การแจ้งข้อมูลเครดิตอันเป็นเท็จมีความผิด|การแจ้งข้อมูลเครดิตอันเป็นเท็จมีความผิด

การแจ้งข้อมูลเครดิตอันเป็นเท็จมีความผิด

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

การแจ้งข้อมูลเครดิตอันเป็นเท็จมีความผิด

ข้อมูลเครดิตแห่งชาติเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

บทความวันที่ 15 ม.ค. 2558, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1309 ครั้ง


การแจ้งข้อมูลเครดิตอันเป็นเท็จมีความผิด

           ข้อมูลเครดิตแห่งชาติเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ดังนั้น ถ้าสถาบันการเงินได้ส่งข้อมูลอันเป็นเท็จ เช่น แจ้งว่ายังเป็นหนี้อยู่ หรือมีหนี้เสีย ก็จะมีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยแล้วว่า การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้ค้างชำระที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการกระทำละเมิด ตามคำพิพากษาศาลฎีกาข้างล่างนี้ และยังต้องรับผิดทางอาญาอีกส่วนหนึ่งด้วย
คำพิพากษาฎีกาที่ 14228/2555
          จำเลยไม่ใช่สถาบันการเงินตามกฎหมาย ขณะทำสัญญายังไม่มีประกาศกระทรวงการคลังและประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน จำเลยจึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยเกินอัตราฯมาตรา 3 ข้อตกลงเกี่ยวกับผลประโยชน์จากการกู้ยืมส่วนที่ถือเป็นดอกเบี้ยทั้งหมดจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 150
          เมื่อโจทก์ชำระหนี้ให้จำเลยครบถ้วนแล้ว การที่จำเลยแจ้งข้อมูลแก่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ว่า โจทก์ยังเป็นหนี้จำเลยอยู่ จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์และทำให้สถาบันการเงินที่ให้กู้ดอกเบี้ยต่ำปฏิเสธไม่ให้โจทก์กู้เงิน ทำให้โจทก์ต้องกู้เงินนอกระบบสถาบันการเงิน แต่ค่าเสียหายอันเป็นผลต่างดอกเบี้ยระหว่างการขอสินเชื่อจากธนาคารกับการขอกู้เงินจาก พ. ที่โจทก์เรียกมา มิใช่ค่าเสียหายโดยตรงจากการที่จำเลยแจ้งข้อมูลแก่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด แต่เป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษในกรณีที่ไม่ชำระหนี้ ซึ่งจะต้องเป็นเรื่องที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวล่วงหน้าก่อนแล้ว โจทก์จึงไม่อาจเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษนี้ได้
          การคิดดอกเบี้ยจากหนี้เงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง ให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อไป จะเรียกดอกเบี้ยได้สูงกว่านั้น ก็ต่อเมื่อมีเหตุอย่างอื่นอันชอบด้วยกฎหมาย เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าโจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีได้ตามที่โจทก์ขอมา ศาลจึงไม่กำหนดให้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 150
การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็นการพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ
มาตรา 222  การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น
           เจ้าหนี้จะเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ แม้กระทั่งเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ หากว่าคู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว
มาตรา 420  ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
มาตรา 654  ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปี ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละสิบห้าต่อปี
พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545
มาตรา 3
  ในพระราชบัญญัตินี้
           “สมาชิก” หมายความว่า สถาบันการเงินที่บริษัทข้อมูลเครดิตรับเข้าเป็นสมาชิก
มาตรา 19  สมาชิกมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
           (2) ส่งข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ ถ้ารู้ว่ามีความไม่ถูกต้อง สมาชิกต้องแก้ไขและจัดส่งข้อมูลที่ถูกต้องให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิต
มาตรา 25  เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าของข้อมูล ให้เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
           (1) สิทธิที่จะรับรู้ว่าบริษัทข้อมูลเครดิตเก็บรักษาข้อมูลใดของตน
           (2) สิทธิที่จะตรวจสอบข้อมูลของตน
           (3) สิทธิที่จะขอแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
           (4) สิทธิที่จะโต้แย้งเมื่อทราบว่าข้อมูลของตนไม่ถูกต้อง
           (5) สิทธิที่จะได้รับแจ้งผลการตรวจสอบข้อมูลของตนภายในระยะเวลาที่กำหนด
           (6) สิทธิที่จะได้รับทราบเหตุแห่งการปฏิเสธคำขอสินเชื่อหรือบริการจากสถาบันการเงิน ในกรณีที่สถาบันการเงินใช้ข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตมาเป็นเหตุแห่งการปฏิเสธคำขอสินเชื่อหรือบริการ
           (7) สิทธิที่จะอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการตามมาตรา 27
            เจ้าของข้อมูลอาจเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบข้อมูลตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด  ทั้งนี้ไม่เกินสองร้อยบาท
มาตรา 43  ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 9 มาตรา 14 หรือมาตรา 15 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก