด์เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 48 พบว่ามีไตอยู่ครบ และผลอัลตราซาวด์เมื่อเดือน ก.ค. 51 ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3 ไม่พบไตข้างขวา 

นางเกษรกล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจซีทีสแกนที่โรงพยาบาลราชวิถีเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ยังไม่มีแพทย์ หรือพยาบาลมาอธิบายว่าเพราะเหตุใดไตขวาถึงหายไป ตนสงสัยว่าการผ่าตัดซีสต์มดลูกในปี 49 ที่โรงพยาบาลกรุงธน 2 จะมีผลกระทบต่อไต ทำให้ไตฝ่อได้หรือไม่

ด้าน นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า จากข้อสันนิษฐาน สาเหตุการมีไตข้างเดียวของนางเกษรมี 4 ประการคือ ไม่มีไตข้างขวาตั้งแต่กำเนิด มีการฝ่อไปของไตขวาเนื่องจากอาการไตวาย ซึ่งภายในระยะเวลา 2 ปี สามารถฝ่อเล็กลงไปได้เช่นกัน หรือการอ่านผลการตรวจอัลตราซาวด์ครั้งแรกของโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง เกิดการผิดพลาด หรือสุดท้ายคือ ไตขวาหายไปจริงๆ 

อย่างไรก็ตาม แพทยสภายังไม่สรุปว่าเป็นไปตามข้อสันนิษฐานใด จะเป็นการขายไตเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ หรือเป็นการไม่มีไตแต่กำเนิด หรือไตฝ่อ แม้ว่าโอกาสของการไม่มีไตขวาตั้งแต่กำเนิดจะพบน้อยมากในประชาชนทั่วไป แต่ถือว่ามีโอกาสเกิดมากกว่าแพทย์ผ่าตัดเอาไตไปเปลี่ยนอวัยวะให้กับผู้อื่นนพ.สมศักดิ์กล่าว

นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับแผลของการผ่าตัดซีสต์ที่มดลูกอยู่บริเวณหัวเหน่า การผ่าตัดเปลี่ยนไตทำได้ยากมาก และหากดำเนินการจริงจะต้องล้วงผ่านลำไส้ และกระเพาะ ถือเป็นเรื่องยาก ประกอบกับการผ่าตัดเปลี่ยนไตไม่สามารถใช้เวลาได้เพียง 30 นาที อีกทั้งประสิทธิภาพของโรงพยาบาลกรุงธน 2 ที่ผ่าตัดซีสต์ให้ผู้ร้อง ไม่เพียงพอที่จะผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะได้ เพราะต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือว่าเป็นผ่าตัดใหญ่ ขั้นตอนต่อไป แพทยสภาจะส่งเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการจริยธรรมของแพทยสภา โดยไม่ต้องมีการร้องเรียน และจะพานางเกษรไปตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เอ็มอาร์ไอ) ที่ศูนย์เอ็มอาร์ไอ ประชาชื่น ในเช้าของวันที่ 17 ก.ค. เพื่อพิสูจน์ว่าไตหายไปด้วยสาเหตุใด หากตรวจพบว่ามีรูท่อไต แสดงว่าเป็นการฝ่อของไตมากกว่าการผ่าตัดอวัยวะ เพราะการผ่าไตต้องผ่ารวมไปถึงท่อกรวยไตด้วย

 

 

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวดีๆจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก