กล่าวหาตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ|กล่าวหาตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ

กล่าวหาตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

กล่าวหาตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ

  • Defalut Image

กรณีนายเอ็มกล่าวหาตำรวจฝ่ายสืบสวนของสถานีตำรวจนครบาลสายไหม

บทความวันที่ 10 พ.ค. 2561, 13:46

มีผู้อ่านทั้งหมด 564 ครั้ง


กล่าวหาตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ

            กรณีนายเอ็มกล่าวหาตำรวจฝ่ายสืบสวนของสถานีตำรวจนครบาลสายไหม ซ้อมเพื่อให้รับสารภาพคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายตามที่เป็นข่าว ผมอยากให้ความเห็นทางกฎหมายออกเป็น 2 ด้าน
           กรณีแรก ข่าวลือเรื่องการซ้อมผู้ต้องหานั้น มีอยู่จริง และเคยเป็นคดีขึ้นสู่ศาลฎีกาแล้ว  ตำรวจก็ถูกลงโทษไปแล้วก็มีแต่ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนเช่นประจักษ์พยานหรือร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์ประกอบจึงจะรับฟังได้น่าเชื่อถือ
           กรณีที่สอง  เป็นกรณีที่ผู้ต้องหาใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำร้ายร่างกายเพื่อใช้เป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลว่าตัวเองถูกบังคับให้รับสารภาพ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้กระทำความผิดทางอาญาและตำรวจก็ไม่มีพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดได้จึงต้องใช้วิธีการซ้อมเพื่อให้ได้คำรับสารภาพมาพิสูจน์ความผิดของจำเลย ซึ่งกรณีนี้ หากจำเลยไปให้การในชั้นศาลและไม่เป็นความจริงจำเลยก็จะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ ในคดีอาญาและความผิดฐานหมิ่นประมาทไม่มีกฎหมายคุ้มครอง กฎหมายคุ้มครองในฐานะผู้ต้องหาที่ให้การต่อพนักงานสอบสวนเท่านั้น ไม่ต้องหาจะโกหกอย่างไรก็ได้เพราะกฎหมายคุ้มครองถ้าให้การต่อพนักงานสอบสวนในฐานะผู้ต้องหา
            ส่วนการที่ผู้ต้องหาหรือญาติผู้ต้องหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยการโพสต์ทาง Facebook หากเป็นความเท็จก็จะต้องรับผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์มาตรา 14 ต่อไปรวมทั้งอาจจะมีความผิดฐาน ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามมาตรา 136 อีกข้อหาหนึ่งเพราะความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานดูหมิ่นลับหลังก็ได้ไม่จำเป็นต้องดูหมิ่นซึ่งหน้าเหมือนกับเอกชนกับเอกชนดูหมิ่นกัน สอบถามข้อกฎหมาย 081 616 1425 หรือ 02 948 5700

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก