คือ เมื่อปี 2548 ผมเคยโดยคดีหนีทหาร(ไม่ได้ไปรายงานตัวในวันที่คัดเลือก) โดนฟ้อง ศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี หลังศาลพิพากษาคดีแล้วผมได้ผ่อนผันจนถึง ปี 2550 (ติดเรียน) และปี 2551 ผมเข้ารับการคัดเลือกเข้ารับราชการทหารเรียบร้อยแล้ว ผมมีปัญหาปรึกษาดังนี้ครับ
ผมจะไปสมัครสอบ ตชด. และในคุณสมบัติผู้สมัครสอบทั่วไปมีดังนี้ครับ ผมขอกล่าวเฉพาะข้อที่ทางคณะกรรมการบอกว่าผมไม่ผ่านนะครับ
ข้อ 3 เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติริย์ทรงเป็นประมุข
ข้อ 7 ไม่เป็นผู้ประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
ข้อ 9 ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
* สำหรับข้อ 9 นั้น ทางคณะกรรมการตีความว่าผมติดคุกแล้ว แต่ผมอ้างถึง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2497 ศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก แต่ให้รอการลงโทษจำเลยไว้ ไม่ถือว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน แม้จำเลยจะกระทำความผิดอีกในระหว่างที่ศาลรอการลงโทษ ศาลก็รอการลงโทษอีกได้ ศาลฎีกาได้เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว มีใจความสำคัญว่า" ที่ว่า เคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกนั้น หมายถึง ต้องถึงกับถูกจำคุกจริงๆ ในเรือนจำ " จึง ทำให้ผมไม่ขัดต่อคุณสมบัติข้อนี้
แต่ทางคณะกรรมการกลับอ้างข้อ 3 และข้อ 7 ผมอยากปรึกษาว่าเกี่ยวข้องกับประวัติที่ผมมีหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
และขอปรึกษาอีกข้อครับ ผมไม่ทราบว่าคดีของผมนั้นจะทำให้มีประวัติที่ กองประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ครับ ?
ขอบคุณครับ
สุรพจน์