ข้อสำคัญในคดีเพื่อจะดำเนินคดีข้อหาฟ้องเท็จกับเบิกความเท็จนั้นต่างกัน|ข้อสำคัญในคดีเพื่อจะดำเนินคดีข้อหาฟ้องเท็จกับเบิกความเท็จนั้นต่างกัน

ข้อสำคัญในคดีเพื่อจะดำเนินคดีข้อหาฟ้องเท็จกับเบิกความเท็จนั้นต่างกัน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ข้อสำคัญในคดีเพื่อจะดำเนินคดีข้อหาฟ้องเท็จกับเบิกความเท็จนั้นต่างกัน

ท่านผู้อ่านสอบถามเกี่ยวกับข้อสำคัญในคดีระหว่างฟ้องเท็จกับเบิกความเท็จว่าต่างกันได้ไหม

บทความวันที่ 17 มิ.ย. 2556, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 3089 ครั้ง


ข้อสำคัญในคดีเพื่อจะดำเนินคดีข้อหาฟ้องเท็จกับเบิกความเท็จนั้นต่างกัน


           ท่านผู้อ่านสอบถามเกี่ยวกับข้อสำคัญในคดีระหว่างฟ้องเท็จกับเบิกความเท็จว่าต่างกันได้ไหม  ทนายคลายทุกข์ขอเรียนว่า ต่างกันได้ครับ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาข้างล่างนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2522
           ความเท็จที่นำไปฟ้อง อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 นั้น ต้องเป็นความเท็จในเรื่องที่เป็นองค์ประกอบของการกระทำความผิดอาญา เมื่อจำเลยได้ฟ้องโจทก์ในคดีก่อนกล่าวหาว่าโจทก์ออกเช็คและธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน องค์ประกอบของการกระทำที่จำเลยฟ้องโจทก์ คือการที่โจทก์ออกเช็คและธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น การที่โจทก์หรือผู้หนึ่งผู้ใดนำเอาเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็ค มิใช่เป็นองค์ประกอบในการกระทำความผิดที่จำเลยฟ้อง ดังนั้นการที่จำเลยกล่าวในฟ้องว่าจำเลยนำเช็คไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็ค แม้จะไม่เป็นความจริง จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานฟ้องเท็จ แต่ในข้อหาฐานเบิกความเท็จนั้นในเรื่องที่ว่าผู้ใดนำเช็คเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้นย่อมเป็นข้อสำคัญในคดี เพราะผู้นำเช็คไปเข้าบัญชีย่อมเป็นผู้ทรง เมื่อธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็ค ผู้นั้นย่อมเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องผู้ออกเช็คได้ฉะนั้น เมื่อจำเลยเบิกความอันเป็นเท็จว่าเป็นผู้นำเช็คเข้าบัญชี ซึ่งความจริงจำเลยได้ขายลดเช็คนั้นไปแล้วจำเลยย่อมมีความผิดฐานเบิกความเท็จได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2522(ฉบับเต็ม)
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก