ขอเปลี่ยนนามสกุลบุตร
นางนิตญา เรือนทอง ร้องทุกข์เรื่องไปทำเรื่องขอเปลี่ยนนามสกุลลูกชาย
แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร์ของสำนักงานเขตพญาไท ไม่ทำให้อ้างรอให้เด็กโตก่อน เป็นเหตุให้ขอคำปรึกษาที่ทนายคลายทุกข์
นางนิตญาเล่าว่า ได้อยู่กินกับสามีมาหลายปี ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ในวันลูกเกิดพ่อไปแจ้งเกิดและลงในสูติบัตรให้บุตรใช้นามสกุลของพ่อ อยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งเลิกกับสามี แต่ลูกอยู่ในการปกครองของนางนิตญา
เมื่อลูกเข้าโรงเรียน เวลาที่ต้องทำเรื่องต่าง ๆ
จะมีปัญหาเนื่องจากต้องให้พ่อรับรู้หรือเซ็นเอกสารด้วย
จนทำให้นางนิตญาต้องการต้องการเปลี่ยนนามสกุลให้ลูก ไปติดต่อที่สำนักงานเขต เจ้าหน้าที่บอกว่ารอให้เด็กโตก่อน จึงไม่ทำเรื่องให้ ทั้ง ๆ ที่ลูกอายุ 8 ขวบแล้ว
คำแนะนำ
อาจารย์เดชาจึงทำหนังสือไปถึงนายทะเบียนเพื่อขอเปลี่ยนชื่อสกุลบุตร
ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ละเลยไม่ปฏิบัติจะมีความผิดตาม
ป.พ.พ.1566 และพ.ร.บ.ชื่อสกุล พ.ศ.
2505 มาตรา 12, มาตรา 15, มาตรา 18
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1566
บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของบิดามารดา
อำนาจปกครองอยู่กับบิดาหรือมารดาในกรณีดังต่อไปนี้
(1) มารดาหรือบิดาตาย
(2)
ไม่แน่นอนว่ามารดาหรือบิดามีชีวิตอยู่หรือตาย
(3)
มารดาหรือบิดาถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
(4)
มารดาหรือบิดาต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะจิตฟั่นเฟือน
(5) ศาลสั่งให้อำนาจปกครองอยู่กับบิดาหรือมารดา
(6)
บิดาและมารดาตกลงกันตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ตกลงกันได้
พระราชบัญญัติชื่อสกุล พ.ศ. 2505
มาตรา 12
คู่สมรสมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่ตกลงกัน
หรือต่างฝ่ายต่างใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
การตกลงกันตามวรรคหนึ่ง
จะกระทำเมื่อมีการสมรสหรือในระหว่างสมรสก็ได้
ข้อตกลงตามวรรคหนึ่ง
คู่สมรสจะตกลงเปลี่ยนแปลงภายหลังก็ได้
มาตรา 15
ผู้อุปการะเลี้ยงดูเด็ก หรือเจ้าของสถานพยาบาลสถานสงเคราะห์
หรือสถานอุปการะเลี้ยงดูเด็ก ประสงค์จะจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลของเด็กซึ่งตนอุปการะเลี้ยงดูหรือเด็กแห่งสถานดังกล่าวซึ่งมีสัญชาติไทยแต่ไม่ปรากฏชื่อสกุลใช้ร่วมกันหรือแยกกัน
ให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนท้องที่ที่ผู้อุปการะเลี้ยงดูมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรหรือที่สถานดังกล่าวตั้งอยู่
และให้นำความในวรรคสองและวรรคสามของมาตรา 9 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 18
ในกรณีที่นายทะเบียนสั่งไม่รับจดทะเบียนชื่อสกุล
ผู้ขอจดทะเบียนชื่อสกุลมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบคำสั่งโดยยื่นอุทธรณ์ต่อนายทะเบียนท้องที่คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด