เป็นเพื่อนผู้เสียหายชาวต่างชาติ สามารถเป็นล่ามให้เพื่อนได้
มีท่านผู้อ่านสอบถามมาเกี่ยวกับการเป็นล่ามให้เพื่อนชาวต่างชาติ สามารถทำได้หรือไม่ ทนายคลายทุกข์ไปศึกษาเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลฎีกามานำเสนอว่า ไม่มีกฎหมายกำหนดห้ามมิให้เพื่อนของผู้เสียหายเป็นล่ามแปลเอกสารภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าในชั้นสอบสวนหรือชั้นศาล ดังนั้น หากเพื่อนชาวต่างชาติของท่าน จำเป็นจะต้องไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ท่านเป็นคนไทยสามารถช่วยเพื่อนเป็นล่ามแปลคำร้องทุกข์หรือคำให้การต่อพนักงานสอบสวนได้ (อ้างอิง ฎ.1760/2532, ฎ.757/2545)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง
1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1760/2532
แม้คำร้องทุกข์และคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายคนหนึ่งจะมีผู้เสียหายอีกคนหนึ่งเป็นล่ามแปล ก็เป็นคำร้องทุกข์และคำให้การที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามมิให้พนักงานสอบสวนใช้ผู้เสียหายเป็นล่าม
2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2545
การสืบพยานผู้เสียหายไว้ก่อนเพราะจะต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรอันยากแก่การนำมาสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 237 ทวิ นั้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา 172 วรรคสอง เพราะมิใช่การพิจารณาหลังฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งศาลชั้นต้นจะต้องอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังและถามว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่ จะให้การต่อสู้คดีอย่างไรบ้าง ส่วนการสืบพยานผู้เสียหายก่อนฟ้องคดีแม้จะมีการพิมพ์ข้อความแทรกระหว่างบรรทัดในรายงานกระบวนพิจารณาว่า"ก่อนสืบพยานได้สอบถามผู้ต้องหาแล้วแถลงว่าไม่ต้องการทนายความ"แต่จำเลยก็มิได้ยืนยันว่า ศาลชั้นต้นไม่ได้ถามจำเลยว่ามีทนายความหรือไม่ แต่กลับบอกว่าจำไม่ได้ว่าศาลถามหรือไม่ จึงต้องฟังว่าศาลชั้นต้นได้ถามจำเลยในเรื่องทนายความแล้ว การสืบพยานผู้เสียหายก่อนฟ้องคดีต่อศาลจึงเป็นไปโดยชอบ
การที่โจทก์จัดให้ อ. เพื่อนผู้เสียหายซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุและทางราชการมิได้รับรองการเป็นล่าม ให้เป็นล่ามการสืบพยานผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 237 ทวิ นั้นไม่มีกฎหมายใดห้ามมิให้เป็นล่ามไว้ ทั้งจำเลยก็มิได้คัดค้านล่ามดังกล่าวไว้ในการสืบพยาน การเบิกความของผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวต่างประเทศและไม่เข้าใจภาษาไทยจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 46 วรรคสี่ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 แล้ว
(ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ศาลฎีกา)