ร่างทรงเป็นความเชื่อหรือหลอกลวง
เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมามีการแจ้งความร่างทรงกับกองปราบว่าหมิ่นสถาบัน หลอกลวงประชาชน ผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามว่า ร่างทรงผิดกฎหมายหรือไม่ ขอตอบเป็นข้อๆ ดังนี้
1.ถ้าร่างทรงไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ แต่ไปโกหกประชาชนว่าเชื่อไสยศาสตร์ และหลอกเอาเงินเอาทอง มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน อ้างอิงฎีกาที่ 219/2531
2.ถ้าร่างทรงเชื่อไสยศาสตร์ เป็นความเชื่อส่วนตัว เป็นสิทธิส่วนบุคคลถึงแม้จะมีคนมาหลงเชื่อก็ไม่เป็นฉ้อโกงประชาชน อ้างอิงฎีกาที่ 1042/2535
3.ร่างทรงอ้างตัวเป็นแพทย์ รักษาคนทั้งที่มิใช่แพทย์ มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน อ้างอิงฎีกาที่ 2593/2521
4.ร่างทรงรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ตัวเองกล่าวอ้างเป็นความเท็จ เช่น อ้างว่ามีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แต่สุดท้ายถูกจับได้ว่าเกิดจากการกระทำของตัวเอง มิได้เกิดจากเจ้าแม่บันดาล จนมีคนหลงเชื่อ ผิดฐานฉ้อโกงประชาชน อ้างอิงฎีกาที่ 557/2502
5.ร่างทรงกล่าวอ้างถึงอดีตพระมหากษัตริย์ซึ่งสวรรคตแล้ว และยังเป็นที่เคารพสักการะรวมทั้งยังมีพิธีรำลึกถึงโดยทางราชการจัดพิธีวางพวงมาลาทุกปี มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นฯพระมหากษัตริย์ อ้างอิงฎีกาที่ 6374/2556
ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ผ่านมา
คำพิพากษาฎีกาที่ 6374/2556
ความหมายของคำว่า “พระมหากษัตริย์” รวมถึงอดีตพระมหากษัตริย์ซึ่สวรรคตด้วย แต่ต้องประกอบข้อเท็จจริงที่ว่ายังมีการเคารพสักการะและยังมีพิธีรำลึกถึงโดยทางราชการจัดพิธีวางพวงมาลาทุกปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2521
ขณะเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี จำเลยได้กล่าวถ้อยคำว่า "เฮ้ยเปิดเพลงอะไรโว้ยฟังไม่รู้เรื่อง" และจำเลยมิได้ยืนตรงเช่นประชาชนคนอื่น การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2503
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4) บัญญัติถึงกรณีที่ว่าได้มีการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม แล้วได้มีการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมในเรื่องนั้นๆ จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะ จำเลยจะยกมาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้นผิดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2354/2531
พระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่พึงเคารพสักการะ อยู่ในฐานะที่จะละเมิดมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2502
จำเลยหลอกลวงแสดงตนว่าเป็นเจ้าแม่ สามารถบันดาลทำให้น้ำในคลองผุดขึ้นมาได้ แต่ความจริงที่ปกปิดไว้คือจำเลยใช้เท้าพุ้ยน้ำให้ผุดขึ้น เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2521
จำเลยที่ 1 มิได้เป็นแพทย์และมิได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลป์ จัดให้มีการโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคหลายชนิดให้หายได้ ประชาชนหลงเชื่อได้พากันไปรับรักษาโรคต่างๆกับจำเลยที่ 1 วันละประมาณ 50-60 คน แต่ไม่หายเพราะจำเลยที่ 1 มิได้รักษาโรคตามวิธีที่ถูกต้อง ในการรักษาดังกล่าวจำเลยคิดค่ารักษาคนละ 59 บาทดังนี้การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน และได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากการหลอกลวง จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2531
จำเลยไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ แต่ได้ขายน้ำมันพรายให้กับผู้เสียหายในราคา 300 บาท อ้างว่าจะช่วยให้ค้าขายดี นอกจากนี้จำเลยยังคอยบอกผู้เสียหายว่าทำผิดผี ต้องทำพิธีไหว้อาจารย์ จนผู้เสียหายยอมมอบเงินและทรัพย์สินอื่นรวมหลายหมื่นบาทให้จำเลยไปเพื่อทำพิธีดังกล่าว การกระทำของจำเลยเป็นการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2539
ความผิดฐานฉ้อโกงผู้กระทำความผิดต้องกระทำโดยการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังกล่าวนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามการที่จำเลยชวนโจทก์ร่วมซื้อคอนโดมิเนียมตึกแถวและที่ดินโดยยืนยันว่าอีก4เดือนจะมีผู้ซื้อต่อการที่จำเลยให้ผู้เสียหายทำพิธีเสริมดวงและเรียกค่าครูโดยยืนยันว่าจะทำให้ดวงดีขายตึกแถวที่ดินได้หรือบุตรจะมีบุญบารมีสูงกว่าบิดามารดาผู้เสียหายกับสามีจะไม่ต้องหย่ากันล้วนเป็นคำยืนยันเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่แน่นอนทั้งสิ้นคำยืนยันดังกล่าวไม่ใช่คำหลอกลวงแต่เป็นคำคาดการณ์ที่โจทก์ร่วมและผู้เสียหายเข้าทำพิธีตามคำแนะนำและเสียค่าใช้จ่ายจึงมิได้เป็นผลจากการหลอกลวงการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
การกล่าวโทษว่าบุคคลใดกระทำผิดกฎหมายจะต้องมีพยานหลักฐานตามสมควร ว่าบุคคลนั้นน่าจะได้กระทำความผิดมิฉะนั้นแล้ว บุคคลที่เสียหายอาจดำเนินคดีกับบุคคลที่กล่าวโทษก็เป็นได้ ต้องติดตามกันต่อไปว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนจะสามารถดำเนินคดีกับพวกร่างทรงทั้งหลายได้หรือไม่ เพราะความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับร่างทรงมีมานานแล้ว ถ้าร่างทรงผิดกฎหมายคนใดคนหนึ่งทุกคนก็ต้องถูกดำเนินคดีหมดทั้งประเทศ
ความเชื่อส่วนบุคคลกับเรื่องหลอกลวงประชาชนเป็นคนละเรื่องกัน อย่าเอามาปนกัน