ลูกจ้างเก็บขยะของนายจ้างไปขายและไม่นำเงินที่ได้ส่งเป็นรายได้ของนายจ้าง เลิกจ้างได้|ลูกจ้างเก็บขยะของนายจ้างไปขายและไม่นำเงินที่ได้ส่งเป็นรายได้ของนายจ้าง เลิกจ้างได้

ลูกจ้างเก็บขยะของนายจ้างไปขายและไม่นำเงินที่ได้ส่งเป็นรายได้ของนายจ้าง เลิกจ้างได้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ลูกจ้างเก็บขยะของนายจ้างไปขายและไม่นำเงินที่ได้ส่งเป็นรายได้ของนายจ้าง เลิกจ้างได้

ลูกจ้างเก็บขยะของนายจ้างไปขายและไม่นำเงินที่ได้ส่งเป็นรายได้ของนายจ้าง เลิกจ้างได้

บทความวันที่ 22 มี.ค. 2558, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1249 ครั้ง


ลูกจ้างเก็บขยะของนายจ้างไปขายและไม่นำเงินที่ได้ส่งเป็นรายได้ของนายจ้าง เลิกจ้างได้  ไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2426/2557
            จำเลยให้การแก้ข้อกล่าวหาของโจทก์พร้อมฟ้องแย้ง โดยในส่วนฟ้องแย้งจำเลยบรรยายสภาพข้อกล่าวหาว่าโจทก์ใช้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยคัดแยกขยะของจำเลยไปขายแล้วนำเงินที่ได้ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต เป็นการกระทำให้จำเลยได้รับความเสียหายต้องขาดรายได้เป็นเงิน 615,000 บาท ขอให้ยกฟ้องโจทก์ และในส่วนฟ้องแย้งจำเลยมีคำขอบังคับให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหาย 615,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี อันเป็นการฟ้องที่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาของจำเลย  และคำขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 แล้ว โดยคำขอบังคับของฟ้องแย้งไม่จำต้องระบุคำว่า "คำขอท้ายคำฟ้องคดีแรงงาน" ก็เป็นการฟ้องแย้งที่ชอบด้วยกฎหมาย
           การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมกับการจ่ายค่าชดเชยเป็นคนละกรณีและบทบัญญัติของกฎหมายบัญญัติต่างหากจากกัน โดยลูกจ้างจะได้ค่าชดเชยหรือไม่   พิจารณาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 118 และมาตรา 119 ส่วนการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมพิจารณาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 49 การที่จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ จึงมิใช่ข้อเท็จจริงที่จะรับฟังเป็นยุติว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
           โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิด เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม จำเลยให้การถึงสาเหตุหนึ่งที่เลิกจ้างโจทก์จากโจทก์ใช้คนงานเก็บขยะและวัสดุเหลือใช้ของจำเลยไปขายให้บุคคลภายนอกแล้วไม่นำเงินที่ได้ส่งเป็นรายได้ของจำเลย  อันเป็นการทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย จึงขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเกี่ยวกับฟ้องเดิม ทั้งมีคำขอให้บังคับตามฟ้องแย้ง  ฟ้องแย้งของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา 177 วรรคสาม ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก