อ.เดชา? อบรมนักทวงหนี้
??????????? เมื่อวานนี้
เวลา 17.00-21.00 น.?
อ.เดชาได้รับเชิญจากกรรมการผู้จัดการใหญ่? บริษัท สยามวรินทร์? นิติการ? จำกัด? โดยนายพีระ? วัชรินทร์เสวี? ให้ไปถ่ายทอดประสบการณ์ ?ให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย? อบรมกิริยามารยาทและคุณธรรมในการทวงหนี้ให้กับนักทวงหนี้บัตรเครดิตและบัตรเงินด่วน?
ผู้เข้าอบรมเป็นหัวหน้าหน่วยทวงหนี้ประมาณ? 40?
คน? จากนักทวงหนี้ทั้งหมดประมาณ? 300?
คน?
โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
1.? บริษัทแห่งนี้เน้นเรื่องคุณธรรมเป็นเรื่องสำคัญที่สุด? การทวงหนี้ต้องไม่ใช้วิธีการรุนแรงต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและศีลธรรมอันดี? ห้ามข่มขู่? ประจานลูกหนี้? ออกโนติสแบบเลียนแบบหมายศาล
??????????? 2.? นักทวงหนี้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของผู้ให้บริการบัตรเครดิตและบัตรเงินด่วนโดยเคร่งครัด
??????????? 3.? จะไม่มีการนำความลับของเจ้าของบัตรไปเผยแพร่กับบุคคลที่สาม
??????????? 4.? มีการเชิญวิทยากรทางด้านกฎหมายและด้านอื่น
ๆ มาอบรมพนักงานอยู่อย่างสม่ำเสมอ?
เพื่อพัฒนาบุคลากร
??????????? ในการสัมมนาเมื่อวานนี้?
อ.เดชาได้ถ่ายทอดประสบการณ์หลายเรื่องให้กับนักทวงหนี้ผู้เข้ารับการอบรม? โดยเน้นให้นักทวงหนี้ ยึดหลักดังต่อไปนี้
1.? เมตตาธรรม? การทวงหนี้ต้องอยู่บนหลักคิดที่ว่า? ?ไม่มีใครต้องการที่จะเบี้ยวหนี้?
การติดขัดหรือผิดนัดเนื่องมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาครอบครัวเป็นหลัก? นักทวงหนี้ต้องเข้าใจปัญหาของลูกหนี้ก่อน?
ลูกหนี้จึงจะให้ความร่วมมือในการชำระหนี้คืน
??????????? 2.?
อย่ามองลูกหนี้เป็นศัตรูและพูดจาต้องสุภาพ? หลีกเลี่ยงการพูดจาเสียดสี? ท้าตี? ท้าต่อย? ท้ารบ? ไม่เกิดประโยชน์ต่อนักทวงหนี้? และไม่ได้รับความร่วมมือจากลูกหนี้
??????????? 3.? ถ้าโทรทวงหนี้ถ้าลูกหนี้รับสายและด่าคนทวงหนี้? ให้อดทนตั้งใจฟัง? รอลูกหนี้ด่าจบก่อน? แล้วค่อยเริ่มเสนอเงื่อนไข อย่าใจร้อนหรือวางสายทิ้งจะเสียสิทธิในการเจรจากับลูกหนี้
??????????? 4.? ถ้าเป็นลูกหนี้หัวหมอ?
ให้ตั้งใจฟังและให้สอบถามว่า?
ทำไมถึงมีความคิดแบบนั้น?
เช่น?
ใครแนะนำให้เหตุผลว่าอย่างไร?
เพราะการท้าให้ฟ้องจะมีผลร้ายต่อลูกหนี้? เช่น? ความรับผิดทางกฎหมาย? ค่าฤชาธรรมเนียมศาล? ค่าทนายความ? เสียประวัติทางการเงิน? เสียเวลา? อับอายขายหน้า? ถ้าต้องไปปรากฏต่อหน้าศาลในฐานะจำเลย? มีคนรับรู้หรือเพื่อนฝูงไปพบเห็นที่ศาลจะไม่เป็นผลดีต่อลูกหนี้?
ถ้าลูกหนี้ต้องการเจรจาหนี้? สามารถเจรจาได้ในตอนนี้ไม่ต้องรอไปเจรจาในชั้นศาล? อยากเสนอเงื่อนไขอย่างไรให้เสนอมาได้เลย? นักทวงหนี้ต้องอธิบายให้ลูกหนี้เข้าใจ ???ตามที่ผมเรียนมาข้างต้น? อย่าไปสวนกลับ? เช่น? กูฟ้องมึงแน่!??
มึงเตรียมรอรับหมายศาลได้เลย? เป็นต้น ไม่เกิดประโยชน์?
เกิดแต่อารมณ์เท่านั้น
??????????? 5.?
การควบคุมอารมณ์ เช่น?
ลูกหนี้โกหกหรือเลื่อนวันนัดชำระหนี้บ่อยครั้ง? หรือชอบวางสายทิ้งหรืออ้างว่าติดธุระอยู่? เช่น? อ้างว่าติดประชุม? กำลังยุ่ง? ไม่สะดวกคุย? หรือลูกหนี้โกหกต่าง ๆ นานา? ว่าได้ชำระแล้ว? หรือกำลังไปโอนเงินให้อยู่? อย่าโกรธ? เพราะถ้าโกรธและใช้อารมณ์? นักทวงหนี้ก็จะหมดสิทธ์ในการเจรจากับลูกหนี้อีกต่อไป? การควบคุมอารมณ์จึงเป็นหัวใจสำคัญของนักทวงหนี้ ?หากควบคุมอารมณ์ไม่ได้ควรเลิกอาชีพนี้จะดีกว่า
??????????? 6.?
อย่าเอาตัวบทกฎหมายมาข่มขู่ลูกหนี้? เช่น? ไม่จ่ายเดี๋ยวจะนำตำรวจไปจับถึงบ้าน? คดีฉ้อโกง??? ยักยอกทรัพย์? หรือขู่ว่าจะยึดทรัพย์? หรือขู่ว่าจะอายัดเงินเดือน? หรือขู่ว่าจะร้องเรียนผู้บังคับบัญชา?
ถ้าจะขู่โดยอ้างว่าจะใช้สิทธิตามกฎหมาย? จะต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ? ชี้แจงถึงผลทางกฎหมายที่ลูกหนี้อาจจะได้รับเมื่อถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย? โดยการอ้างตัวบทกฎหมายให้ชัดเจน? เช่น? ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย , ป.อาญา, วิ.แพ่ง, วิ.อาญา? เป็นต้น
เพื่อให้ลูกหนี้ได้สามารถตรวจสอบหรือศึกษากฎหมายดังกล่าวว่ามีอยู่จริงหรือไม่? เนื่องจากในยุคนี้ลูกหนี้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ลึกมาก?
จึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการการดำเนินคดีในชั้นศาลเป็นอย่างดี ?ถ้าไปโกหกลูกหนี้? และลูกหนี้จับได้ว่า? นักทวงหนี้โกหก? ก็จะไม่ไว้ใจและไม่ยอมเจรจาชำระหนี้กับเจ้าหนี้
??????????? 7.? ในกรณีทวงหนี้ผิดคนหรือมีข้อขัดแย้งกับลูกหนี้? เช่น? ยอดหนี้ไม่ตรงกัน?
หรือลูกหนี้ไม่พอใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการทวงหนี้ของนักทวงหนี้คนก่อน?
ต้องรีบขอโทษและให้ผู้บังคับบัญชาโทรไปเคลียร์กับลูกหนี้? หลังจากนั้นจึงจะเริ่มเจรจาหนี้อีกครั้งหนึ่ง
??????????? 8.?
การทวงหนี้กับบุคคลภายนอก? เช่น? ญาติพี่น้อง? หรือบุคคลใกล้ชิดของลูกหนี้? เป็นเรื่องละเอียดอ่อน? เพราะอาจมีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและมีความผิดทางกฎหมาย? เช่น? หมิ่นประมาท? ความผิดลหุโทษ? หรือกรรโชกทรัพย์?
ดังนั้นเมื่อติดต่อกับบุคคลที่สามจะต้องใช้ถ้อยคำที่สุภาพ? จะปฏิบัติเหมือนเป็นลูกหนี้ไม่ได้
?
ต้องพูดในลักษณะปรึกษาหารือหรือสอบถามเกี่ยวกับตัวลูกหนี้? ว่ามีปัญหาอย่างไรจึงไม่ยอมชำระหนี้? และขอความเห็นใจ? ให้ช่วยติดต่อลูกหนี้กลับมาเจรจาหนี้? สิทธิของนักทวงหนี้สามารถติดต่อกับบุคคลใกล้ชิดของลูกหนี้ได้?
เนื่องจากลูกหนี้ให้ชื่อและที่อยู่ไว้ในขณะสมัครเป็นสมาชิกบัตรหรือบางครั้งเป็นญาติสนิท? เช่นพ่อแม่? นักทวงหนี้มีสิทธิติดต่อขอความร่วมมือได้แต่ต้องสุภาพ
??????????? 9.? ถ้าลูกหนี้ต่อว่าเกี่ยวกับเรื่องส่งจดหมายไปรบกวนบ่อยครั้ง? จะต้องอธิบายให้ลูกหนี้ฟังว่า? เป็นผลดีต่อลูกหนี้? ถ้ายังมีจดหมายทวงหนี้อยู่แสดงว่าเจ้าหนี้ยังไม่มีความคิดที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย? อยู่ในช่วงให้โอกาสลูกหนี้
??????????? 10.? นักทวงหนี้มีเป็นจำนวนมาก
(OA)? ประมาณ 200? บริษัทที่รับงานจากสถาบันการเงินและ Non Bank? แต่ถูกกระแสสังคม? และกฎกติกาเล่นงานเหลือเพียงประมาณ? 50?
บริษัท ?ดังนั้นนับแต่วันนี้เป็นต้นไป? บริษัททวงหนี้ถูกกระแสสังคม Monitor?
ตรวจสอบอย่างรุนแรงและจริงจัง?
นักทวงหนี้จะอยู่รอดจะต้องมีคุณธรรมและมีผลงานในการทวงหนี้??? ซึ่งเป็นเรื่องยาก? ดังนั้น? บริษัททวงหนี้จะต้องพัฒนาบุคลากรให้เข้าถึงหลักเกณฑ์ที่สังคมรับได้? มิฉะนั้นจะต้องล่มสลาย
??????????? 11.?
การตั้งชมรมนักทวงหนี้ขึ้นมาตอบโต้ลูกหนี้? เป็นความคิดที่ผิด? และจะต้องถูกสังคมประณามซ้ำอีก? ดังนั้นหากมีการรวมตัวกัน?
การนำเสนอภาพลักษณ์ต่อสังคมจะต้องไม่สื่อออกมาในลักษณะเช่น?
จับผิดลูกหนี้หรือให้ลูกหนี้หาหลักฐาน? เช่น? จับผิดลูกหนี้? หรือให้ลูกหนี้หาหลักฐานมาว่า? บริษัทใดทวงหนี้ในเวลาตีหนึ่งตีสอง? หรือพูดจาหยาบคาย? หรือให้ลูกหนี้นำหมายเลขโทรศัพท์หรือชื่อของคนทวงหนี้?
มายืนยันผู้ทำผิดกฎหมาย?
และอย่าพูดจาดูถูกลูกหนี้?
ควรยอมรับความจริงว่ามีการขมขู่ลูกหนี้จริง
การกระทำดังกล่าวสังคมมองว่า? นักทวงหนี้ขาดสำนึกสาธารณะ? วิธีการที่ถูกต้องจะต้องยอมรับว่า? นักทวงหนี้มีหลายพันคนและหลายบริษัท? มีทั้งคนดีและคนเลว?
วิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและตกเป็นข่าว? น่าเชื่อว่าเป็นความจริง? และน่าเชื่อว่ายังมีอยู่? และขอโทษแทนนักทวงหนี้ทุกคน?
จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและลงโทษต่อไป? สังคมจะให้โอกาสบริษัททวงหนี้ถ้ามีความสำนึกยอมรับผิดในการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย
??????????? 12.? สังคมประณามบริษัททวงหนี้?
มิได้เกิดจากลูกหนี้แต่เกิดจากพฤติกรรมของนักทวงหนี้ที่ขาดคุณธรรมบางคน? บางบริษัท? มองค่าคอมมิชชั่นเป็นหลัก? โดยขาดความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
??????????? 13.? ความถี่ในการทวงหนี้ต่อวัน? เช่น? โทรวันละ 5 ครั้ง,10 ครั้ง, 20? ครั้ง? จะถือว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือไม่? ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นรายไป? และดูว่าถูกกาลเทศะหรือไม่? ถ้าพอสมควรแก่เหตุถือว่า? ทวงหนี้โดยสุจริต
??????????? 14.? การทวงหนี้ไปยังที่ทำงานและมีการทวงหนี้กับเพื่อนร่วมงานของลูกหนี้? ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ?หากจะคุยกับเพื่อนของลูกหนี้? ?ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม? ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพ?
หากใส่ความจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาททันที? ให้ระมัดระวังเรื่องนี้? มีคนร้องเรียนมาก
??????????? 15.? นักทวงหนี้ต้องยึดกรอบจริยธรรมตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย? ฉบับลงวันที่ 2? มิถุนายน? 2548? และ?
24? มิถุนายน? 2548? มีผลบังคับใช้ตั้งแต่? 1?
กรกฎาคม 2548? เป็นต้นไป? หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินบริษัทบัตรเครดิตและเงินด่วนเลิกสัญญาการว่าจ้างทวงหนี้ทันที
??????????? 16.? นักทวงหนี้อย่านำเรื่องเครดิตบูโรไปข่มขู่ลูกหนี้?
การกระทำดังกล่าวอาจถูกร้องเรียนได้ว่า? การนำเครดิตบูโรเป็นเครื่องมือในการข่มขู่ลูกหนี้? ควรจะใช้ลักษณะของการชี้แจงว่า? ช่วงนี้เป็นช่วงสุดท้ายในการเจรจาหนี้? หากตกลงกันได้จะยังไม่มีการส่งข้อมูลไปยังเครดิตบูโร? เพื่อชักจูงให้ลูกหนี้รีบตัดสินในชำระหนี้
??????????? ภาพบรรยากาศของการสัมมนา? เทคนิคการทวงหนี้ให้กับนักทวงหนี้? ปรากฏตามข้างล่างนี้