ลูกชาย กับลูกสะใภ้ อายุ17,16ปี โดนจับคดีร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและยานพาหนะ ต้อนนี้อยู่ที่สถานพินิจ ตั้งแต่ 28 ก.ย. 55
ดิฉันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจยื่นไปกันไป3รอบแล้วยังไม่ได้ วันที่ 12/12 นี้จะไปรับผลัดฟ้องครั้งที่4แล้ว ใช้ทนายของทางศาลอยู่ เหตุการณ์คือเด็กๆขี่รถไปกับเพื่อน เพื่อนในกลุ่มอายุ
20 ปี 3-4 คน จอดรถชกผู้เสียหาย ลูกชายกับเพื่อนและแฟนเขาก็วกรถกลับมาที่เกิดเหตุ แล้วลงไปแยกผู้เสียหายกับผู้ลงมือโดยไม่รู้ว่าเพื่อนไปเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายมา ลูกชายก็ขี่รถกลับบ้านตามปกติ ตกกลางคืนของอีกวัน ตำรวจมาจับที่บ้านแม่แฟน โดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ทีห้องพักเพราะพ่อ-แม่แฟนกลับบ้านตจว.เลยให้เด็กทั้ง2คนอยู่เฝ้าห้อง ซึ่งโดยปกติเด็กทั้งสองทำงานและพักอยู่กับดิฉันที่จ.นนทบุรี ดิฉันติดต่อลูกทุกวันแต่ตอนที่ลูกโดนจับตำรวจยึดโทรศัพย์ไป ดิฉันติดต่อไปก็ตัดสายทิ้ง แล้วปิดเครื่อง มารู้อีกทีก็คืนวันอาทิตย์(ลูกโดนจับคืนวันศุกร์)ตอนตี2 โดยดิฉันติดต่อทางแม่ฝ่ายหญิงว่าสงสัยลูกจะเกิดเรื่องเพราะติดต่อลูกไม่ได้ ลูกชายไม่เคยตัดสายดิฉันทิ้ง ทางแม่ฝ่ายหญิงกลับมาถึงห้อง คนข้างห้องถึงบอกว่ามีคนมาจับตัวลูกๆไป ดิฉันต้องตามหาทุกโรงพักถึงรู้ว่าลูกโดนส่งไปสถานพินิจแล้ว เด็กที่โดนจับโดยไม่ได้ลงมือด้วยมีทั้งหมด 4 คน ตอนนี้ดิฉัน
ก็ได้แต่บอกลูกๆ ให้พูดความจริง แต่เด็กๆบอกว่า เขาให้รับสารภาพจะได้ตัดสินเร็วๆๆ โทษจะได้ไม่หนัก วันที่21/12 นี้คนที่ลงมือปล้นที่อายุ21 ปีจะตัดสินแล้วแฟนเขามาบอก
แฟนคนที่ลงมือปล้นก็อยู่ในเหตุการณ์แต่โดนกันเป็นพยาน แลกกับการพาตำรวจมาจับลูกๆดิฉัน ( ตัวผู้หญิงเขาบอกเอง)แต่เคยถามผู้เสียหายเขาบอกจำได้แต่คนที่ชกเขาซึ่งก็ไม่ใช่ลูกชาย ตอนนี้คนที่ลงมือปล้นอีกคนหลบหนีอยู่ ดิฉันควรทำอย่างดีค่ะ เด็กๆเขากลัวมาก ( พวกเด็ก4คนนี้ตรวจปัสวะปกติ แต่คนลงมือตรวจเจอสารเสพติด ) ค่าทนายจะแพงหรือเปล่าค่ะดิฉันและแม่ของเด็กๆก็ไม่ค่อยมีเงิน ไม่มีหลักทรัพย์ไปประกันลูกเยอะขนาดนั้น ต้องไปเยี่ยมอาทิตย์เว้นอาทิตย์เพื่อประหยัดเงิน ดิฉันเกรงใจแฟนใหม่เขาเป็นคนหาเงิน แต่เขาก็ให้ดิฉันหาทางช่วยลูก เขาก็รักเด็กทั้งสอง