WebBoard :กฎหมาย|โดนหมิ่นประมาท และพูดดูถูกเหยียดหยามในหน้าที่การงาน

โดนหมิ่นประมาท และพูดดูถูกเหยียดหยามในหน้าที่การงาน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

โดนหมิ่นประมาท และพูดดูถูกเหยียดหยามในหน้าที่การงาน

  • 1456
  • 2
  • post on 2 ก.ย. 2560, 15:30

               ดิฉันมีตำแหน่ง ผู้บริหาร (ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย) ได้ถูกแม่ของนักศึกษาร้องเรียนว่าประพฤติไม่ชอบ ด้วยการรับเงิน 300 บาทจากนักศึกษา กศน. ซึ่งเรื่องจริงคือ

               ปีการศึกษาที่แล้วมีนักศึกษา กศน.ที่ไม่ทำกิจกรรม กพช. (การพัฒนาทักษะอาชีพ) บางคน ส่งผลให้ทาง กศน.ไม่สามารถออกวุฒิการจบการศึกษาได้  ดิฉันในฐานะผู้บริหารได้มารับตำแหน่งปีที่แล้ว และพบว่ามีนักษาบางคนที่ยังค้างไม่จบจากสมัยที่ ผอ.คนเดิมดำรงตำแหน่ง ดิฉันจึงให้ทางครูประจำตำบลได้ลงไปติดตามและติดต่อให้มาทำกิจกรรม กพช.นี้เพื่อให้จะำด้ออกวุฒิ แต่มีบางคนเท่านั้นที่ไม่มาทำ ซึ่งอ้างว่าไม่ว่าง ไม่ก็ติดทำงานที่ กทม. ผลัดไปเรื่อย จนสุดท้ายตัวนักศึกษาคนนนี้มาขอวุฒิเพราะจำเป็นไปสมัครงาน โดยติดต่อและเร่งรัดจะเอาให้ได้ ภายในอาทิตย์นั้น ซึ่งทางหน่วยงานจะจัดกิจกรรม กพช.สุดท้ายให้กลุ่ม นศ.ที่ไม่ได้ทำมาทำในอาทิตย์หน้า แต่ตัว นศ.โวยวายพร้อมทั้งยังนำผู้ปกครองมาเร่งรัด และใช้พูดโดยไร้เหตุผล ไม่ฟังคำอธิบาย ซึ่งจากนั้นดิฉันบอกขอประชุมกับตัวครูทุกตำบลก่อนเพื่อหาทางแก้ปัญหากับเด็กประเภทนี้ โดยครูได้ลงความเห็นว่า เด็กเหล่านี้ไม่มีเวลามาทำ กพช. แต่รีบอยากได้วุฒิ เพื่อให้เท่าเทียมกับผู้ทีมาทำ กพช. ที่ออกแรง (เช่น กิจกรรมทาสี กิจกรรมปลูกไม้ประดับ) ให้พวกเขาออกเงินแทน โดยเมื่อดูจากราคาวัสดุอุปรณ์จริงราคากลาง ที่ต้องนำมาใช้ทำกิจกรรม และมี นศ.ประเภทนี้จำนวนน้อย จึงให้ครูตำบลเก็บพวกเขาคนละ 300 บาท พร้อมมีหลีกฐานยืนยันว่าร่วมออกค่าใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์ทำ กพช. เนื่องจากตนเองไม่สามารถมาทำกิจกรรมได้และมีความไม่สะดวกแต่ต้องการจบ โดยเงินนั้นทางครูตำบลแต่ละตำบลแบ่งจัดสรรไปซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม กพช.อย่างเปิดเผย มียอดเงินชัดเจน ตัวเด็กก็ยินยอมโดยไม่ได้บังคับ และดิฉันไม่ใช้คนเก็บเงินนั้นเองไว้กับตัวแม้แต่น้อย

             ซึ่งตัวแม่เด็กนั้น เป็น อสม.ตำบลหนึ่ง และเขียนคำร้อง โดยทางผู้บังคับบัญชาเรียกมาสอบถามก่อน โดยดิฉันได้เล่าความจริงทั้งหมด พร้อมกล่าวว่า ดิฉันจะเสียงานเสียการ เสียศักดิ์ศรีเพียงเิงน 300 จากเด็กหรือ และมีพยานบุคคล คือ ครู กศน.ตำบลที่ร่วมประชุม และเอกสารหลักฐานที่ทางครูจัดทำจัดเก็บ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาของดิฉันแนะนำให้ไปคุยกับตัวแม่เด็กก่อน และวันนั้นดิฉันพร้อมครู ตำบลจำนวน 5 คนได้ไปพบกับแม่เด็กพร้อมคำอธิบายและพยาน แต่แม่เด็กยังดื้อดึงไร้เหตุผล โดยฟังความเพียงแต่ลูกสาวอย่างเดียว พร้อมนั้นยังหมิ่นดิฉันว่าไม่สมควรปฏิบัติเป็นผู้บริหาร และต้องการให้ย้ายออก ถ้าอยู่คงไม่เจริญ และอีกมากมาย หลักฐานที่ลูกคุณทำ กพช.ก็ไม่มี ซึ่งทางดิฉันและครูต่างส่ายหัวและกลับก่อน ซึ่งตอนนี้ทราบอีกว่าทางแม่เด็กได้อ้างว่าอัดคลิปเสียงตอนสนทนาเรื่องนี้กับดิฉัน ดิฉันได้แต่หายใจออกอย่างแรงเพราะเหตุการณ์นั้นทุกคนนมาพูดคุยกับแม่เด็กคนนี้ด้วยกันทุกคน ไม่ได้อยู่สองต่อสอง หรือมีคำพูดที่ดูเหมือนรับเงินอย่างไม่เปิดเผยแม้แต้น้อย อยากที่ทราบว่า เมื่อทางคณะกรรมการทางสถานศึกษาดิฉันเห็นว่าฉันถูกต้อง และเกิดจากความเข้าใจผิด และถ้าดิฉันต้องการดำเนินการฟ้องตัวแม่เด็กในฐานะเป็นบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขเพราะหมิ่นประมาทและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งตัวฉัน บุคลากร และสถานศึกษา สามารถเอาผิดเจ้าตัวได้ไหมคะ แล้วเอาผิดในทางกฎหมายอย่างไร ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ

โดยคุณ ชนานัญ สุดโต (202.29.xxx.xxx) 2 ก.ย. 2560, 15:30

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 2

 อย่าเลยครับ ผมตัดให้ก็ได้ว่า เรื่องที่เคลียร์เลยไม่ต้องพูดเพราะเป็น โคจร เดิมๆ ปูทาง ขอผู้ใหญ่ที่มีอำนาจกว่า ออกมารับซะ ว่า เคลียร์แล้ว คาก็คาอยู่อย่างนั่นมันจะเสีย ต่างเอาจริงกันทุกคน อาจารย์ก็ทำงานต่อไป เด็กก็ได้เงินคืนไปเสีย คราวหลังคิดปรึกษาตัดใจก่อนด้วย และ ใครจะตายช่างมัน ดูเเลตัวเองทุกคน  ขอบคุณครับ 

โดยคุณ คุณประโชน์ 11 ก.ย. 2560, 09:31

ความคิดเห็นที่ 1

หมิ่นประมาท
 ก็แจ้งความดำเนินคดี ฐานหมิ่นประมาทได้....แต่คุณก็ทำพลาด ที่ให้เด็กจ่ายเงินค่าวัสดุ ย่อมเป็นช่องว่างให้ถูกโจมตีได้ แม้จะมีเหตุผลมารองรับ  แต่น่าจะไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้องตามระเบียบ  เพราะเจตนารมณ์ ของการเรียน คือ ผู้เรียนต้องร่วมกิจกรรมจริง ไม่ใช่เพียงจ่ายเงินก็ผ่าน...ถ้าคุณยึดระเบียบ เมื่อเด็กไม่ร่วมกิจกรรม ก็ยังไม่ผ่าน  ก็ไม่ออกวุฒิบัตรให้ ไม่ต้องไปเสียเวลาชี้แจงอะไรมากมาย...  เมื่อให้จ่ายเงิน จึงเกิดปัญหา งานนี้คุณย่อมเปลืองตัวแน่นอน ถ้าผู้บริหารระดับสูงไม่ช่วยเหลือ คุณตกที่นั่งลำบากแน่นอน..การเป็นผู้บริหารในองค์กร ต้องยึดมั่น ระเบียบอย่างเคร่งครัด และจะตัดสินใจทำอะไรลงไป ต้องมีระเบียบข้องบังคับรองรับชัดเจน ทำไม  มาตกม้าตาย ในเรื่องง่ายๆ ที่ให้เด็กจ่ายเงิน...  เมื่อฟ้องฐานหมิ่นประมาท เขาคงยกเรื่องนี้ขึ้นต่อสู้  คุณย่อมเสียเปรียบ เมื่อเข้าตาจน ลูกน้องของคุณก็คงพูดเสียงเดียวกันว่า  ก็ ผอ. ให้ทำอย่างนี้ ก็ต้องทำ คุณจะต้องโดดเดี่ยว  เว้นแต่เจ้านายจะอุ้มคุณ ด้วยความปรารถนาดี ครับ
โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 3 ก.ย. 2560, 06:02

แสดงความเห็น