การร่างฟ้องกรณีคู่ความเป็นสหกรณ์
ทนายความบางท่าน คุ้นเคยแต่การร่างฟ้องแบบนิติบุคคลที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด เป็นโจทก์ฟ้อง แล้วจะนำรูปแบบการร่างฟ้องแบบนั้นไปใช้กับนิติบุคคลที่ถูกจัดตั้งตามกฎหมายอื่นไม่ได้นะครับ อย่างรายนี้โจทก์เป็นสหกรณ์ การร่างฟ้องก็ต้องกลับไปดูกฎหมายสหกรณ์ตาม พรบ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 และข้อบังคับสหกรณ์ของโจทก์ ว่าเขามีข้อกำหนดไว้อย่างไร ไม่อย่างนั้นท่านอาจตกม้าตายได้นะครับ เพราะเป็นเรื่องของอำนาจฟ้อง และคดีแบบนี้ศาลฎีกาท่านเคยได้วินิจฉัยไว้แล้วตามนี้ครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 21166/2556
ตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 50 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้สหกรณ์มีคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ประกอบด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอื่นอีกไม่เกินสิบสี่คนซึ่งที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งจากสมาชิก มาตรา 50 และข้อบังคับของโจทก์ ข้อ 65 วรรคหนึ่ง กำหนดให้คณะกรรมการดำเนินการเป็นผู้ดำเนินกิจการและเป็นผู้แทนโจทก์ในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอกและเพื่อการนี้คณะกรรมการดำเนินการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนหรือผู้จัดการทำการแทนก็ได้ ประกอบกับ พ.ร.บ.สหกรณ์ฯ และข้อบังคับของโจทก์มิได้กำหนดไว้ว่าโจทก์จะดำเนินกิจการใด ๆ ได้ต้องอาศัยความเห็นชอบของคณะกรรมการดำเนินการทุกคน กรณีจึงต้องนำบทบัญญัติทั่วไปเกี่ยวกับนิติบุคคลตาม ป.พ.พ. มาบังคับใช้ ซึ่งตามมาตรา 71 กำหนดให้เป็นไปตามเสียงข้างมากในหมู่ของคณะกรรมการดำเนินการ
คำพิพากษาฎีกาที่ 5856/2555
โจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 51 บัญญัติว่า "ให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินกิจการและเป็นผู้แทนสหกรณ์ในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก เพื่อการนี้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์จะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนหรือผู้จัดการทำการแทนก็ได้" ประกอบกับข้อบังคับของโจทก์ ข้อ 58 (16) ระบุให้คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์มีอำนาจและหน้าที่ให้ฟ้อง ต่อสู้คดี หรือดำเนินคดีเกี่ยวกับกิจการสหกรณ์ฯ ดังนี้ คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ที่เป็นเสียงข้างมาก จึงเป็นผู้แทนโจทก์ที่มีอำนาจฟ้องคดีด้วยตนเองหรือจะมอบหมายให้ผู้หนึ่งผู้ใดฟ้องคดีแทนก็ได้ เมื่อการฟ้องคดีนี้ไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ได้มอบหมายให้ ช. และ ก. ดำเนินคดีแทน แม้ ช. และ ก. จะเป็นกรรมการของโจทก์หรือสมาชิกโจทก์ก็ไม่อาจฟ้องคดีแทนโจทก์และไม่มีอำนาจมอบอำนาจให้ บ. ดำเนินคดีแทนโจทก์ได้ แม้กรรมการของโจทก์คนใดคนหนึ่งจะได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยลำพัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2524
จำเลยให้การว่า ค.จะได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ ฟ้องคดีหรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่รับรอง คำให้การเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับ โจทก์จึงยังมีหน้าที่นำสืบถึง ประเด็นข้อนี้
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 มาตรา 24 บัญญัติให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์จำกัดเป็นผู้ดำเนินการและ เป็นผู้แทนสหกรณ์จำกัดในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก และคณะกรรมการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคน ทำการแทนก็ได้แต่ตามกฎหมายและข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์ มิได้กำหนดไว้ว่าในการดำเนินกิจการต่างๆ คณะกรรมการดังกล่าว จะต้องลงชื่อครบทุกคนหรือไม่เพียงใด จึงต้องนำบทบัญญัติทั่วไป เกี่ยวกับนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 77 กำหนดให้เป็นไปตามเสียงข้างมาก ดังนั้น เมื่อ คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ 6 คนในจำนวน 7 คนได้ลงชื่อ ในหนังสือมอบอำนาจให้ ค.ฟ้องคดี จึงเป็นเสียงข้างมากตามนัย แห่งบทกฎหมายดังกล่าว หนังสือมอบอำนาจของโจทก์จึงสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
ขอบคุณข้อมูลจาก #ทนายสนั่น_จิตสุภาพ