การดำเนินคดีอาญา กับมูลนิธิจริงและมูลนิธิปลอมที่หาประโยชน์จากความทุกข์ยากของประชาชน
1.ถ้าเป็นมูลนิธิปลอม มีโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทและปรับอีกวันละไม่เกินห้าร้อยบาท จนกว่าจะเลิกใช้คำว่ามูลนิธิ ตามพ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับมูลนิธิ
2.นอกจากมูลนิธิปลอมจะถูกดำเนินคดีข้างต้นแล้วยังอาจถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อ. มาตรา 343
3.บุคคลที่ตั้งมูลนิธิปลอมไม่ได้จดทะเบียนโดยทำให้เชื่อว่าเป็นมูลนิธิ มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ. มูลนิธิ มาตรา 61
4.บุคคลใดจดทะเบียนมูลนิธิถูกต้องแต่ไม่ได้ทำตามวัตถุประสงค์ที่จดทะเบียน แต่มุ่งเรียกรับผลประโยชน์หรือเงินจากผู้เดือดร้อนนำมาแบ่งกันมีความผิดตามกฎหมาย ตามมาตรา 66 จำคุกไม่เกินสามปีปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
5.มูลนิธิหรือบุคคลใดมีรายได้ ประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับลงวันที่ 12 ตุลาคม 2535 กำหนดให้มูลนิธิที่ทำการค้าหากำไรที่อยู่ในเกณฑ์ ต้องเสียภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39(3)ดังนั้น มูลนิธิที่รับเงินจากประชาชน ถือว่ามีรายได้ต้องเสียภาษีตามกฎหมายครับ
ทนายคลายทุกข์ยังเป็นช่องทางในการให้ความรุ้เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากมูลนิธิจริงแต่ผิดวัตถุประสงค์ และมุลนิธิปลอมแต่ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นมุลนิธิจริง ให้สอบถามได้ที่นายทะเบียนกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย หรือโทร 1548 ถ้าเห็นว่าดีก็แชร์ไ ป เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของมูลนิธิจริงแต่ผิดวัตถุประสงค์ มูลนิธิปลอมแต่หลอกลวงประชาชน