คำแนะนำในการจัดการมรดก
ปัจจุบันมีคดีเกี่ยวกับเรื่องการจัดการมรดกเป็นจำนวนมาก
สาเหตุเนื่องจากว่าในแต่ละวันจะมีคนแก่ตายตามอายุไข ถูกยิงตาย หรือเกิดอุบัติเหตุ
เป็นต้น เมื่อมีคนตาย คนตายจะมีทรัพย์สินและหนี้สินที่ฝากไว้หลังความตาย
ตามกฎหมายเมื่อใครก็แล้วแต่ถึงแก่ความตายหนี้สินและทรัพย์สินจะตกเป็นของทายาทโดยอัตโนมัติโดยผลของกฎหมายไม่ว่าทายาทคนนั้นจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องรับสภาพตามกฎหมาย
ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1599
แต่ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1601
หลายคนมีความสงสัยว่า
เมื่อญาติผู้ใหญ่ถึงแก่ความตายมักจะมีหนี้สินที่ฝากไว้ให้ลูกหลานใช้ต่อ
หลายคนกลัวถูกยึดทรัพย์ หรือถูกทวงหนี้ซึ่งตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อ
จึงเกิดคำถามมากมายขึ้นว่า คนที่เป็นทายาทโดยธรรมจะปฏิเสธรับมรดกได้หรือไม่
เพราะมันไม่ใช่มรดกเงิน แต่มันเป็นมรดกแห่งหนี้สิน ทนายคลายทุกข์ตอบได้ทันทีว่า
คุณไม่มีทางเลือก คุณต้องรับสภาพ เนื่องจากกฎหมายบังคับให้คุณต้องรับกรรม
คำถามที่ตามมา
ทายาทโดยธรรมคือใคร ตอบได้ทันทีว่า ทายาทที่ถูกระบุไว้มีทั้งหมด 6 ลำดับในป.พ.พ.มาตรา 1629 ซึ่งประกอบไปด้วยและมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังกันดังนี้
-
ผู้สืบสันดาน
-
บิดามารดา
-
พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
-
พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
-
ปู่ ย่า ตา ยาย
-
ลุง ป้า น้า อา
ตามกฎหมายถ้าทายาทไม่อยากจะรับผิดแทนลูกหนี้ที่เป็นเจ้ามรดก
ทนายคลายทุกข์อยากแนะนำว่า เมื่อได้รับหมายศาลในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรมหรือทายาทโดยพินัยกรรมของผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้
ให้เดินทางไปศาลแล้วยื่นคำแถลงต่อศาลว่า
เราเป็นทายาทที่ไม่มีความประสงค์ที่จะรับทรัพย์สินหรือหนี้สินของลูกหนี้ที่เป็นเจ้ามรดกให้ศาลบันทึกไว้
เพราะเมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ท่านในฐานะโดยธรรมต้องใช้หนี้ตามคำพิพากษา
เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะยึดทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
เนื่องจากการที่ท่านเป็นจำเลยตามคำพิพากษามิใช่ในฐานะส่วนตัว
แต่ในฐานะทายาทโดยธรรม ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1629 เท่านั้น
ในกรณีที่ผู้ตายมีทรัพย์สินเงินทองมาก
เมื่อถึงแก่ความตายคนที่เป็นทายาทตามพินัยกรรมหรือทายาทโดยธรรมหรือผู้มีส่วนได้เสีย
เช่น เจ้าหนี้ หรือคู่สัญญา หรือคนที่มีสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดก
สามารถที่จะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดก ถ้าไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ป.พ.พ.มาตรา 1718 ตามมาตรา 1713
เมื่อเป็นผู้จัดการมรดกแล้วก็เกิดสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท
ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1719
และจะต้องทำบัญชีทรัพย์ให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน
และหลังจากนั้นต้องรวบรวมทรัพย์สินให้เสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน ตาม มาตรา
1728,1729 นับแต่ศาลได้มีคำสั่ง
และหากทำบัญชีทรัพย์ไม่เสร็จ ต้องขอให้ศาลขยายเวลาออกไป
หากเพิกเฉยอาจถูกผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งถอนออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ.มาตรา 1727
ผู้จัดการมรดกต้องรับผิดต่อทายาทในการกระทำของตนเองตาม
ป.พ.พ.มาตรา 1720 และถ้ามีการยักยอกทรัพย์หรือโกงทรัพย์มรดก
ต้องถูกลงโทษทางอาญาถึงขั้นติดคุกติดตาราง
ขอเตือนว่า
เป็นผู้จัดการมรดกไม่ใช่เรื่องสนุกและไม่มีสิทธิที่จะได้รับบำเหน็จหรือค่าจ้างจากกองมรดก
เว้นแต่พินัยกรรม หรือทายาทเสียงข้างมากจะได้กำหนดให้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา
1721 มีแต่เสียกับเสีย และหลายคนก็อยากจะเป็นผู้จัดการมรดกกันทั้งนั้น
ดีหรือไม่ดีคิดกันเอาเอง