การหลีกเลี่ยงภาษีและการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว
ปัจจุบันหญิงไทยนิยมมีสามีเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ดและหลายจังหวัดทางภาคอีสาน เช่น อุดรธานี ขอนแก่น พบว่ามีหญิงไทยได้สามีเป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะยุโรป อเมริกา ทำให้มีฐานะทางการเงินดีขึ้นเพราะสามีชาวต่างชาติได้ยกทรัพย์สิน เงินทอง บ้าน ที่ดิน ให้กับหญิงไทย เฉลี่ยคนละหลายล้านบาทซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับหญิงไทยที่จะทำให้มีฐานะทางการเงินและมีชีวิตที่ดีขึ้น การที่สามีชาวต่างชาติแต่งงานกับหญิงไทยตามประเพณีและมีการยกบ้านพร้อมที่ดินให้กับหญิงไทยเพื่อเป็นการตอบแทนการจดทะเบียนสมรส ถ้าเป็นการแสดงเจตนากันตามปกตินิติกรรมก็สมบูรณ์ ถือว่าทรัพย์สินนั้นตกเป็นของของหญิงโดยชอบแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะโอนบ้านพร้อมที่ดินให้หญิงก่อนที่จะมีการจดทะเบียนสมรส จึงเป็นสินส่วนตัวของหญิงโดยชอบด้วยกฎหมายไม่สามารถมาเพิกถอนการโอนได้ในภายหลัง แต่ปัจจุบันมีหญิงไทยบางคนร่วมกับผู้รู้ทางกฎหมาย เช่น บริษัทนายหน้าต่างๆ เปิดอยู่ตามกรุงเทพมหานคร เมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ บริษัทที่ให้คำแนะนำทางกฎหมายเหล่านี้ ได้ร่วมมือกับพวกนายหน้าให้คำปรึกษากฎหมายในลักษณะละเมิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ เช่น แนะนำให้ชาวต่างชาติตั้งบริษัทขึ้นในประเทศไทย ถือครองทรัพย์สินแทนคนต่างด้าว เป็นต้น หรือไม่ก็และให้มีการโอนใส่ชื่อหญิงไทยซึ่งมิใช่ภริยาแต่อ้างว่าเป็นสามีภริยากันให้ถือกรรมสิทธ์แทนไว้ และในวันที่มีการใส่ชื่อหญิงไทยซึ่งมิใช่ภริยาที่แท้จริง ก็จะมีการจดทะเบียนการเช่าเป็นเวลา 30 ปีไว้อีก 1 ฉบับ แต่ไม่มีการชำระค่าเช่า รวมทั้งการโอนที่ดินก็ทำเป็นสัญญาซื้อขายแทนที่จะทำเป็นสัญญายกให้ และไม่มีการชำระราคา หลังจากนั้นก็มีการนำเอาที่ดินและบ้านไปให้บุคคลอื่นเช่า ต่อมาก็มีการผิดนัดกัน ไม่รักษาคำมั่นสัญญาก็ต้องไปฟ้องร้องกันในชั้นศาล ซึ่งสุดท้ายศาลก็ได้มีคำพิพากษาว่า การถือครองที่ดินดังกล่าวเป็นการถือครองแทนเท่านั้น ต้องคืนที่ดินให้กับคนต่างด้าวไป แล้วต้องนำไปขายทอดตลาดตามกฏหมายต่อไป
ตัวอย่างคดีคือที่ขึ้นสู่ศาลฎีกา
คำพิพากษาฎีกาที่ 11724 / 2557 (อ้างอิงที่มาของคำพิพากษาฎีกา หนังสือคำพิพากษาฎีกาเล่มที่ 6 พ.ศ. 2557ของศาลฎีกา)
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นของโจทก์ การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวให้บริษัท ช. จดทะเบียนโอนขายที่ดินและบ้านพิพาทให้จำเลยโดยไม่มีการชำระราคาจริง เจตนาเพื่อการหลบเลี่ยงภาษีเท่านั้น มิได้มีเจตนายกที่ดินและบ้านพิพาทให้แก่จำเลยจริง แม้จำเลยมีชื่อเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านพิพาทก็เป็นเพียงการถือครองแทนคนต่างด้าว ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์
จำเลยถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านพิพาทแทนโจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าว แม้บ้านพิพาทที่มิใช่ที่ดินตามบทนิยาม ป.ที่ดิน มาตรา 1 แต่บ้านพิพาทเป็นส่วนควบของที่ดินพิพาท เมื่อการได้มาที่พิพาทของโจทก์ไม่เข้าเงื่อนไข การได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าวตามที่กำหนดไว้ในหมวด 8 แห่ง ป.ที่ดิน ต้องจำหน่ายที่ดินพิพาทตาม ป.ที่ดิน มาตรา 94 ประกอบมาตรา 86 แล้วนำเงินชำระให้แก่โจทก์ จึงเห็นควรจะให้จำหน่ายบ้านพิพาทไปพร้อมที่ดินพิพาทเพื่อมิให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 155 การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นโมฆะ แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริต และต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นมิได้
ถ้าการแสดงเจตนาลวงตามวรรคหนึ่งทำขึ้นเพื่ออำพรางนิติกรรมอื่น ให้นำบทบัญญัติของกฎหมายอันเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอำพรางมาใช้บังคับ
ประมวลกฎหมายที่ดิน
มาตรา 86 คนต่างด้าวจะได้มาซึ่งที่ดินก็โดยอาศัยบทสนธิสัญญาซึ่งบัญญัติให้มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ได้ และอยู่ในบังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ด้วย
ภายใต้บังคับมาตรา 84 คนต่างด้าวดังกล่าวจะได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ประกอบกิจการในทางพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การสุสาน การกุศลสาธารณะ หรือการศาสนา ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและวิธีการซึ่งกำหนดโดยกฎกระทรวงและต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี
มาตรา 94 บรรดาที่ดินที่คนต่างด้าวได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ได้รับอนุญาต ให้คนต่างด้าวนั้นจัดการจำหน่ายภายในเวลาที่อธิบดีกำหนดให้ ซึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี ถ้าไม่จำหน่ายที่ดินภายในเวลาที่กำหนด ให้อธิบดีมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น และให้นำบทบัญญัติเรื่องการบังคับจำหน่ายที่ดินตามความในหมวด 3 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สุดท้ายนี้ ขอเตือนหญิงไทยที่จะมีสามีต่างชาติ ควรตกลงเรื่องทรัพย์สินกับสามีต่างชาติให้ชัดเจน ก่อนจดทะเบียนสมรสถ้าเขารักเราจริง ต้องโอนที่ดินพร้อมบ้านให้เราก่อนที่จะจดทะเบียนสมรสนะครับจะได้เป็นสินส่วนตัวของเราคนเดียว