งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
มิจฉาชีพในคราบหมอดู
วันนี้ทนายคลายทุกข์ขอนำคดีหมอดูหลอกข่มขืนลูกค้าที่มาใช้บริการ
ทุกวันนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ สังคมขาดที่พึ่ง ทุกคนมีจิตใจอ่อนแอ
หมอดูจึงได้อาศัยสิ่งดังต่อไปนี้อาศัยหากินด้วยตนเอง
-
อาศัยความอ่อนแอทางจิตใจของคนที่มีปัญหาทางครอบครัว
เช่น สามีนอกใจ จึงไปลวนลามหรือคุกคามทางเพศ เช่น กระทำอนาจารหรือข่มขืนกระทำชำเรา
ดังที่เป็นข่าว
-
หลอกลวงเงินทองหรือทรัพย์สินโดยอ้างว่า
ต้องนำเงินดังกล่าวมาใช้ในการสะเดาะเคราะห์จะได้หมดเคราะห์หมดกรรม
ทำให้เหยื่อสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก
-
หลอกลวงให้ทำนิติกรรม เช่น
การซื้อขายหรือโอนทรัพย์สินให้กับหมอดู โดยอ้างว่าเป็นการเสริมดวง
การกระทำในลักษณะนี้ก็พบเห็นบ่อย
-
พูดจาให้เกิดความแตกแยกขึ้นในครอบครัว
เช่น กล่าวหาว่าสามีถูกทำของหรือมีผู้หญิงมาติดพันสามี ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ
กลับไปทะเลาะเบาะแว้งกับสามีถึงขั้นฆ่ากันตายก็มีหรือเลิกรากันไป
ทนายคลายทุกข์ขอให้เพื่อนสมาชิกต้องระมัดระวังพฤติกรรมของมิจฉาชีพในคราบหมอดู
อย่าพึ่งคนอื่น อย่าพึ่งไสยศาสตร์ พึ่งตนเองดีที่สุด
เวลามีความทุกข์อย่าเกี่ยวข้องกับอบายมุขหรือสุรายาเมา รักษาสุขภาพ
ทำให้จิตใจให้สงบ ใช้สมาธิและปัญญาน่าจะดีที่สุด
การข่มขืนกระทำชำเราหญิงที่มิใช่ภรรยาของตนเอง
มาตรา
276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตน
โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิง อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้หญิงเข้าใจผิดว่าตน
เป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่ แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ ปืนหรือวัตถุระเบิด
หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะ เป็นการโทรมหญิง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
เนื้อหาข่าวจากเวปไซด์ไทยรัฐ
เมื่อเวลา
11.00 น. วันที่ 18 ม.ค. พ.ต.ท.วิเศษ ภักดีวุฒิ สารวัตรเวร สภ.เมืองขอนแก่น
ควบคุมตัวนายพิสิษฐ์ อาสาฬหสมบูรณ์
อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 624/4 ถนนหน้าเมือง อ.เมืองขอนแก่น ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น
ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น
พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.เมืองขอนแก่นเปิดเผยถึงคดีที่เกิดขึ้นว่า
เมื่อตอนตี 2 วันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา น.ส.โบว์ (นามสมมติ)
อายุ 22 ปี นักศึกษาสถาบันมีชื่อ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า ถูกนายพิสิษฐ์ อาสาฬหสมบูรณ์ ข่มขืน โดยเล่ารายละเอียดว่า
ได้เช่าหอพักอยู่กับแฟนหนุ่มนักศึกษาด้วยกัน แต่มาระยะหลังฝ่ายชายมีท่าทางผิดปกติพยายามตีตัวออกห่าง
จึงได้สืบหาสาเหตุจนรู้ว่าไปติดพันหญิงอื่น จึงง้อขอให้เลิกติดต่อ แต่ไม่สำเร็จ
ต่อมาเมื่อวันที่
1 ธ.ค.2550 ขณะ น.ส.โบว์ขี่จักรยานยนต์จะไปเรียนหนังสือ
ผ่านหน้าร้านขายอุปกรณ์ ไฟฟ้าในเมือง เห็นป้ายติดข้อความไว้ว่ารับดูดวงและสะเดาะเคราะห์
จึงเข้าไปดูดวง พบนายพิสิษฐ์อ้างเป็นหมอดูพร้อมกับคุยโม้อวดสรรพคุณว่า
มีความสามารถด้านไสยศาสตร์และทำเสน่ห์ สามารถทำให้ผู้ชายคืนดีได้ ด้วยความที่อยากให้แฟนหนุ่มกลับมามีความสัมพันธ์
เหมือนเดิม เลยหลงเชื่อยอมให้นายพิสิษฐ์ทำพิธีให้
นายพิสิษฐ์ให้เข้าไปในห้องนอนในบ้าน แล้วนอนลงกับพื้นและถอดกระดุมเสื้อของ
น.ส.โบว์และเสื้อชั้นใน ออกจนหมดแล้วจับหน้าอก โดยบอกว่าเป็นการทำเสน่ห์
หลังจากนั้นได้นัดให้มาใหม่อีกครั้งในคืนวันที่ 12 ม.ค. เพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์ใหญ่
น.ส.โบว์ได้ไปตามนัด เมื่อไปถึงเจอนายพิสิษฐ์รออยู่หน้าบ้าน และพาเข้าไปในห้องนอน อ้างว่าจะประกอบพิธี แต่กลับถูกปลุกปล้ำ
น.ส.โบว์พยายามต่อสู้ แต่ไม่สามารถสู้แรงของฝ่ายชายได้ เสร็จแล้วนายพิสิษฐ์ยังขู่ไม่ให้แจ้งความ แต่ น.ส.โบว์รีบออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุและเข้าแจ้งความทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนพยานแวดล้อม และรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจนได้รับอนุมัติหมายจับ
และจับกุมนายพิสิษฐ์ผู้ถูกกล่าวหา จากการสอบสวนให้การปฏิเสธ
จะขอให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น และจะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจากเวปไซด์ไทยรัฐ