ร้องทนาย คดี
นักเรียนตีกันที่อยุธยา
ทนายคลายทุกข์ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายดุสิต
สระชมภู บิดาของนายธนัท สระชมภูนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียน พระโขนงวิทยาลัย อายุ 17 ปี ซึ่งถูกนักเรียนโรงเรียนเพชรราวุธ ร่วมกันประมาณ 10
กว่าคนทำร้ายร่างกายและใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในวันนี้
ปัจจุบันนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ซึ่งผู้เสียหายเป็นลูกของสมาชิกรายการทนายคลายทุกข์
ร้องเรียนว่า เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน โดยนายดุสิตซึ่งเป็นสมาชิกของทนายคลายทุกข์
ร้องเรียนว่า ตัวเองมีอาชีพขับรถตู้ เพิ่งจะทราบว่าลูกชายถูกแทงที่อยุธยา
และเชื่อว่าเด็กที่แทงเป็นลูกทหารอยู่ที่ราบ 11
หลังจากเกิดเหตุภรรยาโทรไปถามร้อยเวรแจ้งว่ามีทั้งพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์และมีดที่ใช้ทำร้ายร่างกายลูกครบถ้วนแต่ยังไม่สามารถรับแจ้งความได้
เนื่องจากเด็กอายุยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์
และหลังจากนั้นได้สอบถามร้อยเวรคนเดิมแจ้งว่า
ไม่มีพยานไม่มีอาวุธมีดเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ได้สอบถามผู้กำกับสภ.พระนครศรีอยุธยา บอกว่าร้อยเวรไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร
แต่ผู้กำกับยังให้ความเป็นธรรมอยู่ อาการของเด็กที่ถูกแทงปลอดภัยแล้วปัจจุบัน
ทนายคลายทุกข์ได้ให้คำแนะนำนายดุสิตซึ่งเป็นพ่อของผู้เสียหายให้รีบดำเนินการดังต่อไปนี้
1.
จดจำหน้านักเรียนที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายลูกตัวเอง
2.
เด็กที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายลูกนายดุสิตมีประมาณ
10 กว่าคน ต้องรีบสอบถามเพื่อนฝูงว่าจำเด็กคนใดได้บ้าง
หากจำไม่ได้และให้การต่อพนักงานสอบสวนจะมีผลเสียต่อรูปคดี และทำให้คนร้ายลอยนวลได้
3.
เด็กที่มีบาดแผลหรือเปื้อนเลือด
มีอยู่แล้ว 1 คน คนนี้พยานหลักฐานค่อยข้างชัดเจนว่าร่วมกันกระทำความผิด
4.
การแทงเข้าไปในบริเวณอวัยวะสำคัญถือว่า
พยายามฆ่า บุคคลที่ร่วมกันถือว่าร่วมกันพยายามฆ่าเช่นเดียวกันถึงแม้จะไม่ได้แทง
5.
ก่อนนำพยานเข้าพบพนักงานสอบสวนควรปรึกษาทนายคลายทุกข์ก่อน
การสอบสวนและการดำเนินคดีอาญาผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชนเป็นไปตามพระราชบัญญัติ
จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ซึ่งมี
สาระสำคัญดังนี้
-
มาตรา 4
เด็ก หมายความว่า
บุคคลอายุเกินเจ็ดปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกินสิบสี่ปีบริบูรณ์
เยาวชน
หมายความว่า บุคคลอายุเกินสิบสี่ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี
บริบูรณ์
-
มาตรา 5 คดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทำความผิดให้ถืออายุเด็กหรือเยาวชน
นั้นในวันที่การกระทำความผิดได้เกิดขึ้น
-
มาตรา 11 ศาลเยาวชนและครอบครัวมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในคดีดังต่อไปนี้
(1)
คดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทำความผิด
-
มาตรา 14
ในระหว่างการพิจารณาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
แม้จำเลยจะมีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์หรือเกินยี่สิบปีบริบูรณ์หรือบรรลุนิติภาวะแล้วด้วยการสมรส
แล้วแต่กรณีให้ศาลนั้นคงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไปจนเสร็จสำนวน
-
มาตรา 49
ห้ามมิให้จับกุมเด็กซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด
เว้นแต่เด็กนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้า
-
มาตรา 50
เมื่อมีการจับกุมเด็กหรือเยาวชนต้องแจ้งผู้อำนวยการสถานพินิจ บิดามารดา
ผู้ปกครองโดยไม่ชักช้า และพนักงานสอบสวนต้องถามปากคำเด็กให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง ผู้อำนวยการสถานพินิจมีอำนาจควบคุมเด็กและเยาวชนและมีอำนาจในการปล่อยตัว
-
มาตรา 51
พนักงานสอบสวนต้องรีบสอบสวนและส่งสำนวนไปยังอัยการฟ้องศาลภายใน 30 วัน ในกรณีมีโทษจำคุกเกิน
5 ปี ศาลมีอำนาจสั่งอนุญาตให้ผลัดฟ้องได้ครั้งละไม่เกิน 15 วัน แต่ทั้งนี้ไม่เกิน
2 ครั้ง
-
มาตรา 53
ห้ามมิให้อัยการฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอัยการสูงสุด