สัมมนานักทวงหนี้ FCR
เมื่อวานนี้ (20 ตุลาคม พ.ศ. 2550) อ.เดชา กิตติวิทยานันท์
ได้รับเชิญไปบรรยายกฎหมายเกี่ยวกับการทวงหนี้และการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ว่าแนวโน้มจะมีกฎหมายที่เรียกว่า
พ.ร.บ. ว่าด้วยการติดตามหนี้ด้วยความเป็นธรรมออกมาบังคับใช้รวมทั้งอธิบายถึงกฎกติกามารยาทในการทวงหนี้ให้กับ
บริษัทเทรดคอลเลคชั่น จำกัด
ซึ่งมีพนักงานทวงหนี้ทั้งสิ้นประมาณ 500 คนเศษ
โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนารวม 270 คน มีทั้งผู้บริหารของ CITILOAN
และของ บ.เทรด คอลเลคชั่น จำกัด
ทนายคลายทุกข์ขอหยิบยกเรื่องที่น่าสนใจมาฝากเพื่อนสมาชิกดังนี้
พ.ร.บ. ว่าด้วยการติดตามหนี้ด้วยความเป็นธรรมยังไม่เกิดขึ้นและยังไม่มีผลใช้บังคับ
แต่มีกลุ่มชมรมบางชมรมที่ชักชวนคนชักดาบได้กระจายข่าวว่ามีการออกกฎหมายมาบังคับใช้แล้วและอ้างว่า
กฎหมาย ดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้ว่า ถ้าไม่มีความประสงค์ที่จะใช้หนี้
ให้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรส่งกลับไปยังเจ้าหนี้
เจ้านี้หมดสิทธิทวงหนี้อีกต่อไป ส่งผลให้ลูกหนี้บัตรเครดิต และบัตรเงินด่วน
ไม่ยอมชำระหนี้กันเป็นจำนวนมาก
และนอกจากนี้ยังมีการให้คำแนะนำให้หยุดชำระหนี้และให้ไปชำระหนี้ในชั้นศาล
จะได้รับประโยชน์มากกว่า ทนายคลายทุกข์ขอเรียนให้ทุกท่านทราบเกี่ยวกับกฎหมายการทวงหนี้และการประนอมหนี้ดังนี้
1.) การเจรจาหนี้กับเจ้าหนี้ก่อนฟ้องศาลย่อมดีกว่าการไม่เจรจาในชั้นศาล
เนื่องจากยังไม่มีการดำเนินคดีไม่มีค่าทนายความ หรือค่าธรรมเนียมศาลและไม่เสียหน้า
2.) การต่อรองในชั้นทวงหนี้และในชั้น
ศาลลูกหนี้มีสิทธิเสนอเงื่อนไขได้เหมือนกันไม่ต่างกัน
3.) การรักษาเครดิตของตัวเองดีกว่าการปล่อยให้เครดิตตัวเอง
กลายเป็นหนี้เสีย? อย่าลืมว่าคนเรามีโอกาสขึ้นและลง
ในอนาคตถ้าจะขอสินเชื่อของประชาชนเจ้าหนี้ยังให้โอกาสลูกหนี้
4.) ถ้าไม่พอใจการทวงหนี้
ให้ร้องเรียนเจ้าหนี้หรือร้องเรียนทนายคลายทุกข์จะเจรจาให้กฎหมายยังเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทำได้และเจ้าหนี้ต้องแก้ปัญหาโดยทันทีอยู่แล้ว
อย่าเอาปัญหาการทวงหนี้กับเรื่องค้างชำระหนี้มาปนกัน
จะเป็นผลเสียต่อลูกหนี้มากกว่า
5.) หากลูกหนี้ทุกคนชักดาบเกี่ยวกับบัตรเครดิตและบัตรเงินด่วน
ประเทศชาติพังแน่ เพราะมีมูลค่าหนี้สูงมาก
และในอนาคตเข้าถึงสินเชื่อของประชาชนจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เนื่องจากสถาบันการเงินมีต้นทุนทางการเงินสูง และมีความเสี่ยงในการถูกเบี้ยว
ในวันสัมมนา FCR
(นักทวงหนี้ภาคสนาม) ได้เล่าให้ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์ ฟังว่าพวกเขาไม่เคยใช้วิธีการทวงนี้ที่ผิดกฎหมาย
ในทางกลับกัน กลับถูกลูกหนี้เล่นงาน เช่น
หลอกให้เข้าไปในบ้านและแจ้งตำรวจจับข้อหาบุกรุก, ถูกไล่ยิง
หรือแม้กระทั่งถูกทำร้ายร่างกาย
อยากให้สังคมเข้าใจคนทวงหนี้ด้วย
การทวงหนี้คืออาชีพสุจริตอาชีพหนึ่งที่ถูกกฎหมาย เสียภาษีให้รัฐเหมือนประชาชนทุกคน
การทวงหนี้เป็นสิทธิโดยสุจริตของเจ้าหนี้ หวังว่าลูกหนี้คงจะเข้าใจและให้อภัย
ต่างคนต่างมีบทบาท แตกต่างกันในสังคม ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันโดยสงบสุข การเจรจาดีกว่า การท้าทาย
ภาพบรรยากาศการสัมมนานักทวงหนี้