ปัญหาจ้างช่างรับเหมาในการต่อเติมบ้าน
ขอปรึกษาท่านผู้รู้หน่อยนะค่ะ เกี่ยวกับการจ้างช่างมาต่อเติมบ้านไม่ได้ทำสัญญาว่าจ้าง แต่มีการเซ็นรับเงินพร้อมรายละเอียดการต่อเติมบ้านสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับจ้างได้หรือไม่ในกรณีช่างทิ้งงานไปซึ่งงานยังไม่เรียบร้อย แถมยังเก็บเงินเกินไปนั้นเงินส่วนเกินเป็นเงินค่าทำรั้วสแตนเลสและเหล็กดัด ซึ่งช่างอ้างว่าเป็นงานคนละส่วนกับงานต่อเติม แต่เขาก็เป็นเจ้าของร้านสแตนเลส และยังไม่นำมาติดให้แถมงานที่ต่อเติมบ้านก็ยังไม่เสร็จแต่จะมาเก็บเงินงวดสุดท้าย ซึ่งทางเราขอให้เก็บงานให้เรียบร้อยก่อนถึงจะจ่าย ในกรณีเช่นนี้จะต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
กรณีตามปัญหาของท่าน ที่ได้มีกาาจ้างช่างผู้รับเหมามาต่อเติมบ้าน ย่อมเป็นสัญญาจ้างทำของ ซึ่งเป็นสัญญาที่ผู้รับจ้าง ได้ตกลงจะทำการในการต่อเติมบ้านจนสำเร็จให้แก่ท่านซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง และท่านในฐานะผู้ว่าจ้าง ตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการงานที่ทำนั้น ตามความนัยแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 587
และเมื่อปรากฎว่าช่างผู้รับเหมาได้ทิ้งงานไป โดยงานยังไม่แล้วเสร็จเรียบร้อยแถมเขายังเรียกเก็บเงินเกินส่วนไป แต่ยังไม่เท่านั้น เขายังคิดที่จะมาเรียกเก็บเงินงวดสุดท้ายจากท่านอีกในขณะที่งานที่ทำยังไม่สำเร็จตามหน้าที่ของเขาแห่งสัญญาจ้างทำจองที่รับว่าจ้างทำนั้น อันเป็นเรืองที่เขาได้กระทำผิดหน้าที่ตามสัญญาดังกล่าว อันเป็นการรับทำการงานที่ไม่สำเร็จให้เป็นผู้ยุติตามสัญญา ตามกฎหมายแล้วเขาย่อมไม่มีสิทธิที่จะมาขอรับเรียกเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายจากท่าน จนกว่าจะทำการงานให้สำเร็จเรียบร้อยตามสัญญาโดยท่าน ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างคู่สัญญากับเขา ย่อมมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปฏิเสธไม่จ่ายเงินค่างวดงานสุดท้ายนั้นได้ จนกว่าช่วงผู้รับจ้างจะทำการงานที่รับจ้างจนเสณ็จตามงวดที่กำหนดสินจ้างเอาไว้
อนึ่ง โดยพฤติการณ์ที่ช่างผู้รับเหมาได้กระทำการทิ้งงานไป โดยที่การงานที่รับจ้างว่าทำนั้นยังไม่แล้วเสร็ตตามคำประสงค์แห่งสัญญาจ้างทำของอันท่านซึ่งเป็นคู่สัญญาผู้ว่าจ้างได้มั่นหมายประสงค์ไว้ แต่กลับมีการเรียกเก็บเงินเกินส่วนงานที่เขามีสิทธิจะได้ การกระทำของเขาดังกล่าว ย่อมมีความผิดต่อส่วนตัว อันยอมความกันได่ ตามความใน ป.อ. มาตรา 348 โดยท่านในฐานะที่เป็นบุคคลได้รับความเสียหายจากการที่ช่างผู้รับเหมานั้นได้กระทำความผิดอาญาฐานฉ้อโกงดังกล่าว ท่านย่อมเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย ในอันที่จะใช้สิทธิซึ่งตนพึงได้ตามกฎหมาย เพื่อการให้สิทธิแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีอาญาแก่เขาต่อพนักงานสอบสวนได้ โดยอาศัยอำนาจตามความแห่ง ป.วิ.อ. มาตรา 2(4), (7), มาตรา 3 (1) , มาตรา 121 วรรค 2 แต่ท่านจะต้องใช้สิทธิแจ้งความร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือน นับแดต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้น ย่อมเป็นอันขาดอายุความร้องทุกข์ ตามความใน ป.อ. มาตรา 96 และกรณีย่อมส่งผลให้ท่านไม่อาจฟ้องช่างผู้รับเหมาเป็นคดีอาญาต่อศาลอีกต่อไป
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 587 อันว่าจ้างทำของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 96 ภายใต้บังคับมาตรา 95 ในกรณีความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ
มาตรา 348 ความผิดในหมวดนี้ นอกจากความผิดตามมาตรา 343 เป็นความผิดอันยอมความได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้
(4) “ผู้เสียหาย” หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา 4,5 และ 6
(7) “คำร้องทุกข์” หมายความถึงการที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตามซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ
มาตรา 3 บุคคลดั่งระบุในมาตรา 4,5 และ 6 มีอำนาจจัดการต่อไปนี้แทนผู้เสียหายตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ
(1) ร้องทุกข์
มาตรา 121 พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาทั้งปวง
แต่ถ้าเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ห้ามมิให้ทำการสอบสวนเว้นแต่จะมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ