กฎหมายแรงงาน
ดิฉันได้ทำการยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษร ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 56 เพราะอยากเปลี่ยนงานและทำงานมาจนถึง วันที่ 17 ก.พ. 56 เนื่องจากกำหนดการจ่ายเงินเดือน คือวันที่ 20 ก.พ. 56 อยากถามว่า ดิฉันจะมีสิทธิได้รับเงินเดือนในส่วนที่ตนได้ทำงานไปแล้วหรือไม่ กล่าวคือ จะได้รับเงินเดือนจนถึงวันที่ตนปฏิบัติงานให้กับบริษัทวันสุดท้ายหรือไม่ เนื่องจากเจ้าของบริษัทแห่งนี้ระบุว่า ถ้าดิฉันไม่เข้าไปเคลียร์งานให้ นายจ้างจะไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้ในส่วนที่ดิฉันได้ทำงานไปแล้ว และหากงานไม่สำเร็จเป็นที่พอใจของนายจ้างแล้วนั้นนายจ้างถึงจะยอมจ่ายเงินเดือนให้ จึงอยากถามว่าเมื่อเรายื่นใบลาออก ถือว่าพ้นสภาพการเป็นพนักงานแล้ว แต่นายจ้างยังคงใช้อำนาจสั่งการให้ข้าพเจ้าเข้าไปทำงาน และหากงานสำเร็จแล้วจึงจะได้รับเงินเดือนส่วนที่คั่งค้าง จึงอยากถามว่า การกระทำดังกล่าวของนายจ้างถูกต้องหรือไม่ ตาม พรบ. คุ้มครองแรงงาน
ตอนท้ายนี้นายจ้างได้พูดว่า ถ้าดิฉันไม่ยอมทำตามเงื่อนไขดังกล่าว ทางนายจ้างจะนำเงินไปฝากไว้ที่กรมแรงงานแล้วก็จะฟ้องบอกว่า จะฟ้องร้องดิฉันด้วยว่าทำให้บริษัทสูญเสีย ซึ่งดิฉันไม่เข้าใจว่าตัวดิฉันเองก็เป็นแค่พนักงานตำแหน่งเล็กๆ คนหนึ่งเงินเดือนก็แค่น้อยนิด แต่ทำไมนายจ้างจะต้องบังคับให้ดิฉันทำตามคำสั่งในเมื่อดิฉันลาออกตามที่กฎหมายกำหนดล่วงหน้า 30 วัน ตอนนี้ดิฉันกำลังเดือดร้อนมากอยากรับกวนผู้ที่มีความรู้เรื่องกฎหมายช่วยดิฉันด้วย ทำยังไงดีเงินเดือนไม่ออกไปทำที่ใหม่ก็ไม่มีเงินไปทำงานแล้วค่ะ
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามจำนวนที่จะต้องจ่ายจนถึงวันสุดท้ายที่ลูกจ้างทำงานอันเป็นเวลาเลิกสัญญาจ้างตามกำหนดที่ลูกจ้างบอกกล่าวล่วงหน้านั้น ถ้าและนายจ้างไม่จ่ายลูกจ้างมีสิทธิฟ้องนายจ้างต่อศาลแรงงานหรือยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องที่ที่ลูกจ้างทำงานอยู่เพื่อทำการสอบสวนและมีคำสั่งแก่นายจ้างต่อไป