ความคิดเห็นที่ 2

ขอบคุณมากค่ะ ที่กรุณาตอบคำปรึกษา

ขอคำปรึกษา ..กรณีการกันส่วนค่ะ

1. หากแม่ต้องการที่ดิน ไม่ต้องการขายทอดตลาดที่ดิน. เพราะเป็นที่ผืนเดียวที่มีอยู่  จึงเลือกที่ดินไว้ ค่ะ   แต่ว่า ที่ดินร่วมนี้ยังไม่แบ่งแยกส่วนกันกับน้า.   มีแต่เป็นการทำมาหากินจัดส่วนที่ดินของแม่ คือ ปลูกบ้าน ขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ ต้นมะม่วง ต้นกฤษณากว่า18 ไร่ เป็นที่ทั้งหมดคือ18ไร่ รูปธรรมมานานกว่า30ปีก่อนที่จะมีการฟ้องบีงคับคดีนี้ค่ะ. ซึ่งน้าไม่ได้มาทำประโยชน์ใดๆกับที่ดินผืนนี้เล . มีแต่แม่ทำกินที่ดินนี้ฝ่ายเดียว   น้าจะมาเซ็นร่วมครั้งหนึ่งตอนที่แม่กู้ยืมเงินธกสเมืีอหลายปีก่อนแค่นั้น เป็นอย่างนี้แล้ว จะสามารถกันที่ดินทั้งแปลงได้หรือไม่คะ    

2. แม่จะปักเขตรั้วแดนที่แม่ทำประโยชนในที่ดินเพื่อแสดงว่า จัดส่วนที่ดินไว้นี้มานานแล้ว ร และน้าไม่เคยทำประโยชนอะไรเลย ซึ่งที่ดินกรรมสิทธิร่วมนี้ ญาติพี่น้องของแม่ทราบกันหมดว่าเป็นที่ดินของแม่  น้าเพียงแต่มีชื่อร่วมเฉย . ทุกคนทราบดี    ไม่ได้มีเอกสารตกลงสัดส่วน มีแต่ทำรูปธรรมมานาน30ปี จะเป็นหลักแสดงกันส่วนที่ดินได้หรือไม่คะ

โดยคุณ ดีต่อใจ 5 พ.ย. 2560, 12:29

ความคิดเห็นที่ 1

การเช่าซื้อ

1. เรื่องถึงฟ้องยึดที่ดินแล้ว. หากเจอรถแล้วแต่น้ายืนกรานไม่ให้รถคืน จะมีผลอย่างไรคะ

ตอบ...รถเป็นของไฟแนนซ์  ถ้าผิดนัด  เมื่อบอกเลิกสัญญาฯ ไฟแนนซ์สามารถยึดไปได้  จะไม่ให้ยึดคงทำไม่ได้  อาจถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์  เว้นแต่ไฟแนนซ์ ไม่ต้องการยึด แต่ฟ้องให้ใช้หนี้ที่ค้างทั้งหมดก็ได้..

2.แจ้งไฟแนนซ์แล้วว่ารถอยู่ไหนให้ไปเอารถคืน แล้วไฟแนนซ์ไม่ไปเอา ควรทำอะไรต่อไปได้บ้างคะ

ตอบ...ตามข้อ 1  ถ้ามีการฟ้อง  ก็คงมีการบังคับคดี  ไฟแนนซ์ สามารถยึดที่ดิน ที่เป็นกรรมสิทธิ์รวม ระหว่างแม่และน้าได้  แม่ต้องร้องร้องขอกันส่วน ตาม ป.วิแพ่ง ม.322 เช่นถ้าขายที่ดินได้ สองแสนบาท แม่ขอแบ่งส่วนของแม่ได้ หนึ่งแสนบาท เป็นต้น... หรือแม่วางเงิน เพื่อใช้หนี้ทั้งหมด  เพื่อให้งดการบังคับคดี ตาม ป.วิแพ่ง ม.292(5) และไปเรียกร้องจากน้า ในภายหลัง..

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 4 พ.ย. 2560, 04:08