ชำระหนี้คืน
กยศ.
วันนี้มีสมาชิก รหัส R
23206 ได้มีคำถามเข้ามาในเวบไซด์ที่กระดานข่าวในหัวข้อถามปัญหากฎหมาย ซึ่งสมาชิกท่านนี้ก็มีปัญหาเรื่องเงินกองทุนเพื่อการศึกษาหรือ
กยศ. คำถามของสมาชิกท่านนี้มีดังนี้ครับ
?สวัสดีครับอาจารย์เดชา และพี่ๆๆทีมงานทุกๆๆคน ในวันแห่งความรัก
อิอิ... วันนี้กระผมก็มีเรื่องมารบกวนอาจารย์และพี่ๆๆอีกแล้วนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า ตอนเรียนอยู่
ตจว. ได้กู้ยืมเงิน เป็นเงินกองทุนเพื่อการศึกษา แต่ได้ถึงครบเวลาจ่ายมาแล้วหลายปี
ผมก็ส่งบางไม่ส่งบางแล้วแต่มีครับ แต่เดือนนี้ผมไปเสียมา
500 บาท เขาบอกว่า ยอดมี หมื่นกว่านะค่ะที่ต้องจ่าย (หมายถึงยอดที่ผมต้องจ่ายเขาต่อปี คิดเป็นงวดๆๆแล้วตกปีละหมื่นรวมดอกอะไรแบบนี้นะครับ)
ผมก็เลยถามเขาต่อว่าสิ้นเดือนนี้ยัง ยอดเดิมหรือเปล่าครับ เขาบอกว่าไม่นะค่ะน้อง เขาจะคิดดอกทบดอกต่อไปอีกคิดเป็นวันเลยหรือไรนี้ละครับ.. หากปีไหนไม่จ่าย ต้นและดอก
ปีต่อไปก็ทบดอกไปเลื่อยๆๆ ผมเลยคิดว่าคงไม่ไว้เพราะที่จ่ายให้ต่อปีเท่ากับว่าติดดอกไปเลื่อยๆๆ
แต่ต้นยังไม่ได้จ่ายเลย ....ก็เลยจะถามว่าหากให้เขาฟ้องแล้วจ่ายเฉพาะเงินต้นอย่างเดียวได้หรือเปล่าครับในทางกฏหมาย และขั้นตอนมันจะยุ่งอยากหรือเปล่าครับ จะมีผลต่อผมมากไหมครับ .....เพราะเงินต้นมัน ประมาณ 1 แสนกว่าบาทครับ.... เพราะผมเองไม่สามารถจ่ายเงินได้จริงๆๆ ตอนนี้ติดผ่อนรถอยู่ครับ....
///ขอบคุณครับ///?
จากคำถามของสมาชิกท่านนี้มีปัญหาเกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้คืนกองทุน
ฯ
ซึ่งหากถึงเวลาที่จะต้องชำระเงินคืนกองทุน ฯ
แล้วไม่ชำระคืนในเวลาที่ทางกองทุนแจ้งมาผลจะเป็นอย่างไร ทางกองทุนจะเรียกดอกเบี้ยทบต้นได้หรือไม่ ทนายคลายทุกข์จึงไขข้อข้องใจตามปัญหาของสมาชิกท่านนี้ดังนี้ครับ
1.
เมื่อผู้กู้ยืมสำเร็จการศึกษาแล้วเป็นเวลา 2 ปี ต้องชำระเงินคืนให้แก่กองทุน ฯ
ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการกองทุน ฯ คือ
ต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายใน
15 ปี
2.
ผู้กู้ยืมจะได้รับหนังสือทวงถามเพื่อแจ้งให้ชำระหนี้เงินต้นทั้งหมด จำนวนเงินที่ต้องชำระ ก่อนวันที่ 5
กรกฎาคม
ของปีที่ครบกำหนด
3.
ผู้กู้ยืมจะต้องชำระหนี้งวดแรกก่อนวันที่
5 กรกฎาคม
ของปีที่ครบกำหนดชำระหนี้ สามารถชำระทีเดียวทั้งหมดโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหรือ
ผ่อนชำระเป็นงวดได้แต่ต้องไม่เกิน
15 ปี และเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1
ของต้นเงินที่ค้างชำระ
4.
หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ภายในวันที่
5 กรกฎาคม ของทุกปี ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ ทางกองทุนจะเรียกเบี้ยปรับในจำนวนที่ค้างชำระในอัตราร้อยละ 12
หรือ ร้อยละ 18
ต่อปี
ดังนั้น สมาชิกท่านนี้ผิดนัดชำระหนี้กองทุน ฯ
เงินที่คุณชำระไปอาจเป็นเบี้ยปรับตาม ป.พ.พ.มาตรา 379
ซึ่งเบี้ยปรับถ้าสูงเกิน ศาลสามารถลดให้ได้
ตาม ป.พ.พ.มาตรา
383 จึงไม่น่าจะเป็นการเรียกดอกเบี้ยทบต้นตามที่สมาชิกท่านนี้เข้าใจครับ
ตอนนี้ก็คงจะมีสมาชิกหลายท่านที่ได้รับหนังสือทวงถามจากกองทุน
ฯ ให้ชำระเงินคืนแก่กองทุน
ทนายคลายทุกข์จึงขอฝากสมาชิกให้ตรวจสอบเอกสารที่ส่งมาก่อนครับว่าเอกสารที่ส่งมานั้นถูกต้องหรือไม่ ส่งมาผิดคนหรือเปล่า
มียอดเงินตรงกับจำนวนเงินที่ได้รับมาหรือไม่
เพราะว่าคนที่จะต้องผิดรับผิดใช้หนี้คืนกองทุนมีจำนวนหลายหมื่นคน อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นตามตัวอย่างที่เป็นข่าวอยู่ก็เป็นได้