ให้ออกจากงานก่อนสัญญาครบปี แต่ยังไม่คืนเงินประกัน
ดิฉันและพี่สาวได้เริ่มทำงานในคลินิกเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ 3 ก.พ.57 และได้ถูกหักเงินประกันไปคนละ 4,000 บาท แต่เมื่อ ต.ค.57 ที่ผ่านมา คุณหมอเจ้าของคลินิกได้เรียกดิฉันและพี่สาวเข้าพบว่าจะทำงานต่อที่คลินิกหรือไม่ พี่สาวของดิฉันตัดสินว่าจะทำต่อจนครบปีก็คือ ถึงสิ้นเดือน ก.พ.58 ถึงจะลาออก แต่คุณหมอเจ้าของคลินิกแจ้งว่าให้อยู่ช่วยแค่เดือน พ.ย.57 นี้ก็พอเพื่อที่จะหาเจ้าหน้าที่มาใหม่ แล้วก็จะคืนเงินประกันให้ด้วย แต่จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่ได้เงินประกันคืน คุณหมออ้างว่าต้องตรวจสอบว่ามีสิ่งใดเสียหายบ้าง ถ้าไม่มีถึงจะคืนเงินให้ แต่ปกติแล้วถ้ามีสิ่งของหรือทรัพย์สินเสียหาย ก็จะถูกหักเวินเดือนของเดือนนั้นๆอยุ่แล้วค่ะ ถ้าในกรณีนี้เราสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้างไหมค่ะ
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
กรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับเงินเป็นหลักประกันจากลูกจ้าง เมื่อนายจ้างเลิกจ้างหรือลูกจ้างลาออก ตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 มาตรา 10 วรรคสอง กำหนดให้นายจ้างคืนหลักประกันพร้อมดอกเบี้ยถ้ามี ให้แก่ลูกจ้างภายใน 7 วัน นับแต่วันที่นายจ้างหรือวันที่ลูกจ้างลาออกแล้วแต่กรณี ทั้งนี้หากนายจ้างจงใจไม่คืน เงินประกันดังกล่าวโดยปราศจากเหตุผลอันสมควรเมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว นายจ้างต้องเสียเงินเพิ่มให้แก่ลูกจ้างร้อยละ 15 ของเงินที่ค้างจ่ายทุกระยะเวลา 7 วัน ตามมาตรา 9 วรรคสองด้วย
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
มาตรา 9 ในกรณีที่นายจ้างไม่คืนหลักประกันที่เป็นเงินตามมาตรา 10 วรรคสอง หรือไม่จ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดภายในเวลาที่กำหนดตามมาตรา 70 หรือค่าชดเชยตามมาตรา 118 ค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือค่าชดเชยพิเศษตามมาตรา 120 มาตรา 121 และมาตรา 122 ให้นายจ้างเสียดอกเบี้ยให้แก่ลูกจ้างในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละสิบห้าต่อปี
ในกรณีที่นายจ้างจงใจไม่คืนหรือไม่จ่ายเงินตามวรรคหนึ่งโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เมื่อพ้นกำหนดเวลาเจ็ดวันนับแต่วันที่ถึงกำหนดคืนหรือจ่าย ให้นายจ้างเสียเงินเพิ่มให้แก่ลูกจ้างร้อยละสิบห้าของเงินที่ค้างจ่ายทุกระยะเวลาเจ็ดวัน
ในกรณีที่นายจ้างพร้อมที่จะคืนหรือจ่ายเงินตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง และได้นำเงินไปมอบไว้แก่อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเพื่อจ่ายให้แก่ลูกจ้าง นายจ้างไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่นายจ้างนำเงินนั้นไปมอบไว้
มาตรา 10 ภายใต้บังคับมาตรา 51 วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้นายจ้างเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเงิน ทรัพย์สินอื่นหรือการค้ำประกันด้วยบุคคลจากลูกจ้าง เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานที่ทำนั้นลูกจ้างต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้ ทั้งนี้ ลักษณะหรือสภาพของงานที่ให้เรียกหรือรับหลักประกันจากลูกจ้าง ตลอดจนประเภทของหลักประกัน จำนวนมูลค่าของหลักประกัน และวิธีการเก็บรักษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ในกรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับหลักประกัน หรือทำสัญญาประกันกับลูกจ้างเพื่อชดใช้ความเสียหายที่ลูกจ้างเป็นผู้กระทำ เมื่อนายจ้างเลิกจ้าง หรือลูกจ้างลาออกหรือสัญญาประกันสิ้นอายุ ให้นายจ้างคืนหลักประกันพร้อมดอกเบี้ย ถ้ามี ให้แก่ลูกจ้างภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่นายจ้างเลิกจ้างหรือวันที่ลูกจ้างลาออก หรือวันที่สัญญาประกันสิ้นอายุ แล้วแต่กรณี